รีวิว ไทยบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ

แนะนำหนังแนวตลก ๆ ที่ออกดร่าม่าหน่อย ๆ รักช้ำ ๆ ขำเรื่อย ๆ จุกตอนจบ ที่มีชื่อว่า  หมอปลาวาฬ ซึ่งกระนั้นในสำหรับหนังในจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ แต่หากไม่นับ ‘รักหนูมั้ย’ ที่เหมือนเป็นแค่การใช้นักแสดงชุดเดียวกันมาเล่าเรื่องใหม่ ‘หมอปลาวาฬ’ จะนับเป็นงานหนังสปินออฟลำดับที่ 2 ต่อจาก ‘ไทบ้านXBNK 48’ เรื่องของการ์ตูน ได้ที่ เว็บดูหนังฟรี

 

รีวิว ไทยบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ

 

โดยแน่นอนว่าการที่หนังใช้ชื่อตัวละครอย่างหมอปลาวาฬมาเป็นจุดขายย่อมหมายถึงการที่เราจะได้เห็นเรื่องราวมุมมองความสัมพันธ์จากฝั่งผู้หญิงอย่างหมอปลาวาฬว่าทำไมในหนัง ‘ไทบ้านเดอะซีรีส์’ เธอถึงยังตัดใจจากจ่าลอดไม่ได้เสียที

และหนังเริ่มมาด้วยภาพอดีตตอนที่หมอปลาวาฬไม่อาจช่วยชีวิตคนตกน้ำได้และเป็นจ่าลอดนี่เองที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว และโดยที่ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาภาพก็ตัดมายุคปัจจุบันที่จะเล่าเรื่องหมอปลาวาฬที่ยังไม่อาจตัดใจจากจ่าลอดให้ขาดได้แม้จะมีหมอเต้ยสุดหล่อตามจีบอยู่ก็ตาม แต่แล้วก็เป็นจ่าลอดเองที่อาศัยช่วงเวลาที่ครูแก้วแฟนสาวตัวจริงพานักเรียนไปแข่งฟุตบอลต่างจังหวัดหาช่องทางกลับไปตีสนิทหมอปลาวาฬจนเกิดเป็นความผูกพันครั้งใหม่ที่ต้องเลือกระหว่างความต้องการกับความถูกต้อง

ซึ่งถ้าเอาจริง ๆ พลอตเรื่องของ ‘หมอปลาวาฬ’ นี่แทบไม่มีอะไรเหลือให้เล่าอีกแล้ว แต่หากจะให้เปรียบเทียบกับหนังซูเปอร์ฮีีโรก็คงทับรอยเดียวกับ ‘Black Widow’ ของมาร์เวลนั่นแหละครับคือเอาตัวละครที่คนดูรักแม้ว่าจะไม่ค่อยมีบทบาทเป็นชิ้นเป็นอันในหนังภาคต่อของ ‘ไทบ้านเดอะซีรีส์’ เท่าไหร่

และยังแนะนำตัวละครใหม่ (หรือเปล่า?) อย่างหมอเต้ยที่ได้อดีตครูเต้ย อภิวัฒน์ บุญอเนกมาโชว์หน้าหล่อ ๆ อยู่ 1 ซีนถ้วนซึ่งเราก็คงเดาตอนจบได้ไม่ยากว่าหนังจะต้องเล่นงานกับชะตากรรมของหมอปลาวาฬอย่างหนักหน่วงก่อนเธอจะก้าวข้ามมะเร็งหัวใจอย่างจ่าลอดไปได้

กระนั้นในความไม่มีอะไรของพล็อตเรื่องมันก็ยังแอบมีจุดน่าสนใจหลายอย่างที่ทำให้เราเห็นว่า สุรศักดิ์ ป้องศร มีความเข้าใจในเนื้อหาที่ตัวเองกำลังจะเล่าโดยเฉพาะการดึงให้อนามัยกลายเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิตความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน

ซึ่งบทหนังก็ใช้ประโยชน์จากการที่แพทย์อาสาสมัครต้องติดตามคนไข้ผู้เฒ่าผู้แก่ให้มาคอยรับยารักษาโรคเป็นประจำสร้างภาพลักษณ์ของแพทย์ประจำท้องถิ่นที่ต้องต่อสู่กับความเชื่อของชาวบ้านเรื่องสุขภาพ

ถ้าเอามาเปรียบเทียบกับเรื่องหัวใจของหมอปลาวาฬที่แม้จะมีความรู้รักษาคนไข้ได้มากแค่ไหน แต่เรื่องหัวใจก็ยังเห็นเธอปรึกษาเพื่อนร่วมสถานีอนามัยหรือกระทั่งเลือก “ยาผิด” ให้ตัวเองจนกว่าจะบรรเทาอาการ เธอก็กลายเป็นผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องแลกหัวใจของเธอกับความโลเลและหลายใจของจ่าลอด

และก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสน่ห์เฉพาะตัวของ ฟิฟิน สิริอมร อ่อนคูณ คือหัวใจของเรื่องราวจริง ๆ แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของหมอปลาวาฬที่จับเธอใส่แว่นแต่งหน้าอ่อน ๆ แต่แอบแซ่บด้วยรอยสักจะทำให้หนุ่ม ๆ แทบคลั่งทุกครั้งที่เธอปรากฎตัวแต่เป็นฝีมือการแสดงของเธอต่างหากที่ทำให้เรื่องราวที่หวุดหวิดจะน้ำเน่ากลับมีมิติและมีหัวจิตหัวใจมากพอให้คนดูติดตาม ร่วมลุ้นและอดเห็นใจกับชะตากรรมของเธอไม่ได้

กระนั้นความดีของนักแสดงหรือตัวบทที่ยังทำงานกับคนดูก็กลับมามัวหมองด้วยข้อผิดพลาดด้านโปรดักชันที่พบเจอได้รายทางตั้งแต่ซีนบทสนทนาที่คนดูได้ยินเสียงไมค์ไวร์เลสขูดกับเสื้อได้ชัดเจน เสียงพูดที่หลายครั้งก็ให้ความรู้สึกเหมือนบันทึกมาด้วยเกนเสียงที่พีคจนฟังแทบไม่รู้เรื่องจนถึงเสียงบางช่วงที่ติดไวร์เลสไม่ได้ก็เหมือนได้ยินจากไมค์กล้องจนคุณภาพเสียงกลายเป็นปัญหาที่บั่นทอนคุณภาพของงานไปอย่างไม่น่าเชื่อ สามารถเข้าดูฟรีได้ที่   ดูหนัง

 

รีวิว ไทยบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ

 

ด้านงานภาพแม้ว่าสไตล์นำเสนอที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของหนังชุดนี้ทั้งการแทร็กกิ้งตามตัวละครเดินข้ามถนนไปมาหรือการถ่ายรับหน้าเพื่อสื่ออารมณ์โดยไม่ต้องมีคำพูดจะยังคงมีให้เห็นทั่วไปและทำงานได้ดีอยู่ แต่พอมีบางช็อตที่เห็นเลยว่าแก้ปัญหาแสงเปลี่ยนด้วยการใส่ฟิลเตอร์แสงส้มปลอม ๆ เข้ามาก็กลายเป็นรอยด่างพร้อยอันน่าเสียดาย

และคงไม่เป็นการสปอยล์ถ้าจะบอกว่าตอนท้ายเรื่องแอบมีหยอดฉากที่บักเซียงอีกหนึ่งตัวละครที่คนดูรักและเห็นใจกำลังจะกลับมาอีกครั้งกับ ‘จักรวาลไทบ้าน สัปเหร่อ’ ที่คราวนี้จักรวาลไทบ้านจะมาในรูปแบบหนังโรแมนติกสยองขวัญเมื่อบักเซียง (ชาติชาย ชินศรี) ยังคงตัดใจจากคนรักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับไม่ได้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่หลายคนได้ดูต้องตั้งตารออย่างแน่นอน

ในส่วนของภาพของหนังเหมือนเป็นความรักความหลังฝั่งใจของตัวละคร หนังหยิบเหตุการณ์ในอดีตของหมอปลาวาฬที่เป็นตราบาปในชีวิตมาเล่าก่อน เพื่อปูเรื่องราว จากนั้นก็นำพาเรามาพบกับสถานการณ์ ตัวละครหลัก 2 คนอย่าง หมอปลาวาฬคนสวยและจ่าลอด แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีคนรักเป็นครูแก้วอยู่แล้ว แต่เรื่องราวของทั้งคู่ก็ยังวนเวียนไปมาไม่จบสิ้น จนแยกไม่ออกละ ว่าสิ่งที่เขาเผชิญหน้าพบเจอกันมันเป็นความรัก หรือว่าผูกพันจนยากที่จะตัดขาดออกจากกัน จ่าลอด

แม้จะคนรักอยู่แล้วแต่เขาเองเหมือนจะไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรเขาอยากกลับไปหาคุณหมอ แต่ดันหลงลืมไปว่าตัวเราเองก็มีแฟนอยู่แล้ว ยังจะไปอะไรกับปลาวาฬอีก เขาแยกไม่ออกควารักความถูกต้อง หรือแค่เหงาอยากหาใครสักคนมาแก้ขัดคั่นเวลาตอนแฟนไม่อยู่ หนังจำลองภาพคนที่ไม่รู้ใจตัวเอง และมักจะพยายามกลับเข้าไปหาชีวิตคนอีกคนทั้งที่ตัวเองก็มีคนรักไปแล้ว เมื่อเล่าเรื่องด้วยพล็อตแบบบ้านๆความเป็นอีสานทำให้เราได้เห็นแง่มุมชีวิตหนุ่มสาวในอีกรูปแบบหนึ่งที่คนทั่วไปคนอยู่ในเมืองไม่ค่อยได้เห็นมาก

รีวิว ไทยบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ

ก็นะคนที่เคยฮักกันเคยมีหยั๋งกันแล้วมันสิกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกได่อยู่บ้อ หนังอีสานมาดอบอุ่นตะกูลจักรวาลไทบ้าน ที่มาในนาม หมอปลาวาฬ พร้อมมาดใหม่ไทบ้านแบบโรแมนติกดราม่า เมื่อหมอปลาวาฬกำลังจะเปิดใจให้กับใครสักคน ประจวบเหมาะกับจ่าลอดอยากจะกลับมาเป็นเพื่อนกับหมอปลาวาฬ คนเคยฮักกันต้องมาลองเป็นหมู่กัน ดูได้แล้วที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

ในสถานะของคำว่าเพื่อนที่แฝงไปด้วยความฮู้สึกที่มากกว่าเพื่อน ยิ่งพยามเป็นเพื่อนก็ยิ่งฮู้สึกว่ามันมากกว่าเพื่อน จนจ่าลอดต้องตัดสินใจพิสูตรความรู้สึกที่มันรู้สึกรักหมอปลาวาฬทั้งๆที่ตัวเองก็มีครูแก้วอยู่แล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไร จ่าลอดจะเลือกใครคนที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอดอย่างครูแก้ว หรือ รักแรกที่ลืมบ่ได้อย่างหมอปลาวาฬ ตามตามได้ใน หมอปลาวาฬ หนังอีสานมาสโรแมนติกดราม่า

ไทบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ เปิดเรื่องโดยโฟกัสไปที่เหตุการณ์หนึ่งในอดีตของ หมอปลาวาฬ กับความรู้สึกอันแสนหดหู่ที่ไม่สามารถช่วยเด็กจากการจมน้ำได้ แต่ก็มีบักลอดนี่แหละ ที่มาทำให้ หมอปลาวาฬ สามารถกลับมามีชีวิตชีวา และสอนอะไรให้หลายๆ อย่าง แล้วเรื่องราวก็ได้วนเวียนมายังในยุคปัจจุบัน หมอปลาวาฬ ก็ยังคงทำหน้าที่ของการเป็นแพทย์ประจำอนามัย ร่วมกับ หมอแจ็ค ที่ต่างก็ชอบพอ หมอปลาวาฬ ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ยังไม่วายที่ทุกครั้งที่เจอกันระหว่าง หมอปลาวาฬ กับบักลอด ก็ยังคงมีความรู้สึกบางอย่างที่เหมือนค้างคาใจอยู่เสมอ ถึงแม้ปัจจุบันบักลอดจะกำลังคบกับครูแก้วอยู่ก็ตามที

และเมื่อครูแก้วมีภารกิจสำคัญต้องพาเด็กๆ ไปแข่งกีฬายังต่างจังหวัด หลายวัน นั่นจึงทำให้บักลอด ได้โอกาสดีที่อยากจะกลับไปสานสัมพันธ์กับหมอปลาวาฬอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าการกลับมาคุยกัน และเริ่มคุยกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของการสร้างความสัมพันธ์ในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่นำพามาซึ่งความเจ็บปวดที่สุด โดยไม่สามารถหลักเลี่ยงได้

ต้องยอมรับว่าภาคแยกของเรื่อง ไทบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ สามารถทำให้คนชมเริ่มอินไปกับมุมดราม่าของ หมอปลาวาฬ และชีวิตของ หมอปลาวาฬ รวมถึงเหตุผลต่างๆ ที่ทำไมยังคงทำให้ไม่สามารถตัดขาดจากบักลอดได้ แต่ในเรื่องของความคอมเมดี้ในแบบฉบับของ ไทบ้าน นับว่ามีน้อยจริงๆ ในภาคนี้ อาจเพราะด้วยตัวเรื่องราวที่พยายามเน้นโฟกัสไปในมุมดราม่าของ หมอปลาวาฬ นั่นจึงทำให้ความคอมเมดี้อาจต้องลดทอนลงบ้าง

แต่โดยรวม ไทบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ ก็ถือว่ายังคงเป็นอีกเรื่องราวของจักรวาล ไทบ้านเดอะซีรีส์ ที่เล่าเรื่องได้ดี และเด่นสุดๆ กับการหยิบประเด็นบางอย่างจากภาคแรก มาขยี้ในภาคนี้ ได้อย่างถึงเครื่องสุดๆ ดังนั้น หากใครชอบจักรวาลหนังไทยเรื่องนี้ และยิ่งเป็นแฟนๆ คุณหมอปลาวาฬ ด้วยแล้วล่ะก็ ถือว่าไม่ควรพลาดสุดๆ เต็ม 10 ให้ 6.5 ไปเลย

ในส่วนของไฮไลท์ของหนังคือการโฟกัสไปยังตัวละครคุณหมอปลาวาฬเนี่ยแหละ เธอเองคือแพทย์หญิงประจำหมู่บ้าน เธอคือคนที่มารักษาคนป่วยคนไข้ในหมู่บ้าน หนังดึงคาแรกเตอร์ความเป็นแพทย์รักษาคนต่างจังหวัดจากนางเอก ปกติคนต่างจังหวัดจะกลัวการหาหมอมาก บทหนังขับเคลื่อนตัวละครหมอปลาวาฬในการเป็นแพทย์ดูแลรักษาคนไข้ด้วยความเต็มใจไม่ใช่ทำเพราะหน้าที่ เราได้เห็นจรรยาบรรณของเธอในการดูแลคนโน่นคนนี่ ดูฟรีได้ที่ ดูหนังฟรี

 

 

แต่ตลกร้ายที่ตลอดทั้งเรื่องเธอจะเป็นคนดูแลคนไข้รักษาคนป่วย แต่เธอเองกลับมีบาดแผลรักษาหัวใจตัวเองไม่ได้สักที และยิ่งเจอจ่าลอดมาวนเวียนในชีวิตแบบนี้มันยิ่งไปกันใหญ่ หนังได้ทำหน้าที่ในการสะท้อนความรู้สึกของหมอปลาวาฬที่เก่งกาจรักษาคนไข้ในหมู่บ้านรับมือได้ทุกรูปแบบ

แต่ไม่วายปัญหาหัวใจปัญหาชีวิตมันดันวนลูปเดิม เธอไม่บรรเทาความรู้สึกตัวเองและเจอความมักง่ายของจ่าลอดที่บั่นทอนหัวใจตัวเองจนจุกและช้ำเรื่อยมาเสียใจอ่อนไหวร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเป็นเรื่องยากความรักสำหรับผู้หญิงการตัดใจเป็นเรื่องยากๆจริงๆ

การแสดงของนางเอกของเรื่องอย่าง น้องฟิฟิล์ม สิริอมร อ่อนคูณ น่ารักมีเสน่ห์ คือเราไม่เคยดูผลงานไทบ้านไม่รู้จักเธอมาก่อน แต่เธอสื่อสารออกมาได้ดีเป็นธรรมชาติมาก คุณหมอแพทย์ที่รักษาคนไข้ในหมู่บ้าน แต่พอเรื่องรักเรื่องหัวใจความรู้สึกตัวเองดันกลายเป็นขั้วตรงข้ามกับหน้าที่แพทย์ของเธอ บางมุมก็ดูเซ็กซี่มีรอยสัก บางมุมก็ดูโก๊ะๆดี จริงๆอยากเห็นผลงานของเธอที่ไม่ใช่แค่เรื่องไทบ้านะ

เพราะโดยรวมแล้ว หนังเรื่องนี้เราได้เห็นฝีมือเธอเยอะมาก บทจะต้องเป็นคนเก็บอากาศไม่แสดงความรู้สึกว่าตัวเองเจ็บมีปมในใจเรื่องรัก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครจะแสดงบทบาทแบบนี้ได้ คนที่เล่นอารมณ์แบบนี้ออกมาได้ จะต้องเป็นคนที่พบเจอห้วงอารมณ์ที่ช้ำๆบ่อยมาก ซึ่งเธอตีความออกมาได้ดี ฉากร้องไห้นี่เจ็บปวดแทนเธอไปเลยจ้า เล่นดี อยากบอกว่าเธอคือสิ่งที่ดีงามที่สุดในหนังเรื่องนี้แล้วละ

ความรู้สึกหลังดู

หลังจากที่ได้ชม ไทบ้านเดอะซีรี่ส์หมอปลาวาฬ ที่อาจถือได้ว่าเป็น ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.3 เต็มเรื่อง ต้องบอกได้เลยว่า ในภาคนี้ถือว่า เป็นไทบ้านในรูปแบบ drama ที่เรียกน้ำตาได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะมีแค่ความดราม่า ความเศร้าเท่านั้น ในเรื่องยังเดินเรื่อง ไปด้วยมุกฮา ๆ เหมือนเดิมเหมือนใน ไทบ้าน เดอะ ซี รี ส์ ทุก ตอน แต่จะไม่มีมากเท่า ในภาคที่แล้ว สามารถดูได้ที่ เว็บดูหนัง

 

 

เรื่องราวที่ว่าด้วย การดูแลรักษาคนไข้ ของอนามัยหมู่บ้าน ที่มีแพทย์อาสา ที่ต้องติดตามผู้เฒ่าผู้แก่ ให้มารักษาโรคเป็นประจำ ที่เอาไปผูกโยง กับเรื่องราวความรัก ของหมอปลาวาฬ ที่มีต่อจ่าลอด กับเรื่องราวความปวดใจ ของตัวละครหลัก 3 คนในเรื่องนี้ ตัวเรื่องจะมุ่งเน้นไปที่ตัวละครหลักทั้ง 3 โดยที่มีตัวละครอื่น ๆ เสริมทัพย่อย ๆ เท่านั้น

การเดินเรื่องและการถ่ายทำ ของภาคนี้ก็ยังไหลลื่นดี เหมือนในภาคก่อน ๆ โดยที่มีบทพูดเป็น ภาษาอีสานทั้งเรื่อง ที่ถือว่าทำได้ดีเลยล่ะ ขนาดซีนที่มีบทพูดยาว ๆ ก็ยังสามารถดูได้โดยไม่เบื่อ เรื่อง sound ประกอบเพลงประกอบ ต้องบอกว่าทางค่ายเซิ๊ง เขาทำมาได้ดีอยู่แล้ว ขายได้ทั้งหนัง ขายได้ทั้งเพลง

ด้านตัวของนักแสดง ต้องบอกเลยว่า แสดงดีทุกคน แสดงเป็นธรรมชาติมาก โดยเฉพาะจ่าลอด “ด้งเด้ง” เรื่องราวของผู้บ่าวไทบ้าน the series ที่มีหมอปลาวาฬ เป็นศูนย์กลางของเรื่อง ถือว่าทำออกมาได้ สมบูรณ์แบบจนแทบ จะให้คะแนนเต็มเลยล่ะ ถ้าใครยังสงสัยว่า มันจริงหรือไม่ ติดตามชมได้ ทุกโรงภาพยนตร์วันนี้ ดูหนังได้แล้วตอนนี้ที่ ดูหนังออนไลน์

เอาจริง ๆ ผู้เขียนค่อนข้างจะชินชามากเลยเพราะพลอตเรื่องของ ‘หมอปลาวาฬ’ นี่แทบไม่มีอะไรเหลือให้เล่าอีกแล้ว แต่หากจะให้เปรียบเทียบกับมาเวลก็คงทับรอยเดียวกับ ‘Black Widow’ ของมาร์เวลนั่นแหละครับคือเอาตัวละครที่คนดูรัก

แม้ว่าจะไม่ค่อยมีบทบาทเป็นชิ้นเป็นอันในหนังภาคต่อของ ‘ไทบ้านเดอะซีรีส์’ เท่าไหร่ จะเละก็ไม่เละเหมือนนั่งฟังเรื่องผีแนวกฎที่บอกแค่กฎพอจะเข้าเนื้อเรื่องก็ตัดจบมันน่าโมโหจริง ๆ แบบพออิน ๆ อ้าวจบแล้วไรว่ะ นอกจากนี้ยังแนะนำตัวละครใหม่อย่างหมอเต้ยที่ได้อดีตครูเต้ยดาราดัง อภิวัฒน์ บุญอเนกมาโชว์หน้าหล่อ ๆ อยู่ซีนถ้วนซึ่งเราก็คงเดาตอนจบได้ไม่ยากว่าหนังจะต้องเล่นงานกับชะตากรรมของหมอปลาวาฬอย่างหนักหน่วงก่อนเธอจะก้าวข้ามมะเร็งหัวใจอย่างจ่าลอดไปได้

กระนั้นในความไม่มีอะไรของพล็อตเรื่องมันก็ยังแอบมีจุดน่าสนใจหลายอย่างที่ทำให้เราเห็นว่าผู้กำกับหนัง สุรศักดิ์ ป้องศร มีความเข้าใจในเนื้อหาที่ตัวเองกำลังจะเล่าโดยเฉพาะการดึงให้อนามัยกลายเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิตความเป็นอยู่ในหมู่บ้านมาเปรียบเทียบกับเรื่องหัวใจของหมอปลาวาฬที่แม้จะมีความรู้รักษาคนไข้ได้มากแค่ไหน

แต่เรื่องหัวใจก็ยังเห็นเธอปรึกษาเพื่อนร่วมสถานีอนามัยหรือกระทั่งเลือก “จ่ายยาผิด” ให้ตัวเองจนกว่าจะบรรเทาอาการ เธอก็กลายเป็นผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องแลกหัวใจของเธอกับความโลเลและหลายใจของจ่าลอด สามารถติดตามการรีวิวได้ที่ เว็บรีวิวหนัง

 

 

ยอมรับที่คนเข้ามาเพราะลูกหาบ BNK48 ฐานแฟนเยอะมากระดับวาฬก็มีเลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสน่ห์และแรงอวยมาจากตัวของ ฟิฟิน สิริอมร อ่อนคูณ คือหัวใจของเรื่องราวจริง ๆ แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของหมอปลาวาฬที่จับเธอใส่แว่นแต่งหน้าอ่อน ๆ

แต่หว่านเสน่ห์ด้วยรอยสักจะทำให้หนุ่ม ๆ แทบคลั่งทุกครั้งที่เธอปรากฎตัวแต่เป็นฝีมือการแสดงของเธอต่างหากที่ทำให้เรื่องราวที่หวุดหวิดจะน้ำเน่ากลับมีมิติและมีหัวจิตหัวใจมากพอให้คนดูติดตาม ร่วมลุ้นและอดเห็นใจกับชะตากรรมของเธอไม่ได้เป็นแบบนี้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปดูต่อเอง เอาเป็นว่า หนังเรื่องนี้ ฟิฟิม สิริอมร คือความสว่างสไวเดียวของเรื่องจริง ๆ และ งานโปรดักชันมีแผลขนาดใหญ่ชนิดไม่น่าให้อภัยได้เลย สนุก ดร่ามา ตลก ครบราต้องไปดู หากชื่นชอบการรีวิวของเรานั้น ก็สามารถติดตามการรีวิวของเราได้ที่ รีวิวหนัง