รีวิว Man Vs. Bee
ชวนดู รีวิว ซีรีส์สุดปั่นจากทาง Netflix อย่าง Man Vs Bee ยอมพังทั้งคฤหาสน์ เพื่อเธอคนเดียว นำแสดงโดย โรวัน แอตคินสัน (Rowan Atkinson) เจ้าของบท Mr.Bean การันตีความฮา
กลับมาเรียกเสียงฮาจากพวกเราอีกครั้งกับดาราเจ้าบทบาทอย่างโรวัน แอตคินสัน (Rowan Atkinson) หรือที่เราจำเขามาในภาพลักษณ์ของ มิสเตอร์บีน (Mr.Bean) ที่มาในคราวนี้มากับซีรีส์เรื่องใหม่ใน Netflix อย่างเรื่อง Man Vs Bee การันตีความฮาในฉบับของพ่อหนุ่มต๋องมิสเตอร์บีน แฝงความเจ้าเล่ห์แบบจอนห์นี่ อิงลิช กลายเป็นคาแรคเตอร์ใหม่ที่ทำเอคนดูต้องเอ็นดูในความพยายามสู้กับผึ้งตัวเดียว
Man Vs Bee (2022) รายการทีวีคอมเมดี้จากอังกฤษ ผลงานการสร้างของ วิลเลียม เดวีส์ และ โรแวน แอตคินสัน ที่พ่วงตำแหน่งนักแสดงนำของเรื่อง สามารถติดตามการต่อสู้สุดฮาของ 2 เผ่าพันธุ์ระหว่าง คน และ ผึ้ง ได้แล้ววันนี้ที่ ดูหนังออนไลน์ฟรี
รีวิว Man Vs. Bee พล็อตเรื่อง
ซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ตอนละ 20 นาที แบบดูยาว ๆ 9 ตอนจบ ที่สามารถดูเพลิน ๆ ไหล ๆ แป๊บเดียวก็จบแล้ว จุดสนใจของเรื่องนี้อยู่ตรงเป็นผลงานที่ห่างหายหน้าจอไปนานของ โรแวน แอตคินสัน (Rowan Atkinson) ที่โด่งดังจากการสวมบท มิสเตอร์บีน (Mr. Bean) ตัวละครตลกท่าทางเล่นหน้าตายอดนิยมจนเป็นไอคอนในระดับโลก ซึ่งผลงานหลัง ๆ ที่เราพอจำได้คือต้องย้อนไปถึงหนังเรื่อง ‘Johnny English Strikes Again’ (2018) กันเลยทีเดียว
และสำหรับโปรเจกต์หวนคืนครั้งนี้เขาจึงเข้าคู่กับมือเขียนบท วิล เดวีส์ (Will Davies) ซึ่งเคยเขียนบทให้แอตคินสันได้หลุดพ้นจากการเป็นคุณบีนมาเป็นสายลับจอห์นนีถึง 3 ภาคมาแล้ว โดยมอบหมายให้ผู้กำกับ เดวิด เคอร์ (David Kerr) ที่ร่วมงานกันใน ‘Johnny English Strikes Again’ มาทำหน้าที่คุมการเล่าเรื่อง
โดยแบ่งออกเป็นตอนละประมาณ 10 นาที เรื่องเริ่มต้นด้วย Trevor (Rowan Atkinson) ไปสมัครงานเป็นพนักงานดูแลบ้าน และได้รับมอบหมายให้ไปดูแลบ้านสุดหรูแห่งหนึ่งเนื่องจากเจ้าของบ้านต้องการไปเที่ยวพักผ่อนหลายวัน โดยนอกจากตัวบ้านแล้วยังมีสุนัขพันธุ์ลาซา แอปโซ นามว่า “Cupcake” ที่ Trevor จะต้องดูแลมันเพิ่มเติมด้วย
แต่ถ้ามันเป็นบ้านธรรมดาคงจะดูจืดชืดไปหน่อย เพราะนอกความหรูหราใหญ่โตแล้ว ภายในบ้านยังมีสิ่งของล้ำค่าอีกมากมาย มีทั้งวัตถุโบราณหายาก, ชิ้นงานศิลปะสุดแพง รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสุดไฮเทค และมันก็ดูเหมือนว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสำหรับการดูแลบ้านหลังดังกล่าวให้สงบเรียบร้อย แต่มันดันมีผึ้งอยู่หนึ่งตัวที่คอยตามมาป่วน Trevor ทำให้เกิดความวุ่นวายตามมาในที่สุด
เหมือนว่าโจทย์ของทีมสร้างคือต้องใช้จุดเด่นในการเล่นตลกแบบแอตคินสัน แต่ต้องสลัดภาพของมิสเตอร์บีนให้ได้ด้วย บทสรุปจึงออกมาที่การสร้างตัวละครใหม่ที่ชื่อ เทรเวอร์ ชายซื่อ ๆ ที่ล้มเหลวในการเป็นผู้นำครอบครัว แต่ได้โอกาสในการกอบกู้ศรัทธาของภรรยาและลูกสาวคืนมา
ด้วยการหางานใหม่เป็นผู้รับดูแลเฝ้าบ้านหรูที่ต้องทำหน้าที่ครั้งแรกให้ลุล่วงให้ได้ มันจึงมีสิ่งที่ต่างจากบุคลิกของพวกขี้แพ้แบบไม่มีแต้มต่อที่สร้างความมั่นใจแปลก ๆ อย่างในมิสเตอร์บีนที่ดวงแข็งทำอะไรพลาดก็กลายเป็นดี หรือสายลับจอห์นนีที่มีอุปกรณ์สายลับไฮเทคกับการพกดวงมาแบบสุด ๆ และทำให้เทรเวอร์ยอดมนุษย์ดวงซวยนี้เป็นตัวละครใหม่ ๆ ที่แอตคินสันจะได้ลองนำเสนอดู หนังตลกNetflix
การดำเนินเรื่องตลอดทั้ง 9 ตอนนั้นไม่มีอะไรไปมากกว่า คุณพ่อแสนน่ารักจอมซื่อ (บื้อ) ที่มักจะก่อปัญหาทำให้ต้องเปลี่ยนงานครั้งแล้วครั้งเล่า
จนงานเล่าทุกที่เทรเวอร์ได้รับ นั่นก็คือการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ลูกเจ้าของคฤหาสน์สุดหรู เต็มไปด้วยงานศิลปะ รถหรู มูลค่ารวมกว่าหลายล้านดอลลาร์ คนที่ทะเลาะกับผึ้งเพียงแค่ 1 ตัวจนทำให้ข้าวของต่าง ๆ ภายในบ้านพังยับเยินไปหมด
รวมไปถึงเจ้า Cupcake ที่ต้องมาซวยเพราะความประมาทเลินเล่อของ Trevor ซึ่งบทบาทในแต่ละตอนบอกได้เลยว่าน่าเบื่อ ไม่สามารถสร้างความฮาได้เลย
ในบางช่วงของซีรีส์จะมีตำรวจเข้ามาตัดเลี่ยนบ้าง, มีโจรบุกเข้าบ้าน หรือมีฉากขับรถที่มาสร้างความตื่นเต้นเพียงเล็กน้อย และมันก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกของ Man Vs Bee เพิ่มขึ้นเลย หนังตลกแนะนำNetflix
รีวิว Man Vs. Bee ความรู้สึกหลังดู
ต้องบอกก่อนเลยว่าครั้งแรกที่แอดดูตัวอย่างหนังเรื่อง Man vs Bee แค่เราเห็นหน้าของ โรวัน แอตคินสัน (Rowan Atkinson) ก็เตรียมหัวเราะกันได้เลย เพราะคาแรคเตอร์ของเขาคนนี้ต้องมาพร้อมกับความฮาอย่างแน่นอน ทีแรกที่ดูทีเซอร์ก็แอบคิดว่านี่คือมิสเตอร์บีนหรือเปล่านะ
ตัวเนื้อเรื่องเน้นโทนสบาย ๆ สีของภาพเน้นความสดใส ให้เราได้เห็นถึงบรรยากาศภายในคฤหาสน์สุดหรู ที่ภายนอกนั้นดูดี แต่ภายในเต็มไปด้วยความโกลาหล
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับในหนังเรื่องนี้คือมุกที่มีความคลาสสิก แต่ก็ยังทำเอาขำได้อยู่เสมอ ในเรื่องเราจะได้เห็นสารพัดวิธีที่ เทรเวอร์ พระเอกของเรื่องนำมาใช้ในการกำจัด ผึ้ง รวมถึงความฉลาดของเจ้าผึ้งตัวน้อย ที่ก็สามารถหาวิธีหลบหลีกได้ทุกมุกเหมือนกัน
เนื้อเรื่องของ Man Vs Bee ถ้าจะให้เราคิดถึงจริง ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นการ์ตูนในตำนานอย่าง Tom and Jerry กับความวุ่นวายไม่รู้จบที่ต่างคนต่างงัดไม้เด็ดมาสู้กัน
จนเกิดเป็นความฮา ให้เราเหล่าคนดูได้หัวเราะกันท้องแข็งนั่นเอง โดยตัวหนังจะแบ่งออกเป็น9 ตอนสั้น ๆ เวลารวมประมาณ 108 นาที
อย่างที่ได้บอกไปในข้างต้นว่านี่คือสงครามระหว่าง คน และผึ้ง แล้วโดยเฉพาะคนอย่าง โรวัน แอตคินสัน ที่เคยสร้างความวายป่วงมาแล้วในทั้งมิสเตอร์บีน หรือแม้ในบทบาทชวนเครียด แต่ก็ยังต๋องได้อย่าง จอนห์นี อิงลิช ก็ยังสร้างความน่าปวดหัวมาแล้ว ดังนั้นในเรื่อง Man vs Bee ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
สิ่งที่ควรรู้ก่อนดูเรื่อง Man vs Bee ก้คือเรื่องนี้นั้น แม้จะเป็นซีรีส์ตลก คอมเมดี้ แต่ก็ยังมีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรง มีการทำลายข้าวของภายในบ้าน มีฉากเจ็บตัวอยู่เป็นระยะ ๆ ดังนั้นแล้วการปล่อยให้เด็ก ๆ ดูกันตามลำพังอาจไม่ใช้ความคิดที่นักถ้าอยากจะรักษาบ้านของคุณเอาไว้อะนะ 555
ในฝั่งของนักแสดง แน่นอนว่าจะต้องนำแสดงโดย Rowan Atkinson ร่วมด้วย Claudie Blakley, Jing Lusi, Julian Rhind-Tuttและอื่น ๆ
เมื่อเราดูจากทีมงานทั้งเบื้องหน้าและโดยเฉพาะเบื้องหลังที่น่าจะรู้ใจกันเป็นอย่างดี มันก็อดไม่ได้ที่จะคาดหวังความฮาแบบไม่มีเบรก แต่มันกลับไม่ใช่แบบนั้น… เพราะทั้งเรื่องคุณจะได้เห็นการต่อบทหลัก ๆ อยู่ 3 ตัวละครเท่านั้น
ยอมรับตามตรงว่าผิดหวังกับ Man Vs Bee เป็นอย่างมาก เพราะไม่คาดคิดว่าผลงานของ Rowan Atkinsonจะสอบตกได้ถึงเพียงนี้ แต่ถึงแม้จะเฟลแต่ก็ต้องยอมรับว่าซีรีส์เรื่องนี้มันยังมีข้อคิดดี ๆ สะกิดใจเราอยู่ได้บ้าง
ข้อคิดดังกล่าวมันก็มาจากตัวผึ้งนั่นเอง ซึ่งผึ้งมันเหมือนเป็นตัวแทนของปัญหาในชีวิตประจำวันของทุกคน แต่ปัญหาดังกล่าวมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ไม่ได้เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายให้กับเรา หรือเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าแค่ไม่ไปสนใจมันก็จบแล้ว
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราไปให้ค่ากับปัญหาขี้ประติ๋วเหล่านี้ มันก็จะพรากเวลาอันมีค่าที่ควรจะทำประโยชน์ให้กับตัวเราเองหรือคนรอบข้างไปได้มาก และอาจจะทำให้เรื่องใหญ่ที่เราควรจะต้องจัดการเสียหายตามไปด้วยนี่อาจจะเป็นเรื่องดี ๆ เพียงข้อเดียวที่เราได้รับจาก Man Vs Bee แต่ภาพรวมโดยส่วนตัวผู้เขียนเองนั่นรู้สึกเฉยๆค่า
สำหรับคะแนนรีวิวหลังดูเรื่อง Man vs Bee ส่วนตัวแล้วผู้เขียนให้ 8/10 คะแนน หลาย ๆ คนอาจจะดูแล้วหงุดหงิดกับความบ้องตื้นของตัวพระเอกอย่าง เทรเวอร์ ที่ต้องทำอะไรเยอะแยะเพื่อกำจัดเจ้าผึ้งแค่ตัวเดียว แต่โดยส่วนตัวแอดมองว่านี่แหละคือเสน่ห์ของซีรีส์ไล่จับตามแบบที่เราเคยดูกันในตอนเด็ก ๆ อย่างเรื่อง Tom and Jerry
เอาจริง ๆ หนังเรื่องนี้เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่อยากหาอะไรดูผ่อนคลาสมอง ดูไปแล้วยิ้มตาม เอ็นดูกับความคิดที่ซับซ้อนของตัวพระเอก และความแสนรู้ของน้องผึ้ง ที่งานนี้ CG ของผึ้งนั้นเนียนมาก เนียนจนนึกว่าใช้ผึ้งจริง ๆ มาถ่าย รีวิวหนังตลกวัยรุ่น