รีวิว Intolerable Cruelty

หนังตลกร้ายผสมโรแมนติกแบบแสบๆ ในสไตล์ของ 2 พี่น้อง Joel และ Ethan Coen ซึ่งผมอยากดูตั้งแต่ตอนดูตัวอย่างน่ะครับ มันฮาจี๊ดๆ และที่สำคัญคือได้ดาราเด็ดๆ อย่าง George Clooney และ Catherine Zeta-Jones มาเจอกันซะด้วย ดูได้ที่ดูหนัง

 

 

Clooney รับบท ไมลส์ แมสซีย์ ทนายชั้นเซียนที่ว่าความคดีไหนก็ชนะได้แบบไม่เกี่ยงวิธี และลูกความคนล่าสุดของเขาคือ เร็กซ์ เร็กซ์ร็อธ (Edward Herrmann) เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่โดนภรรยานามว่าแมริลีน (Zeta-Jones) ฟ้องหย่า หลังจากจับได้คาหนังคาเขาว่าเร็กซ์ไปมีอีหนู

แต่ทีนี้ไมลส์ก็ไม่ยอมแพ้ครับ หาทางว่าความเพื่อเอาชนะให้ได้ทุกวิถีทาง และขณะเดียวกันเขาก็ชักจะแอบชอบแม่สาวจอมแสบแมริลีนคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยหารู้ไม่ว่าแมริลีนร้ายกว่าที่เขาคิด และเขาก็กำลังจะตกหลุมแม่สาวนักตกทองคนนี้เข้าให้แล้ว

ตัวหนังอาจไม่ได้ลงตัวยอดเยี่ยม แต่ความสนุกอยู่ที่เหล่าดาราครับ เล่นกันได้สมบทแล้วก็บวกโทนแบบตัวการ์ตูนลงไป ซึ่งมันเป็นอะไรที่เข้ากับโทนของหนังมากๆ Clooney ก็ออกแนวพระเอกโอเวอร์ขี้เก๊ก กรุ้มกริ่มเจ้าคารม

แต่ที่ผมชอบเป็นพิเศษคือตอนแกทำหน้าทำตาสื่ออารมณ์ คือถ้าเป็นหนังปกติ Clooney ก็คงจะสื่ออารมณ์แบบกลางๆ ให้พอสัมผัสได้แต่ไม่ชัดมาก เรียกว่าสื่อแบบมนุษย์ปกติ แต่กับเรื่องนี้พี่แกเล่นแบบโอเวอร์แอ็คนิดๆ ว่าง่ายๆ คืออีโมหนักกว่าปกติน่ะครับ แต่เป็นอะไรที่เจ๋งนะครับ หนังมันดูเพลินดูฮาก็เพราะเห็นพี่แกอีโมๆ ดราม่าๆ แบบนี้นี่แหละ

ส่วน Zeta-Jones นี่ก็เหมาะกับบทสาวแสบร้ายลึก คือบททำนองนี้ต้องเธอเลยครับ ร้ายเปื้อนรอยยิ้ม แล้วหนังยังได้ดาราสมทบระดับเฉียบๆ อย่าง Geoffrey Rush, Cedric the Entertainer (คนนี้ตัวฮา) และ Billy Bob Thornton ที่มาพร้อมมาดนิ่งอันเป็นเอกลักษณ์ กล่าวคือหนังสนุกเพราะดาราเหล่านี้มาเฉือนฝีมือ (แบบฮาๆ) กันนี่แหละครับ

 

 

ในขณะที่เนื้อเรื่องอาจไม่มีอะไรนัก ซึ่งถ้าให้ว่าตามจริงนี่อาจเป็นหนังที่บทอ่อนที่สุดของพี่น้อง Coen อย่างงานหนังตลกเรื่องก่อนหน้าเช่น The Big Lebowski หรือ O Brother, Where Art Thou? ก็ยังฮาแบบมีน้ำมีเนื้อมากกว่า

ที่ว่าแบบนี้ไม่ได้แปลว่าหนังไม่สนุกนะครับ คือหนังนั้นก็ดูเพลินดี เพียงแต่ความเข้มของบทหรือความสดของหนังอาจไม่เท่าผลงานชิ้นอื่นๆ ของพี่น้อง Coen ที่มันจะมีประเด็นการจิกกัดที่โดนและสะท้อนสังคมกับความเป็นคนมากกว่านี้ ในขณะที่เรื่องนี้ดูจะขายขำและใช้พลังดาราเป็นตัวเดินมากกว่าสร้างปมคมๆ มาเป็นตัวเดิน ดูหนังออนไลน์2022

หรือถ้าว่าแบบตรงๆ ผมว่าหนังเรื่องนี้ถือว่าเข้าใกล้คำว่า “หนังตลาด” มากที่สุดของพวกเขาแล้วล่ะครับ

ในแง่รายได้ก็จัดว่ากลางๆ ครับ ทุนสร้างซัดไป $60 ล้าน ได้คืนมาจากทั่วโลกที่ $120 ล้าน ก็พอหักกลบลบทุนได้ (แต่รายได้ในบ้านไม่สวยเท่าไร ทำไปแค่ $35 ล้านเท้านั้นเอง)

แต่กระนั้นผมก็ชอบครับ มันดูเพลินดี คลายเครียดได้กำลังเหมาะ แค่เห็นพี่ George Clooney มาเก๊กๆ อีโมๆ ตลอดเรื่องนี่ก็ได้ใจแล้วครับ ดังนั้นสำหรับผมแล้ว ความดีของหนังคือการได้เห็นนักแสดงมาเล่นอะไรเว่อร์ๆ กัน (แบบพอดีๆ ไม่ล้น) แม้เนื้อเรื่องจะไม่ใหม่ (หนุ่มร้ายมารักกับสาวแสบ) แต่หนังก็ถือว่าดูเพลินในแนวของมัน

ขณะพูดบรรยายต่อหน้าเพื่อนทนายความ ณ งานสัมมนาที่ ลาสเวกัส ไมลส์ แมสซี่ย์ (จอร์จ คลูนี่ย์) ผู้กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งรัก ได้กล่าวประณามการมองโลกอย่างเย้นหยัน (cynicism) ว่าเป็นเหตุให้มนุษย์จำนวนมากไม่อาจเปิดใจเข้าหากัน พวกเขาใช้มันเป็นเกราะป้องกันความเจ็บปวด คิดว่ามันมอบคุณประโยชน์ แต่แท้จริงแล้วกลับให้โทษมหันต์ ทำร้ายพวกเขาโดยไม่ทันระวังตัว ทำให้พวกเขาหวาดกลัว ขาดศรัทธา ความเชื่อมั่นในสิ่งดีงามที่อาจไม่ปรากฏรูปร่างเด่นชัด ดังเช่น ความรักอันบริสุทธิ์

รีวิว Intolerable Cruelty

และในโลกนี้จะมีกลุ่มคนอาชีพใดเล่า ที่จะเสี่ยงต่อภาวะวิกฤติศรัทธา มากไปกว่าทนายความคดีหย่าร้าง เนื่องจากทุกวัน พวกเขาต้องรับมือกับคู่สามีภรรยาที่ขมขื่น จืดจาง บ้างถึงขั้นเกลียดชังและพยายามหาผลประโยชน์จากอีกฝ่ายอย่างสุดความสามารถ ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

ท่ามกลางสภาพการณ์เยี่ยงนี้ ไมลส์ได้ถามกลุ่มผู้ฟังร่วมอาชีพว่า พวกเขาจะเลือกแก้ไขปัญหาด้วยความรัก หรือ การประชดประชัน? เลือกจะบดขยี้เถ้าถ่านแห่งรักนั้น หรือ โหมประโคมมันให้กลับมาลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง?

พูดจบไมลส์ก็ประกาศ ‘กลับใจ’ ต่อหน้าทุกคน ว่าเขาจะเปลี่ยนไปทำงานเพื่อสังคม เป็นอาสาสมัครสู้คดีให้แก่ลูกความอนาถาทั่วไป อานุภาพแห่งรักอันบริสุทธิ์ได้ทำให้เขาเข้าใจในที่สุด ว่าเงินทองและชื่อเสียงที่สั่งสมมาตลอดชีวิตนั้นหาได้นำความสุขมาให้เขาเสมอไปไม่ ความรักเปลี่ยนแปลงทัศนคติของเขา จากผู้นิยมมองโลกแบบเย้ยหยัน มาเป็นผู้ที่เชื่อมั่น ศรัทธา

คงไม่น่าแปลกอะไร หากฉากข้างต้นปรากฏอยู่ในหนังรักของ คาเมรอน โครว หรือ นอร่า เอปรอน ซึ่งมักอบอวลไปด้วยการมองโลกสดใส ตัวละครที่ ‘รักดี’ โดยสันดาน และเนื้อหาเทิดทูนคุณค่าความรักเหนืออื่นใด แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม Intolerable Cruelty เป็นผลงานชิ้นล่าสุดของ โจเอล และ อีธาน โคน สองผู้กำกับ/เขียนบท ที่ถนัดอารมณ์ขันกระแนะกระแหน การสะท้อนด้านมืดในตัวมนุษย์

และวิธีเล่าเรื่องแบบถอยห่างหนึ่งช่วงแขนเหมือนพระเจ้าผู้เฝ้ามองสิ่งประดิษฐ์ของพระองค์ ‘ลงมา’ จากสรวงสวรรค์ ซึ่งนั่นเองกลายเป็นเหตุให้ทั้งสองถูกนักวิจารณ์บางกลุ่มกล่าวหาว่าชอบล้อเลียนตัวละคร ซึ่งบ่อยครั้งมักเปี่ยมบุคลิกประหลาดพิสดาร สมองทึบ แถมยังมีสำเนียงการพูดตลกๆอีกต่างหาก และมองพวกเขาด้วยท่าทีดูหมิ่น เหยียดหยาม พร้อมทั้งยก Fargo (1996) เป็นจำเลยหมายเลขหนึ่ง

นอกจากนั้น การที่สองพี่น้องโคนนิยมสร้างโลกขึ้นมาใหม่ผ่านมุมมองของวัฒนธรรมป็อปและภาพยนตร์ยุคเก่า แทนการจำลองโลกแห่งความเป็นจริง เช่น ใน The Hudsucker Proxy (1994)

และ Barton Fink (1991) ซึ่งฉากหลังค่อนข้างให้ความรู้สึกเหนือจริง ผสม ‘จินตนาการอ้างอิง’ เอาไว้ในปริมาณสูง ทำให้บางครั้งเหล่าตัวละครในหนังของพวกเขาถูกวิพากษ์ว่าเป็นเพียงเครื่องหมาย เป็นตัวแทน มากกว่าจะมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ จิตใจ และทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อมโยงทางอารมณ์ได้

หนังของโคนสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับรูปแบบภาพยนตร์ที่มีอยู่แล้วค่อนข้างสูง พวกมันถือกำเนิดขึ้นโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานความรู้ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ซึ่งแชร์ร่วมกันระหว่างคนดูกับผู้สร้าง ดูหนังออนไลน์ 4king

 

 

คนดูจำเป็นต้องเคยผ่านประสบการณ์คล้ายคลึงกันมาบ้างในการเข้าถึงหนังอย่างสมบูรณ์ ความทรงจำ ภาพลักษณ์ ตลอดจนการผสมผสาน คือ ปัจจัยสำคัญในการออกแบบหนังของพวกเขา กระนั้น จุดมุ่งหมายแท้จริงของสองพี่น้องโคนไม่ใช่การ ‘ลอกเลียน’ อดีต หากแต่ใช้มันเป็นรากฐานสำหรับถากถาง วิพากษ์ ตั้งคำถาม และท้าทายอุดมคติซ้ำซากแบบเดิมๆต่างหาก

พวกเขาเคยกล่าวว่า สาเหตุที่บทระบุเจาะจงให้ วิลเลี่ยม เอช. เมซี่ กับ สตีฟ บูเชมี ใน Fargo เป็นตัวละครโง่เง่า ไร้สติ จนน่าหัวเราะเยาะ ก็เพื่อต่อต้านภาพลักษณ์ของหนังฮอลลีวู้ด ที่ชอบนำเสนอเหล่าร้าย ว่าเป็นพวกหลักแหลม เปี่ยมทักษะมืออาชีพ

และควบคุมสถานการณ์ได้โดยตลอด เนื่องจากในความเป็นจริง อาชญากรส่วนใหญ่ล้วนไม่ได้ฉลาดล้ำ และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงถูกจับได้ ด้วยเหตุนี้เอง หนังของพวกเขาจึงให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับชีวิตจริงมากกว่าผลผลิตตามสูตรและแนวทางภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังดู

Miles Massey เป็นทนายความด้านการหย่าร้างที่น่าทึ่งและมีชื่อเสียงที่ได้รับมาอย่างดี เมื่อเขารับปากในคดีของเร็กซ์ เร็กซ์รอธ ผู้ซึ่งถูกจับได้ว่าโกงวิดีโอกับผู้หญิงอีกคน เขาชนะคดีได้สำเร็จและทิ้งแมรี่ลิน ภรรยาผู้ถูกกระทำผิดโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาก็ตกหลุมรักเธอเช่นกัน แต่เธอกำลังวางแผนที่จะล้มลงเพื่อแลกกับที่เธอสูญเสียทุกอย่างที่มี ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

รีวิว Intolerable Cruelty

 

ด้วยรายชื่อผู้มุ่งหวังคู่ใหญ่ ดูเหมือนว่า Coen กำลังมองหาภาพยนตร์ยอดนิยมที่จะสนับสนุนงานของพวกเขาในระดับที่มากกว่าฐานแฟนเพลงที่ภักดี ในฐานะที่เป็นภาพยนตร์ประเภทนั้น ดูเหมือนว่าจะทำได้ดี ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร

แต่ฉันสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ราคาเท่าไหร่? ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นได้ดีพอด้วยกร ณีที่น่าสนใจซึ่งจริงๆ แล้วเราเห็นเพียงเล็กน้อย แต่ตัวละครของ Miles ก็เพียงพอที่จะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ด้วยกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการผสมผสานระหว่างตัวละครที่มีขนาดใหญ่กว่าชีวิตและอารมณ์ขันแหวกแนวทั่วไป แต่ความโรแมนติกกลางใจไม่ถือเป็นจริงเสมอไป และมีหลายช่วงที่อารมณ์ขันค่อยๆ หายไปและพบว่ามีสิ่งที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยหากไม่มีมัน

ต้องบอกว่าสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยพอที่จะเป็นปัญหาและหนังก็ยังสนุกดีอยู่ ตัวละครกำลังสร้างและมีมากพอที่จะทำให้มันใช้งานได้ คลูนีย์เก่งในการเป็นผู้นำด้วยอารมณ์ขันแปลก ๆ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย

 

รีวิว Intolerable Cruelty

 

เป็นตัวละครแบบเดียวกับที่เขาเล่นใน “O Brother” ถ้าคุณถามฉัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจเรื่องการ์ตูน โจนส์มั่นใจน้อยลงและตัวละครของเธอมีอารมณ์ขันน้อยกว่าที่ฉันคาดหวังจากโคเอนส์และมีบทบาทตรงไปตรงมามากกว่า ทีมงานสนับสนุนทุกคนทำได้ดีเพราะมีอารมณ์ขันเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Wheezy Joe หรือพนักงานเสิร์ฟที่หยาบคาย

โดยรวมแล้ว มันไม่ใช่หนังที่ฉลาดที่สุดที่ Coen เคยทำมา ทั้งตลกหรือน่าพอใจที่สุด แต่ด้วยความโรแมนติกแบบมัลติเพล็กซ์ที่มีอารมณ์ขันแหวกแนว มันใช้ได้ผลและควรสนุกแบบนั้น ชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียวเว็บรีวิวหนัง