ดาวคณะสุดเฟรนด์ลี่มาเนิ่นนาน แม้มันจะมีสามสาวพี่น้องสายซัพคอยให้คำแนะนำ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพื่อนของมันก็เช่นกัน มีตั้งเยอะตั้งเยอะให้คบ ดันไปคบเพื่อนที่ปาดหน้าบอกรักจูน เพราะความที่มัวลีลาไม่กล้าจีบ ทำให้กายต้องแห้วเรื่อยมาแต่ก็ไม่เคยเลิกรักจูนได้สักที หนังตลกไทย

ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไรใหม่ เรื่องของหนุ่มสาวที่เป็นเพื่อนกัน ชอบกัน แต่ไปๆ มาๆ ก็เป็นได้แค่เพื่อนอยู่นั่น จนวันที่เพื่อนมีแฟน มันมีความไอเดียของ ‘Friend Zone’ ผสมผสานกับ ‘เพื่อนสนิท’

แต่มันเป็นหนังที่เล่าเรื่องของคนคู่เดิมที่เริ่มตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย และยืดยาวจนถึงวัยทำงาน จากรักในช่วงวัยรุ่นที่ยังไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก จนผ่านไปถึงวันที่รู้แล้วว่ารักจริงจัง แต่เหมือนพระเจ้าแกล้งเล่นตลกให้เส้นทางของคนสองคนไม่ได้บรรจบกันสักที คนที่น่าจะใช่ แต่จังหวะมันไม่ได้ ยังไงก็ไม่เคยได้อยู่ในเวลาที่เป็นของกัน

จะว่าไป ‘OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ’ มันก็คือหนังรอมคอมนี่แหละ เรื่องรัก เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ที่ไม่เคยตรงจังหวะกันสักที แต่จังหวะของหนังเรื่องนี้ เดินกระชับ เร็ว และได้จังหวะ ด้วยทั้งเคมีของพระนาง บวกกับตัวสมทบทั้งหลายที่เข้ามาสร้างสีสัน

เอาจริงๆ อาจจะคิดว่ามันก็แค่เรื่องรักหนุ่มสาว แต่ก็อาจพบว่า คนดูแต่ละคนก็อาจมีบางส่วนเสี้ยวของชีวิตที่ต้องพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ อาจเคยแอบรักเพื่อน อาจเคยปากหนักไม่กล้าจีบเลยถูกเพื่อนปาดหน้าคว้าเธอไปครอง

เคยต้องทนดูเธอทะเลาะกับแฟนอย่างเจ็บปวดใจ หรือแม้แต่ทำตัวร้ายๆ อย่างการแย่งแฟนคนอื่นก็อาจเคย หรือประสบการณ์เก่าที่เคยคิดว่าลืมไปนานแล้ว แต่มันกลับถูกกวนให้ลอยขึ้นมาอีกครั้ง ความทรงจำเก่าๆ คนเก่าๆ ที่ถูกเรียกขึ้นมาแทงใจดำกันอีกหน มันต้องมีสักอย่างแหละที่จุกอกจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว รีวิวหนังตลก

ผลงานการกำกับหนังยาวเรื่องแรกของ “พงศ์-ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี” ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการงานโฆษณาและมิวสิควิดีโอดัง ๆ มาหลายชุด การได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นเดบิวต์ด้วยผลงานที่ยังไง ๆ ก็น่าจะแจ้งเกิดได้ไม่ยาก และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เขายังมาวาดลวดลายร่วมดีไซน์เค้าโครงและบทหนังของเรื่องนี้กับทีมมืออาชีพของจีดีเอช ยิ่งทำให้หนังที่ว่าด้วยรักที่ผิดจังหวะไม่หมด กลับเข้าที่เข้าทางได้ด้วยจังหวะที่เหมาะเหม็งอย่างน่าประทับใจ

และพอเราได้ผู้กำกับสายคอมเมอร์เชียลมาออกแบบหนังรักให้จีดีเอชเช่นนั้น แน่นอนว่าเราจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมุมมองโปรดักชั่นที่แปลกตาไปอีกเฉดหนึ่ง อาจจะไม่ได้ฉีกแนวมากมาย แต่มุมภาพ มุมกล้อง และการดีไซน์จังหวะต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้เห็นได้เลยว่ามีการงัดเอาเทคนิคของงานโฆษณากับมิวสิควิดีโอมาใช้ได้เป็นประโยชน์ต่อหนังได้ดี เป็นหนังอีกเรื่องที่มีทั้งแสงและสี รวมทั้งโทนภาพที่กำลังเหมาะเจาะพอดี สื่อถึงโทนอารมณ์ของตัวละครนั้น ๆ ได้ค่อนข้างถึงแก่นไม่เบา

และถึงจะมีบทหนังที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไรนัก แต่จีดีเอชกลับรู้จังหวะของมันดี และรู้วิธีว่าจะดีไซน์ออกมายังให้ถึงแก่น พร้อมกับส่งสารไปถึงหัวใจของคนดู นั่นแหละ..คือความสามารถอันเป็นเลิศของกรรมวิธีทำหนังของค่ายนี้ และเมื่อมาผนวกเข้ากับทีมนักแสดงที่อาจจะเป็นรุ่นนิวเจนไปสักหน่อย แต่ก็ไม่สามารถสมประมาทฝีมือกับความสามารถของพวกเขาได้ดี “สกาย วงศ์รวี” กับ “จูเน่ เพลินพิชญา” กลายเป็นคู่พระนางของหนังที่มีเคมีเข้าตัวแบบลงตัวได้อย่างน่าประหลาดใจจริง

สกาย วงศ์รวี ที่เราเห็นเขาเล่นละครซีรีส์ผ่าน ๆ มาหลายเรื่อง นี่เป็นโอกาสครั้งแรกที่เขาได้โดดขึ้นมาเป็นพระเอกหนัง ที่ยอมรับเลยว่า…ที่แรกก็แอบกังวลว่าเขาจะเล่นได้ถึงหรือไม่ แต่ศิษย์จากชายคาอดีตค่ายนาดาว ย่อมไว้วางในได้เสมอ เพราะผลลัพธ์ปรากฏว่า สกายสามารถประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้บนบ่าและความคิวท์ของเขาได้ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะซีนอารมณ์และซีนความรักต่าง ๆ นั้น ทำออกมาได้ดี นี่ขนาดออกมาจากเด็กหนุ่มที่ชีวิตยังมีประสบความรักที่ไม่มากเท่าไหร่ด้วยซ้ำ

นำแสดงโดย

วงศ์รวี นทีธร (สกาย)

เพลินพิชญา โกมลารชุน (จูเน่)

พชร จิราธิวัฒน์ (พีช)

ทั้ง3สามารถแสดงนำแสดงได้เข้ากับคาแรคเตอร์ของตัวละครมากๆ ทำให้รู้สึกเชื่อว่าสามคนนี้มีตัวตนอยู่จริงๆ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา เพราะแต่ละคนมีความคิดที่ต่างกัน ถึงแม้ความคิดบางอย่างจะขัดใจคนดู แต่ก็อยากให้ลองมองย้อนมาว่า ในชีวิตจริง เราก็ไม่ได้ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องหรือถูกใจคนอื่นเสมอไป โดยเฉพาะเรื่องของ “ความรัก” ก็ไม่มีหลักสูตรตายตัวหรอกนะ หนังตลกต่างชาติ

โดยส่วนตัวคิดว่าจูเน่มีสเน่ห์มากๆ สามารถแสดงบทจูนได้อย่างครบเครื่อง และมีการพัฒนาจากผลงานการแสดงอื่นๆที่ผ่านมา ส่วนสกาย แสดงดีขึ้นเรื่อยๆ สามารถเข้าถึงบทบาทความ cute และบางอารมณ์ที่ดิ่งจนทำอะไรไม่ดี ส่วนพีช ไม่ต้องพูดถึงเรื่องฝีมือการแสดง เพราะแสดงอย่างเป็นธรรมชาติ มีความเท่ คูล เข้ากับบทพีทอย่างพอดิบพอดี

นี้คือหนังจังหวะนรก(ไม่ใช่คำด่านะครับ บอกไว้ก่อน) มาร้อยเรียงให้เป็นมหกรรมยำรวมจังหวะผิดพลาดแบบที่ไม่น่าให้อภัยในชีวิตมนุษย์คนนึงที่มันจะผิดพลาดอะไรได้ทุกรอบขนาดนี้ ‘ถูกที่ ผิดเวลา’ คือคำนิยามที่หนังนำเสนอออกมาได้ชัดเจนที่สุดแต่เพราะแบบนั้นมันจึงสร้างความสนุกและมุกตลกให้เราขำได้ตลอดทั้งเรื่อง

ชอบการปูเนื้อหาของให้รีเลทกับคนดูด้วยช่วงชีวิตของพระเอกและนางเอกตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยลากยาวมาจนถึงวัยทำงานทำให้เราอินตามกับความสัมพันธ์นี้ ที่รอว่าเมื่อไรทั้งสองคนจะลงตัวกันสักที ถ้าบอกว่านี้คือ เพื่อนสนิท เวอร์ชัน 2022 ก็ไม่ผิดเพราะสถานการณ์ปรับเปลี่ยนให้เข้าที่สื่อโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ของคนในยุคนี้

ส่วนตัวละครสมทบทั้งด้านครอบครัว เพื่อนสนิท ยันแฟนแต่ละคนของนางเอก ถือว่ากระจายบทความสำคัญมาผูกโยงให้เข้าเรื่องได้ลงตัว หลายซีนเลือกใช้ตัวละครได้ลงตัวกับสถานการณ์ถูกจังหวะเวลา

หนังสามารถใส่ความเป็น Loser ให้กับตัวละครเรื่องนี้ที่แม้จะดูดีแค่ไหนแต่อีกด้านก็มีข้อเสียในเวลาเดียวกัน ทั้งการปูเรื่องราวของฝั่งพระเอกที่ทั้งบ้านมีแต่พี่สาวกับน้องสาวที่ช่วยซัพพอร์ตและเป็นที่ปรึกษาชีวิตรักของพระเอก ดูเป็นครอบครัวที่มีฐานะ และพระเอกก็ดูไม่มีเรื่องลำบากในชีวิต เว้นแต่ชีวิตรักที่ไม่รอดเอาซะเลย ด้านฝั่งนางเอกที่มีดีคือความสวย น่ารัก แต่ชีวิตก็ถูกรายล้อมด้วยคนที่ไม่ชอบขี้หน้า และคำนินทาต่างๆนานา จนกลายเป็นคนเพื่อน