รีวิวหนังตลก Ted
ในวัยเด็กนั้น จอห์น ผู้ที่ชีวิตไม่เคยมีเพื่อนมาก่อน ในวันเกิดเขาจึงอธิษฐานขอเพื่อนสักคน และพรนั้นก็กลายเป็นจริง เมื่อของขวัญตุ๊กตาหมีที่เขาได้มานั้น กลายมาเป็น เท็ด ที่มีชีวิตและจิตใจ ทั้งคู่เติบโตมาด้วยคำสัญญาที่จะไม่แยกจากกัน จนกระทั่งจอห์นอายุ 35 ปี เขาก็ได้พบรักกับ คอลลินส์ และได้มาคบกัน จนทำให้ความสัมพันธ์ที่เขาและเท็ดมีด้วยกันมาก็ต้องมาเริ่มสั่นคลอน เพราะ จอห์น ก็เริ่มคิดถึงอนาคตของตัวเองมากขึ้น รีวิวหนังตลก Ted รีวิวหนังตลก
สำหรับ Ted นั้น คงไม่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาหนังใสๆ ระหว่างคนกับตุ๊กตาหมี ตามที่เห็นหน้าปกแน่ๆ เพราะมันเองก็เป็นหนังที่แปะด้วยเรท R และอุดมไปด้วยมุข เสื่อม ถ่อย อยู่ตลอดทั้งเรื่อง จนลบภาพตุ๊กตาหมีที่แสนน่ารักกันไปเลย แต่สำหรับคนที่ต้องการหนังตลกติดเรทแบบเสื่อมๆ อยู่แล้ว หรือชอบงานตลกสไตล์ผู้ใหญ่หน่อย ผสมกับเรื่องมิตรภาพแบบผู้ชาย เหมือนอย่างหนังตระกูล The Hangover หรือชุด Jump Street แล้ว คิดว่า Ted น่าจะเป็นหนังสไตล์ที่คุณชอบได้เลย
ด้วยความที่ผู้กำกับอย่าง Seth MacFarlane นั้น เคยมีผลงานเขียนบทในอนิเมชั่นซีรี่ส์สำหรับผู้ใหญ่ชื่อดังมาก่อน อย่าง Family Guy, American Dad! ก็เลยเชี่ยวชาญในด้านนี้อย่างดี กับการเอาสิ่งที่ดูเหมือนทำมาสำหรับเด็ก มายำให้กลายเป็นคอนเทนท์ติดเรทสำหรับผู้ใหญ่ได้แบบลงตัว ซึ่ง Ted ก็เป็นหนังที่เข้าข่ายประเภทนั้น เพราะแม้ว่าจะมีตุ๊กตาหมีสุดน่ารักเป็นตัวนำเรื่อง แต่พฤติกรรมของมันกลับตรงข้ามกับภาพลักษณ์เสียเหลือเกิน เลยเป็นความย้อนแย้งอย่างสุดๆ กับภาพลักษณ์และพฤติกรรมของเจ้าตุ๊กตาหมีตัวนี้ ดูหนัง
โดยจุดเด่นของหนังก็คือความ ”ตลก” แบบติดเรทที่สวนกับความน่ารักของมันนี่แหละ ที่ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำหยาบคาย ติดยา หมกมุ่นเรื่องเซ็กส์ จนเอามาสร้างเป็นมุขตลกทางด้านพฤติกรรมได้เอาฮาได้อย่างไม่หยุดไม่หย่อน รวมถึงความแปลกใหม่ที่ยังไม่ค่อยเห็นหนังเรื่องไหนเล่าเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อนด้วย ทำให้จริงๆ แล้วแค่เราเห็นพฤติกรรมตรงข้ามกับภาพลักษณ์ภายนอกของเจ้าตุ๊กตาหมีตัวนี้ทีไร ก็อดขำไม่ได้ทุกที จากความตรงข้ามของสิ่งที่เกิดขึ้นจากทั้งแนวคิด ทัศนคติ และวิธีการพูดการจาของมัน ที่เรียกได้ว่ากาวได้สุดมากๆ ดูหนังออนไลน์
ในมุมดาราก็เรียกได้ว่าคิดถูกมาก ที่เลือกใช้มาร์ค วอล์เบิร์ก มาเป็นนักแสดงนำ และการเอาตัวผู้กำกับเองมาพากษ์เป็นเสียงเจ้าหมีเท็ด เพราะทั้งคู่มีเคมีที่เข้ากันดี และต่อบทสนทนากันได้ดีเหลือเกิน แต่ส่วนที่นำให้หนังน่าสนใจขึ้น ก็เกิดจากที่ตัวหนังมันไม่ได้ขายแค่ความตลกเท่านั้น แต่ยังพูดถึงการเติบโตของตัวเอกที่จะต้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในโลกแห่งความจริง และไม่ยึดติดกับเท็ดตลอดไป รวมไปถึงในเรื่องของการจัดการความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่เอาจริงๆ เปรียบแล้วก็ไม่ต่างกับชีวิตของคนทั่วไปสักเท่าไร ที่มีเพื่อนสนิท แต่พอมีแฟนก็อาจกลายเป็นให้เวลาแฟนจนต้องเริ่มห่างเหินจากเพื่อนไป ซึ่งถ้าเพื่อน หรือแฟนไม่เข้าใจก็อาจกลายเป็นปัญหาแบบในหนังตามมาได้
จอห์น เบนเน็ตต์ (มาร์ค วอห์ลเบิร์กจาก) ชายหนุ่มผู้ซึ่งความฝันในวัยเด็กของเขาเนรมิตชีวิตให้กับตุ๊กตาหมีที่เขารักิ เท็ดลังเลที่จะห่างจากจอห์น…ท่ามกลางความรำคาญของลอรี่ คอลลินส์ (มิลา คูนิส) แฟนสาวที่ความอดทนมาถึงขีดสุดของจอห์นเมื่อจอห์นต้องดิ้นรนที่จะหาหนทางเอาตัวรอดกับสิ่งที่เรียกว่า วัยผู้ใหญ่ เขาก็ต้องอาศัยความช่วยเหลือที่คาดไม่ถึงจากของเล่นในวัยเด็กของเขาเพื่อ ก้าวกระโดดจากการเป็นผู้ใหญ่ที่ทำตัวเป็นเด็กๆไปวันๆ ดูหนังฟรี
แรกๆ ดูแล้วหนังคงแน่นทั้งเรื่องด้วยมุกสัปดน มุกอำกันแบบฮาหัวทิ่มหัวตำความทะลึ่งตึงตังที่สุดขั้วได้ใจเหลือเกิน (สำหรับคนดูที่โตมากหน่อย) มุกแบบร้องยี้และพะอืดพะอมไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งมัน ก็จริงครับ (ฮา) แต่หนังมันแทรกเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร แทรกเรื่องความรักระหว่างสาวคนรักกับมิตรภาพของหมี หนังมีท่าทีที่ทีเล่นที่จริงในบางเวลา จนทำให้คนดูอินกับเนื้อเรื่อง บวกกับมีการแบ่งช่วงการผ่อนเบาอารมณ์ด้วยความเป็นหนังที่พูดถึงการโตมาเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เด็กๆ อีกต่อไปแล้วตลอดทั้งเรื่อง มันเลยทำให้ให้คนดูได้นึกคิดเล็กๆ น้อยๆ ไปด้วย แล้วค่อยเขย่าอารมณ์เน้นฮาโดยเฉพาะได้อย่างเหมาะเจาะ คือมันไม่ได้เน้นใส่มุกตลกอย่างเดียวอ่ะครับ เพราะฉะนั้นหายห่วงได้เลยถ้าคิดว่ามันจะเป็นหนังตลกตื้นๆ เท่านั้น เว็บดูหนัง
ผู้กำกับเซ็ธ แมคฟาร์เลน กำกับหนังได้อย่างสะเด่ามาก (แถมเจ้าตัวยังให้เสียงพากย์หมีเท็ดด้วยนะ) มุกตลกถูกนำมาแทรกไว้ในหนังเหมือนไม่ได้ต่อกันเท่าไหร่ คือมาเป็นชุดๆ เล่นกันแบบเป็นฉากๆ แต่ฮาได้ใจ หลายครั้งที่หนังอำและแซววงการหนัง นักแสดงต่างๆ ได้แบบว่าไม่แคร์สื่อ หลายช่วงอำกันแบบว่า… ถ้าเราเป็นคนฝั่งอเมริกาคงได้ฮากันหัวทิ่มหัวตำ แต่แค่นี้ก็ฮาสุดขีดแล้ว
เป็นหนังที่ตกตะลึงตั้งแต่ได้ดู Trailer แล้ว ด้วยการจับเอาตุ๊กตาหมี (ถือเป็นของเล่นโปรดของฝรั่งเลยนะ) มาเป็นตัวเอก พูดได้ แต่ที่ไม่ธรรมดาคือแมร่งถ่อยมาก สูบกัญชา พูดจาทะลึ่งลามก แถมยังสร้างวีรกรรมแสบๆ ไว้เพียบ
ใครที่กำลังมองหาหนังตลกสักเรื่องไว้ดูเพื่อคลายเครียด เดลินิวส์ออนไลน์ ขอแนะนำหนังตลก แฝงสาระแง่คิด ผ่านตัวละครที่ทุกคนต่างคุ้นเคยตั้งแต่สมัยเด็กๆ นั่นก็คือ ตุ๊กตาหมี ที่คราวนี้ถูกยกมาเป็นตัวละครหลักสุดป่วนในหนังคอมเมดี้ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ Ted
Ted เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับมากความสามารถ เซธ แมคฟาร์เลน ที่เคยฝากผลงานเป็นคนเบื้องหลังให้กับ Family Guy การ์ตูนฉายทางทีวีชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ซึ่งในเรื่อง Ted เขาได้ถ่ายทอดจินตนาการสุดลึกล้ำและอารมณ์ขันอันน่าทึ่งมาสร้างเป็นภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ผสมแอนิเมชั่น โดยทุ่มสุดตัวรับหน้าที่ทั้ง เขียนบท กำกับ และให้เสียงพากย์ตัวหมีเท็ดสุดป่วนด้วยตัวเอง ทำให้เจ้าหมีจอมแสบมีชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบดูเนียนตาทั้งท่าทาง อารมณ์ และคำพูด
ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวได้ดีในการเข้าฉายช่วงแรก ทำให้กระแสเมื่อเข้ามายังประเทศไทยเป็นไปในทางบวก โดย Ted เล่าเรื่องของ จอห์น เบนเน็ตท์ (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) ชายหนุ่มที่มีชีวิตวัยเด็กอันน่าสงสาร เขาไม่เคยมีเพื่อนที่อยากจะเล่นสนุกด้วยสักคน จนมาถึงวันคริสต์มาสครั้งหนึ่งเขาได้รับของขวัญจากพ่อและแม่เป็นตุ๊กตาหมีเท็ด ซึ่งจอห์นหลงรักมันในทันทีที่ได้รับ จากนั้นเขาได้อธิษฐานขอให้ตุ๊กตาหมีเท็ดมีชีวิตขึ้นและสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนรักกับมันตลอดไป ซึ่งคำอธิษฐานของเขาก็เป็นจริงขึ้น ทำให้จอห์นกับเท็ดเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนานกว่าสิบปี เป็นที่มาของเรื่องราวมากมายที่จะเกิดขึ้นต่อไป เว็บดูหนังฟรี
หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สามารถทำให้คนดูมีความสุขไปกับมุกตลกต่างๆได้ตลอดเรื่อง แม้จะมีมุกตลกหยาบคายปนอยู่ด้วย แต่ก็ช่วยสร้างสีสันความฮาได้เป็นอย่างดีและไม่น่าเกลียดจนเกินไป ซึ่งผู้กำกับไม่เพียงใส่มุกต่างๆมาเรียกเสียงฮาเพียงเท่านั้น แต่ยังแฝงแง่คิดสะกิดใจไว้มากมาย เสียดสีทุกวงการในสหรัฐอเมริกาอย่างเจ็บๆคันๆ ไม่ว่าจะเป็น วงการภาพยนตร์ เพลง การเมือง ฯลฯ ประเด็นหลักคือเสียดสีถึงความเป็นผู้ใหญ่ไม่รู้จักโต นำตุ๊กตาหมีเทียบกับสิ่งเสพย์ติดหรือสิ่งยึดเหนี่ยวต่างๆ ที่ทำให้เรายึดติดกับความเคยชินและไม่ยอมก้าวไปข้างหน้าในชีวิตจริง จนมาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทุกคนต้องเลือกทางเดินเพื่ออนาคตของตัวเอง
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นและน่าชมเชยในหนังเรื่อง Ted คงต้องยกให้ฝีมือการแสดงของ มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกและแสดงร่วมกับเทคนิคพิเศษได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญเทคโนโลยีการนำแอนิเมชั่นมาเข้าฉากร่วมกับนักแสดงนับวันยิ่งพัฒนาและทำได้เนียนตามากขึ้น เห็นได้จากในเรื่องที่เจ้าหมีเท็ดสามารถเคลื่อนไหวแสดงท่าทางต่างๆได้อย่างสมจริง พร้อมกับสื่อทุกอารมณ์ออกมาได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังดูสนุกลื่นไหลไม่มีติดขัดด้านอารมณ์แม้แต่น้อย
มองไปก็ดูจอห์นเป็นคนที่น่าสงสารนะ เขายังติดอยู่กับวันเก่าๆ ดูหนังเก่าๆ ฟังเพลงเก่าๆ ทั้งที่เขาควรจะเก็บมันเป็นความทรงจำที่แสนดี หวนกลับไปสุขซึ้งกับอดีตชั่วครั้งชั่วคราวได้แล้ว ในวัยขนาดนี้ เขาควรจะมีครอบครัวที่แสนสุข มีหน้าที่การงานที่ดี แต่ทุกอย่างดูอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไปไหน มีเพียงริ้วรอยบนใบหน้าเท่านั้นกระมังที่เปลี่ยนแปลง และก็คงเป็นสองคนนี้ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงเขาได้ หนึ่งคือ เท็ด เพื่อนตุ๊กตาหมีพูดได้ และสองคือ ลอรี่ แฟนสาวที่คบกันมาหลายปี แต่มันคงต้องผ่านบททดสอบบางอย่างเสียก่อน
หมีไม่แอ๊บ แสบได้อีก เป็นผลงานการหันมาทำภาพยนตร์เรื่องแรกของ Seth MacFarlane ผู้อยู่เบื้องหลังซีรี่ส์ฮิตอย่าง Family Guy, American Dad! and The Cleveland Show เขารับหน้าที่ทั้งเป็น นักเขียนบท ผู้กำกับฯ ผู้อำนวยการสร้าง และยังเป็นผู้พากย์เสียงเจ้าหมีเท็ด อีกด้วย
หนังเต็มไปด้วยมุขตลกทะลึ่งตึงตังโดยเฉพาะในเรื่องเพศ (มันถึงเรท R ยังไงล่ะ) มีทั้งมุขแบบแป้กๆ/หึๆ/ฮาๆ ปนกันไป ผสมกับแคแรคเตอร์ตุ๊กตาหมีที่เอาแต่หมกมุ่นเพียงเรื่องสาวๆ และเหล้ายาปลาปิ้ง แต่โดยเนื้อในแล้ว มันยังแฝงไว้ซึ่งแนวคิดบางอย่างที่ผู้ใหญ่บางคนต้องกลับมานั่งถามตัวเอง เราจะเก็บกอดความเป็นเด็กไว้เรื่อยไปได้หรือ?
ดูเหมือนบางคนยังคงเชื่อในปาฏิหาริย์ พวกเขาเฝ้าแต่อธิษฐานขอให้บางสิ่งที่หวังเป็นจริง แต่ใครจะรู้ว่า ปาฏิหาริย์ก็อาจเป็นจริงได้แค่เพียงในหนัง
เด็กน้อยเติบโตมากับเพื่อนที่เป็นตุ๊กตาหมีผ่านมาถึงวัย 35 ปี เขายังมีหมีเท็ดอยู่ข้างกาย จนมาพบรักกับ Lori Collins (Mila Kunis) ที่เริ่มจะเห็นเท็ดเป็นตัวกวนป่วนชีวิต แม้ในวัยขนาดนี้ เขายังติดแจอยู่กับเท็ดที่คอยชวนเขาเมาเหล้าสูบยา จนมันส่งผลให้เขาไม่ได้ไปไหนสักที