รีวิว Oh My Baby

“Oh My Baby” ซีรีส์รอมคอมน่ารักเบาๆ ช่อง tvN จากเกาหลีใต้ ที่ได้นางเอกขวัญใจคนทั้งชาติอย่าง “จางนารา” มารับบทหนัก ประกบคู่กับภารกิจตามหา(น้ำเชื้อ)พ่อของลูก นับว่าเป็นซีรีส์ตลกย่อยง่าย แต่แฝงไปด้วยประเด็นการสร้างครอบครัวที่บางครั้งก็ดูจริงจัง บางครั้งดูเพ้อฝัน แต่โดยรวมออกมาได้อย่างน่าใจ ด้วยเคมีของนักแสดงหลักที่เข้ากันได้ดีแบบแปลกๆ ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

ซีรีส์น่าจะเหมาะเจาะกับคนที่อยู่ในช่วงวัยผู้ใหญ่สร้างครอบครัว วัย 30-40 เป็นอย่างดี เพราะเนื้อหาน่าจะตรงกับประเด็นที่หลายๆ คนเผชิญและถูกกดดันจากสังคมรอบข้าง เหมือนกับตัวนางเอกที่กำลังจะย่างเข้าสู่วัยหลักสี่ แต่ยังเป็นโสดอยู่เลย แม้เธออยากจะมีลูกมากๆ จึงเกิดความคิดที่มีลูกโดยไม่ต้องมีพ่อของลูก

เธอจึงพยายามเสาะหาผู้ที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งให้ได้น้ำเชื้อมาทำผลผลิตให้ทันช่วงรถด่วนขบวนสุดท้าย แต่ว่าผู้ชายทั้ง 3 คนที่เป็นนอมีนีในครั้งนี้ ใครกันนะ…ที่จะเป็นผู้โชคดี ถือว่าซีรีส์ก็ออกอากาศไปได้พอประมาณระดับหนึ่ง ก็ถึงแก่เวลาที่เราจะต้องมาชำแหละเรื่องนี้กันสักหน่อย

จางนารา จางนารา จางนารา ผู้หญิงคนนี้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมาเกือบจะ 20 ปีแล้ว แต่ความหน้าเด็กหน้าใส “เบบี้เฟช” ของเธอนั้นเป็นกำไรชีวิตอย่างมากมาย จางนารา จึงกลายเป็นนางเอกที่กำลังย่างเข้าสู่วัยหลักสี่ แต่ยังสามารถใส่ชุดนักเรียนนักศึกษาในละครได้อยู่เลย รวมทั้งเสน่ห์ในทักษะแอคติ้งของเธอเผยให้เห็นความเป็นมืออาชีพที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเล่นบทซีเรียสก็ได้ทำ มาบทตลกเบาๆ ยิ่งเป็นของถนัด ซีรีส์เบาๆ กับจางนาราจึงกลายเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะผ่านมากี่เรื่อง ซีรีส์ของเธอมักจะเป็นที่กล่าวถึงและประสบความสำเร็จในหมู่ผู้ชมอยู่เสมอ นี่แหละ…นางเอกสาวขวัญใจคนเกาหลีมาเนิ่นนาน

ประเด็นครอบครัว เรื่องใกล้ตัวใครทุกคน แม้จะวางโครงเรื่องเอาไว้เป็นซีรีส์โรแมนติกคอมมาดีน่ารักๆ แต่ประเด็นหลักของเรื่องก็คงมีความหนักแน่นเกี่ยวกับสถาบันครอบครัวและการสร้างครอบครัว แน่นอนว่าเนื้อหาจะค่อนข้างเข้าถึงและใกล้ตัวคนในช่วงวัย 30-40 ปีโดยตรง เพราะช่วงชีวิตที่เริ่มเมินหน้าหนีกับการหาความสุขใส่ตัว แต่หันไปสร้างชีวิตคู่และครอบครัวเพื่ออนาคตที่มั่นคง

 

รีวิว Oh My Baby

 

เคมีนักแสดงดูแปลกๆ แต่กลับเข้ากันได้ดี ต้องยอมรับว่าตัวละครหลักเป็น 1 หญิง 3 ชาย ที่แคสติ้งออกมาดูรวมๆ แล้วประหลาดอยู่ไม่เบา แต่ก็ถือว่าโชคดีอยู่เหมือนกันที่ได้ จางนารา มาเป็นนางเอกของเรื่อง เพราะเธอผู้นี้ได้ชื่อว่าเป็น “นางเอกเคมีสาธารณะ” ไม่ว่าจะจับคู่ประกบกับพระเอกคนไหนก็ดูลงตัวกันได้อย่างประหลาด ไม่ว่าจะไปคู่กับ โกจุน เหมือนไปกันไม่ได้ แต่พอมาขึ้นจอด้วยกันกลับฟรุ้งฟริ้งน่ารักอย่างบอกไม่ถูก พอเปลี่ยนไปอยู่กับ พัคบยองอึน ก็มีความเฟรนด์โซนชวนหยุกหยิกไม่เบา และโคจรไปหารุ่นน้อง จองกันจู ก็กลายเป็นเคมีเลิฟไลน์นูนาขึ้นมาอย่างน่าพิศวง คนดูนี่..ฟินไปข้าง

พอลองมาว่าถึงมุมที่ยังไม่ประทับเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้ ก็ถือว่ายังไม่เจอเป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่ เพราะบางครั้งการเล่าเรื่องและดำเนินเรื่องก็ดูเนิบๆ ช้าๆ ไปบางจังหวะ จนทำให้รู้สึกอยากจะวางพักเอาไว้ก่อน แต่ก็กลับมามีแรงและพลังให้กลับมาดูต่อในฉากต่อไปอยู่ดี เพราะความน่าเอ็นดูของเคมีนักแสดงเป็นหลัก

รีวิว Oh My Baby

ขณะเดียวกัน ถึงแม้ว่าบทของซีรีส์จะค่อนข้างคลีเช่ หรือซ้ำๆ ซากๆ จากที่เคยเห็นซีรีส์แนวนี้มาก่อน แต่ต้องยอมรับว่ามีความพยายามฉีกประเด็นและการเล่าเรื่องให้แตกต่างกันไป ทำให้รู้สึกกว่าความจำเจนั้นไม่จำเจมากเท่าไหร่ ผนวกกับฉากสนุกๆ สีสันที่ใส่เข้ามาเป็นระยะ ทำให้ภาพรวมก็ยังสร้างความบันเทิงได้ดี ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

เอาเป็นว่า Oh My Baby เป็นอีกหนึ่งซีรีส์น่ารักที่ดูได้เพลินๆ แค่บอกว่า จางนารา เป็นนางเอกของเรื่องก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังแล้ว…จริงๆ นะ ติดตามซีรีส์เรื่องนี้ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี ทางช่อง tvN เวลา 22.50 น. ตามเวลาท้องถิ่นในเกาหลีใต้

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จกับช่วงเวลานี้ บางคนพยายามแทบตายแต่ก็พังทลาย บางคนเสาะหาอยู่ทุกวันแต่ก็ไม่พบ บางคนเลือกปิดกั้นตัวเองเพราะอดีตที่ฝังใจ บทซีรีส์เรื่องนี้ได้ทำการตีแผ่แนวความคิดแต่ละมุมของช่วงวัยผู้ใหญ่ที่ต้องสร้างความมั่นคงในชีวิต แม้จะมีโหมดทะเล้นๆ เบาสมองบ้าง แต่ก็มีโหมดซีเรียสจริงจังแทรกเข้ามาเติมเต็มอยู่เรื่อยๆ

อีกหนึ่งซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ที่ชวนให้ผู้ชมร่วมกันตามหาความสุขของชีวิตมากกว่าการพยายามทำตามกฎเกณฑ์ของสังคมกับ Oh My Baby ซีรีส์ใหม่ของผู้กำกับ The Beauty Inside และ Voice 3 ที่ได้นักแสดงหญิงมากความสามารถอย่าง จางนารา มาร่วมถ่ายทอดชีวิตของสาวโสดที่อยากมีลูกโดยไม่แต่งงาน!

Oh My Baby เล่าเรื่องราวของ จางฮารี (รับบทโดย จางนารา) รองหัวหน้าฝ่ายนิตยสาร The Baby สาวโสดวัย 39 ปี ผู้บ้างานและต้องการมีลูกโดยไม่ต้องแต่งงาน ที่อยู่ๆ ชีวิตรักที่เงียบเหงากว่า 10 ปีของเธอ กลับมีผู้ชายเดินเข้ามาถึง 3 คน คือ ฮันอีซัง (รับบทโดย โกจุน) ช่างภาพอิสระ ผู้รักชีวิตโสดและพยายามหางานอดิเรกใหม่ๆ อยู่เสมอ ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟรี

 

 

ยุนแจยอง (รับบทโดย พัคบยองอึน) กุมารแพทย์ เพื่อนสนิทของ จางฮารี ที่ตื่นมาวันหนึ่งพบว่าตัวเองกลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว และ ชเวคังอือตึม (รับบทโดย จองกอนจู) พนักงานหนุ่มหน้าใหม่ของ The Baby ผู้มองโลกในแง่ดี ซึ่งการปรากฏตัวของพวกเขา 3 คน ทำให้ชีวิตของ จางฮารี ที่ยอมแพ้กับความรักมานานเริ่มเปลี่ยนไป

โดย จางนารา กล่าวถึงบท จางฮารี และซีรีส์ที่เธอแสดงนำว่า “จางฮารี เป็นคาแรกเตอร์ที่ร่าเริง ซื่อสัตย์ และไม่ปกปิดในสิ่งที่เธอคิดหรือรู้สึกค่ะ นอกจากนี้ฉันคิดว่า Oh My Baby มีความเกี่ยวข้องกับใครอีกหลายคนเรื่องการแต่งงาน ความรัก และการตั้งครรภ์ โดยในซีรีส์จะมีหลายครั้ง หลายฉาก ที่ทำให้คุณมีอารมณ์ร่วม แต่ในขณะเดียวกันก็มีฉากที่ค่อนข้างเป็นคอมิกมากมาย ซึ่งจะทำให้คุณสามารถดูได้โดยไม่รู้สึกกดดันค่ะ”

 

รีวิว Oh My Baby

 

ความน่าสนใจของ Oh My Baby นั้นไม่ได้มีเพียงแค่ทีมนักแสดงที่น่าสนใจเท่านั้น  แต่ทว่าชื่อของผู้กำกับ นัมกีฮุน ซึ่งเคยฝากผลงานไว้กับซีรีส์ Tunnel, The Beauty Inside และ Voice 3 ก็เรียกความสนใจได้ไม่น้อย โดยเฉพาะกับซีรีส์ The Beauty Inside ที่เคยทำให้หลายคนประทับใจกับความรักที่มาจากภายในที่แท้จริงมาแล้ว โดย Oh My Baby นับเป็นผลงานลำดับที่ 4 ของเขา ซึ่งร่วมงานกับนักเขียนบท โนซอนแจ

ความรู้สึกหลังดู

“โอ้ มาย เบบี้” เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าความรักจะน่าเบื่อไปหน่อยก็ตาม ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

ละครเรื่องนี้มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความฝันของนางเอกในการเป็นแม่ และลูกเยอะ!! ความโรแมนติกก็ยังดีแม้ว่าความรักจะน่าเบื่อ ชายคนหนึ่งถูกคัดออกอย่างรวดเร็วและในที่สุดผู้นำคนที่สองก็น่ารำคาญเกินไปในตอนท้าย ละครทั้งหมดในตอนสุดท้ายเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักแสดงนำชายที่กลับมาและคุ้มค่าเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องการ สิ่งที่เขารู้สึก และสิ่งที่เขาควรทำ

ซึ่งค่อนข้างจะเอ๋อๆ อยู่บ้าง เพราะมีทางเลือกต่างๆ (ถ้าแต่งงานก็สมัครรับไปเลี้ยงได้ เช่น เขาเป็นช่างภาพที่รวย หล่อนชอบเด็กและเด็กๆ มาก และเท่าที่เห็นในหลายๆ ที่ ละครเกาหลี การรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมไม่ใช่เรื่องใหญ่ในสังคมเกาหลี เว้นแต่ฉันจะผิด) ใช่แล้ว ละครทั้งเรื่องน่าจะลดลงได้

แต่โดยรวมแล้ว Oh My Baby ค่อนข้างสนุก นางเอกแสดงได้ดีกับตัวละครของเธอ เธอทั้งโศกนาฏกรรมและสนุกสนาน ความโรแมนติกทั้งหมดดำเนินไปอย่างสวยงามเช่นกัน และความรู้สึกของละครก็สมบูรณ์แบบ ดังนั้นเจ็ดครึ่งในสิบ

เป็นซีรีย์ที่นับวันถึงตอนต่อไปค่ะ เนื้อหาตรงใจมากค่ะ นักแสดงนำก็ยอดเยี่ยมทุกคน จางนาราและโกจุนมีเคมีที่ดี โกจุนควรทำโรแมนติกคอมเมดี้มากกว่านี้เพราะหน้าตาและเสียงที่ร้อนแรงของเขา ฉันหัวเราะและร้องไห้ในแต่ละตอน ขอแนะนำซีรีย์นี้เลย

มันเริ่มต้นเหมือนละคร/คอมเมดี้ที่หนักแน่น ถูกลากไปมาระหว่างนั้น และตอนจบก็รู้สึกเร่งรีบเล็กน้อยเช่นเดียวกับละครหลายๆ เรื่องในตอนสุดท้ายของพวกเขา ฉันดูสดเมื่อได้ดูจางนาราใน VIP ที่ตัวละครของเธอจริงจังมากขึ้น ดังนั้นการดูเธอน่ารักครั้งนี้จึงแปลกนิดหน่อย เช่นเดียวกับโกจุน ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นเขาอยู่ใน The Fiery Priest และเขาเล่นเป็นตัวร้ายที่น่าเชื่อ แต่หนังโรแมนติกคอมเมดี้ดูเหมือนจะไม่เหมาะกับเขาเลย

โดยรวมแล้ว ละครโอเคที่มีแนวคิด/ค่านิยมที่สัมพันธ์กันซึ่งทำให้ทุกอย่างจะโอเค/ รู้สึกดี และหลายครั้งก็เกินพอสำหรับฉัน ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียวเว็บรีวิวหนัง