รีวิว Into the Ring

ซีรีส์แนวออฟฟิศ โรแมนติกคอมเมดี้ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ กูเซรา (รับบทโดย นานะ) หญิงสาวผู้ชอบช่วยเหลือผู้คนในการจัดการปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นเอกสาร หาแนวทางแก้ไขปัญหา จนกระทั่งเธอได้มาพบความรักที่สำนักงานเขตท้องถิ่นของเธอ ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

หญิงสาวผู้ผ่านงานทุกอย่างที่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็น เด็กฝึกงาน พนักงานสัญญาจ้าง ผู้ช่วย พนักงานพาร์ตไทม์ ฯลฯ และ เหตุผลที่ทำให้เธอไม่สามารถทำงานประจำได้สักที เป็นเพราะว่าเธอมัวแต่ง่วนกับการยื่นเอกสารร้องเรียนเรื่องต่างๆที่เธอรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม ในสำนักงานของรัฐฯ ซึ่งเธอเป็นคนประเภทที่เมื่อสนใจในเรื่องไหนแล้วก็จะทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่จนกว่าสิ่งนั้นจะสำเร็จ

ทำงานในฐานะข้าราชการประจำหน่วยบริการสาธารณะในระดับเกรด 5 ชายหนุ่มผู้ยึดมั่นในหลักการของตนเองไม่ว่าจะเจอเรื่องอื่นใดมาขวางกั้นก็ตามและเขายังสามารถทำหน้าที่ในการทำงานของเขาได้ดีอีกด้วย คนอื่นไม่ค่อยชอบเขามากเท่าไหร่เพราะบุคลิกที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย จนวันหนึ่งเขาต้องมาเกี่ยวข้องกับกูเซรา

ทำงานแค่ปีละ 90 วัน แต่มีรายได้มโหฬารถึง 50 ล้านวอน (1.4 ล้านบาท) ต่อปี ฟังจากคำโฆษณาข้างต้น เป็นใครก็คงอยากลองสมัครงานตำแหน่งนี้ดูสักตั้ง เช่นกันกับ กูเซรา นางเอกสาวในซีรีส์เรื่อง Into The Ring (2020) ที่ถูกโชคชะตากลั่นแกล้งให้กลายเป็นคนตกงานกระทันหัน พร้อมหนี้สินของครอบครัวอีก 50 ล้านวอน

จนท้ายที่สุดเธอก็ตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่ ด้วยการลงสมัครเข้าชิงตำแหน่งสมาชิกสภาเขต (สข.) “งานที่ทำเงินให้คุณ 50 ล้านวอน จากการทำงาน 90 วันต่อปี ก็คือสมาชิกสภาเขตไงล่ะ!

นอกเหนือจากเรื่องหน้าที่การงานแล้ว กูเซรายังมีอีกบทบาทหนึ่งในชีวิตคือ “ผีเสื้อกลางคืนลายเสือ” Active Citizen อันดับหนึ่งของเขตมาวอน ผู้ทำหน้าที่ส่งเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ และคนที่ต้องรับมือกับคำร้องเรียนทั้งหมดนี้ก็คือ พนักงานน้องใหม่ในสำนักงานเขตมาวอนอย่าง ซอกงมยอง ชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตตามกฎระเบียบอย่างเอาจริงเอาจังเป็นที่สุด

ว่ากันตามตรง เส้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกูเซราและซอกงมยองนั้น เป็นไปตามสูตรสำเร็จซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกคอมเมดี้ในยุค 2010s ตอนปลายอย่างครบถ้วน คือเริ่มต้นจากภูมิหลังความเป็นเพื่อนในวัยเด็กโดยที่ฝ่ายหนึ่งมีปมปัญหากับครอบครัว เมื่อเวลาผ่านไปทั้งสองจึงได้โคจรมาเจอกันอีกครั้ง แม้จะมีนิสัยต่างกันสุดขั้วแต่ก็เติมเต็มซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี

หากนั่นเป็นเพียงแค่น้ำตาลรสหวานที่ฉาบเคลือบเอาไว้ ภายใต้เส้นเรื่องโรแมนติกที่บรรยายมาทั้งหมด Into The Ring ตั้งใจเล่าประเด็นการเมืองระดับท้องถิ่น ทั้งเสียดสี ตีแผ่ และเชื่อมโยงเข้ากับชีวิตประจำวันของเราได้อย่างใกล้เคียงจนน่าตกใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นผลงานที่ชนะการประกวดเขียนบทละครครั้งที่ 10 ณ ประเทศเกาหลี

การเมืองแบบบ้านๆ โจทย์แรกที่ซีรีส์เรื่องนี้ต้องผ่านไปให้ได้ก็คือ จะเล่าการเมืองอย่างไรให้ไม่น่าเบื่อ ไม่เกินจริง และไม่ได้มีแต่ภาพนักการเมืองทะเลาะกันในสภา หรือการล็อบบี้กันบนโต๊ะอาหารมื้อหรู ฉากหลังของเรื่องจึงอยู่ในสภาเขตขนาดเล็ก ไม่ใช่สภาผู้แทนราษฎรหรือทำเนียบประธานาธิบดี ตัวละครหลักก็เป็นแค่คนเดินถนนธรรมดา ที่บังเอิญจับพลัดจับผลูไปนั่งอยู่ในสภาเขต ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร

 

 

และในขณะที่ปมการเมืองดำเนินไปอย่างหนักหน่วง แต่บรรยากาศของเรื่องก็ยังคงความรู้สึกของการเมืองท้องถิ่นในแบบบ้านๆ ที่จับต้องได้ และมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร อย่างการเลือกใช้ร้านเช่าหนังสือการ์ตูนเป็นฐานเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครอิสระที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง หรือภาพการยืนหาเสียงตามหน้าโรงเรียนในชุมชนเพื่อดึงคะแนนเสียงจากบรรดาผู้ปกครอง ที่บางครั้งก็ได้เสียงเชียร์จากเด็กๆ ที่เดินผ่านมาเป็นของแถม

ภาพการเมืองในแบบที่ Into The Ring นำเสนอนั้นจึงเป็นมิตร และสอดคล้องไปกับภาพรวมของซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ได้อย่างกลมกล่องลงตัว

การเมืองเช้าชามเย็นชาม ซอกงมยอง หรือพระเอกของเรื่องนั้น จัดว่าเป็นตัวละครที่ออกจะเถรตรงเกินกว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมไปไม่น้อย สาเหตุที่เขาถูกเด้งจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการวางแผนและกลยุทธ์ ให้กลายมาเป็นพนักงานรับเรื่องร้องเรียนในสำนักงานเขต ก็เป็นเพราะนิสัยตรงต่อเวลาเกินมนุษย์มนา

ตั้งแต่ 12.00 – 13.00 น. คือช่วงเวลาพักเที่ยงที่ซอกงมยองใช้อย่างไม่ขาดไม่เกินสักวินาที เช่นกันกับเวลาเลิกงานที่เขาจะต้องลุกออกจากโต๊ะตอน 16.00 น. ตามที่กำหนดไว้เป๊ะๆ ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่อยู่ในห้องประชุมแผนงานประจำปี

หากว่ากันตามหลักการแล้ว ซอกงมยองก็คือข้าราชการที่ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับแบบไม่ขาดไม่เกิน แต่เมื่ออาชีพข้าราชการของเขาตกไปอยู่ภายใต้ค่านิยมที่ว่า “ทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน” หรือ “กินเงินภาษีประชาชน” ซอกงมยองจึงกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวต่อหน้าที่การงานไปโดยปริยาย

แน่นอนว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดแต่ในซีรีส์เท่านั้น ในชีวิตจริงพวกเราก็ยังคงพบเห็นข้าราชการที่ทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแบบไม่ขาดไม่เกิน จนถูกเหน็บแนมเอาว่าเป็นพวก “เช้าชามเย็นชาม” แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่ประเด็นที่มีบทสรุปตายตัว แต่ซีรีส์ก็ได้นำเสนอมิติที่น่าสนใจของงานราชการ ผ่านมุมมองและพัฒนาการของตัวละครซอกงมยองที่เราจะได้เฝ้ามองตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย

 

รีวิว Into the Ring

 

การเมืองและเรื่องร้องเรียน “ไดอารี่คำร้องเรียน” คือหมัดเด็ดที่พากูเซราเข้าสู่สภาเขตมาวอนได้อย่างเฉียดฉิวในนาทีสุดท้าย ย้อนกลับไปก่อนที่จะได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง งานอดิเรกของกูเซราคือการส่งเรื่องร้องเรียนไปที่เขต พร้อมทั้งจดบันทึกข้อร้องเรียนเหล่านั้นลงสมุดอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี

เนื้อหาในเล่มนั้นไล่มาตั้งแต่ ปัญหาการจัดงานเทศกาลเสียงดังจนสร้างมลภาวะทางเสียงในเขตชุมชน การขายกุ้งดองเค็มที่ไม่ได้มาตรฐานจนผู้บริโภคมีอาการป่วย นอกจากนั้นกูเซราก็ยังมีข้อเสนอแนะสำหรับหน่วยงานต่างๆ ที่ควรต่อยอดในอนาคต อย่างการเดินสายตรวจสุขภาพตามบ้าน หรือการเพิ่มลูกระนาดในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุจราจรบ่อย

และก็เป็นสมุดบันทึกเล่มนี้ ที่เปลี่ยนใจให้ซนอึนชิล ผู้สมัครตัวเต็งตัดสินใจหลีกทางและสนับสนุนจนกูเซราได้มีโอกาสเป็นสข.ตามที่ตั้งใจ

แม้ว่าการเป็น สข.ไร้สังกัด บวกกับนิสัยคนกล้าพูดกล้าถามอยู่เสมอนั้น จะทำให้กูเซราดูเหมือนเป็นพวกนอกคอกในสภา แต่ในอีกแง่หนึ่งเธอก็ช่วยแทนสายตาของผู้ชมอย่างเราๆ ที่ไม่คุ้นชินกับกลไกทางการเมืองต่างๆ อย่างการเสนอเทศบัญญัติ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือกระบวนการล่ารายชื่อ

ยิ่งไปกว่านั้น นิสัยช่างร้องเรียนที่กูเซรามีอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ก็ช่วยกระตุ้นถามประเด็นที่น่าสงสัยในวาระการประชุมต่างๆ ซึ่งประชาชนคนเดินถนนทั่วไปอาจไม่เคยนึกสงสัยในชีวิตจริง อย่างความสำคัญของรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งมีผลกระทบมากจนถึงขั้นที่สามารถคร่าชีวิตคนได้เลยทีเดียว

รีวิว Into the Ring

ท้ายที่สุดแล้วหากเราจะรับเอาความเป็นกูเซรามาใส่ตัวเองสักนิด ตื่นตัวและกล้าวิพากษ์ประเด็นต่างๆ ในสังคมรอบตัวให้มากขึ้นอีกหน่อยก็คงจะดีไม่น้อย ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

ซีรีย์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ กูเซรา นานะ นางเอกของเรื่องที่หันมาลงเล่นการเมืองท้องถิ่นเพียงเพราะต้องการนำเงินเดือนไปใช้หนี้ของครอบครัว และ ซอคงมยอง พัคซองฮุน ข้าราชการหนุ่มระดับสูงแต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างทำให้เค้าต้องมาทำงานประหนึ่งเบ๊ในองค์กร แล้วพอกูเซราชนะการเลือกตั้งเข้ามา แม้ว่าจุดประสงค์หลักจะเพื่อเงินก็เถอะ แต่ด้วยนิสัยที่นางชอบการเรียกร้องความยุติธรรมและชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เป็นทุนเดิม

ก็เลยใช้โอกาสนี้พยายามช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ตามที่มีคนร้องเรียนเข้ามา โดยมีพระเอก ซอคงมยองคอยช่วยเหลือเธอ (พระนางของเรื่องเคยเป็นเพื่อนสนิทกันตอนเด็กเพราะพ่อของทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน แม้จะมีเหตุกาณ์ที่ทั้งคู่ต้องจากกัน แต่พอกลับมาเจอกันอีกครั้งมันก็จูนเข้าหากันง่าย) แต่การจะช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตัวพระนางก็ต้องเผชิญกับพวกขั้วอำนาจเก่า ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นอีก คือนางเอกของเรื่องมีศัตรูอยู่รอบด้านเลยทีเดียว แต่ๆๆ ศัตรูที่ว่าก็ไม่ได้ร้ายกาจจนกูเซรานางเอกของเรื่องรับมือไม่ไหวนะ

แต่มีการชิงไหวชิงพริบ สลับกันแพ้ชนะตลอดทั้งเรื่อง เอาเป็นว่าซีรีย์ดูสนุกและเราจะได้เห็นอีกด้านหนึ่งของการเมืองท้องถิ่นเกาหลีด้วย สิ่งที่ชอบในซีรีย์เรื่องนี้ อย่างแรกคือชอบตัวละคร กูเซรานางเอกมากกก เพราะไม่ว่านางจะเจออุปสรรคอะไร นางก็ไม่เคยยอมแพ้ และไม่ว่านางคิดจะทำอะไรนางก็จะเต็มที่กับทุกเรื่องที่ทำ ถ้าดูซีรีย์เรื่องนี้จนจบทุกคนจะเห็นว่า ซีรีย์เรื่องนี้จะเด่นไปทางนางเอกของเรื่องมากกว่า เพราะตัวซีรีย์จะบอกเล่าไปในมุมมองของกูเซราซะส่วนใหญ่ ในเรื่องจะเห็นได้เลยว่าชีวิตนางเอกไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และอะไรที่ได้มาง่ายมันก็มาพร้อมปัญหา แอดชอบในความเรียลของเนื้อเรื่องนี้นี่แหละ

เพราะชีวิตจริงมันจริงมันยิ่งกว่าละคร ต่อมาแอดชอบความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่อง ไม่ว่าจะความสัมพันธ์ของพระนางที่มันเป็นความรักที่ค่อยเป็นค่อยไป ยิ่งดูยิ่งฟินแบบจิกหมอนขาดไปหลายใบเลยทีเดียว เคมีพระนางเรื่องนี้เค้าโคตรจะเข้ากันอ่ะ ชอบพระเอกที่คอยซัพพอร์ตนางเอกตลอดน่ารักมากก แค่มีใครซักคนอยู่ข้างเราแบบนี้ก็ถือว่าโชคดีมาก

แม้โลกภายนอกจะโหดร้ายก็เถอะ อีกหนึ่งความสัมพันธ์ที่ชอบคือกลุ่มเพื่อนนางเอกและหนุ่มน้อยประจำกลุ่มที่คอยช่วยเหลือนางเอกแบบสุดพลัง และอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขตลอด และความสัมพันธ์ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือพ่อและแม่ของนางเอกที่แม้บางครั้งจะดูขัดใจเราไปบ้าง แต่ดูไปดูมามันโคตรจะอบอุ่น ความโชคดีของนางเอกเรื่องนี้ก็คือคนรอบตัวนางนี่แหละ

ในชีวิตจริงของคนเราแค่มีใครซักคนแค่คนเดียวก็พอที่พร้อมซัพพอร์ตแค่นั้นก็เพียงพอมากแล้ว อีกเรื่องที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของงานภาพ ชอบงานภาพซีรีย์เรื่องนี้มาก ชอบมุมกล้อง มันต่างจากซีรีย์เรื่องอื่น อยากให้ลองไปดูกัน ถ้าถามว่าควรดูซีรีย์เรื่องนี้รึเปล่า บอกตามตรงว่าเป็นอีกซีรีย์ที่อยากให้ดู ดูแล้วมันได้แรงผลักดันบางอย่าง ชอบความเรียลของซีรีย์ ชอบมุกตลกร้ายขายขำของเรื่อง ชอบความฟินจิกหมอนระดับสิบ และชอบความอบอุ่นที่สัมผัสได้ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ดีไปดูเถอะ

ความรู้สึกหลังดู

“Into the Ring” เป็นละครที่ค่อนข้างสนุก ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

เป็นตัวละครที่ขับเคลื่อนด้วยตัวละครนำหญิงที่เล่นโวหารและมีพลังที่ครองทุกฉากที่เธออยู่ Nana ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมกับตัวละครของเธอและเธอก็เป็นหนึ่งในเซอร์ไพรส์ที่ดีที่สุดของปีนี้ เธอดึงคูเซราออกไปอย่างเชี่ยวชาญและไม่หักโหมจนเกินไป นักแสดงที่เหลือก็ทำได้ดีเช่นกัน

สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ได้ผสมผสานความตลกขบขัน ความโรแมนติก และการเมืองเข้าไว้ด้วยกันอย่างสวยงามซึ่งให้ความบันเทิงและไม่โอ้อวด ความโรแมนติกมีความสมจริง ละเอียดอ่อน เนื่องจากไม่ได้ใช้เวลากับเรื่องราวจริง และช่วยให้ทั้งคู่มีเคมีเข้ากัน นอกจากนี้ความตลกขบขันก็เพียงพอแล้วซึ่งส่วนใหญ่ผลิตโดยตัวละคร สุดท้าย การเมืองกับคดีคอร์รัปชั่นค่อนข้างเข้มข้น ไม่ซับซ้อน สับสน หรือน่าเบื่อหน่ายที่จะติดตาม

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ละครเรื่องนี้รับมือได้ไม่ดี นอกจากกล้องแปลก ๆ ที่ทำงานกับมุมสูงและระยะใกล้คือตอนสุดท้าย มันเร่งรีบ บางส่วน และไม่ใช่สิ่งที่เราควรคาดหวังจากละครที่ค่อนข้างจะคงเส้นคงวาจนถึงตอนนั้น โดยรวมแล้วเก้าในสิบ

นานะและพัคซองฮุนเป็นคู่รักโรแมนติกที่น่ารักตั้งแต่ต้นจนจบ ความฮาและความโรแมนติกกระจัดกระจายไปทุกตอน ตัวละครข้างเคียงทุกตัวแสดงได้ดีมาก OST น่าทึ่งมาก รักมัน! เหตุผลหลักในการดูคือ นานะ… ซึ่งเล่นละครดีมาสามเรื่องในปีที่ผ่านมา ในเรื่องนี้ ในที่สุดเธอก็ได้เล่นตลกและโรแมนติก… และเธอก็ทำได้ยอดเยี่ยม เธอสมควรได้รับรางวัลในช่วงปลายปี

หญิงสาว Goo Se-ra ผู้ซึ่งเคยเป็นผู้ร้องเรียนต่อเนื่องในสภาท้องถิ่นมาหลายปีตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ น่าแปลกที่เธอชนะและถึงแม้เธอจะเป็นคนงี่เง่าเล็กน้อยและใส่หัวใจของเธอบนแขนเสื้อของเธอ เธอก็เริ่มปรับปรุงชีวิตคนในท้องถิ่น บทนำแสดงโดย Jin-Ah Im อย่างโดดเด่น โดยมีสิทธิ์ที่จะคลั่งไคล้ที่จะน่ารักแต่ไม่ถึงกับสูงส่ง นักแสดงสมทบยอดเยี่ยม โดยเฉพาะฝ่ายหญิง ถ่ายทำและดำเนินเรื่องได้ดี โรแมนติกคอมเมดี้เบาๆ ที่ให้ความรู้สึกดีๆ

ฉันไม่ค่อยได้ดูละครโรแมนติกคอมเมดี้แต่นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่มี นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับการเมืองและการยึดมั่นในหลักการของคุณและตัวตนของคุณ แนวโรแมนติกไม่โดดเด่น สิ่งที่ทำให้ฉันได้จริงๆคือภาพยนต์มุมกว้าง ฉันเป็นช่างภาพที่รักษาความสนใจจากอีกมุมมองหนึ่ง โอ้ ใช่ ทั้งตลกและการเมืองท้องถิ่นด้วย

 

รีวิว Into the Ring

 

ชื่อตัวละครหลักในภาษาเกาหลีคล้ายกับก็อตซิล่า และในความคิดของนักการเมืองคนอื่นๆ เธอคือสัตว์ประหลาด ข้าราชการที่แสวงหาความยุติธรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เธอถูกจับคู่กับเสมียนเมืองที่ปราณีต ซื่อสัตย์ และรอบรู้ ไม่ พวกเขาไม่ชนะทุกการต่อสู้ แต่กระบวนการของแต่ละความท้าทายนั้นสนุกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบฉากที่ดี ตัวละครสนับสนุน เช่น เด็ก พ่อแม่ของเด็กผู้หญิง เพื่อนที่ซื่อสัตย์ของเธอ 2 คน และนักการเมืองแฝดสาม

โอ้เดี๋ยวก่อน! นี่เป็นอย่างอื่น! สิ่งใหม่และน่าตื่นเต้นและยอดเยี่ยมและตลกและฉลาด ทำเครื่องหมายที่ช่องทั้งหมด แต่ยังเพิ่มช่องใหม่ที่สร้างความต้องการใหม่สำหรับซีรีส์ที่จะมาถึง อารมณ์ขันและเฉลียวฉลาดกับนักแสดงนำหญิงที่ยอดเยี่ยมซึ่งสนับสนุนโดยนักแสดงนำชายที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันและเคมีที่น่าทึ่งระหว่างพวกเขา ละครเรื่องนี้ให้ความรู้สึกสดชื่นและทันสมัย

แต่เครดิตต้องไปที่นางเอก เธอมีรูปลักษณ์ เสน่ห์ ความสดใส และเสน่ห์ที่เติมเต็มหน้าจอ (และบทบาทของเธอ) ได้อย่างง่ายดายและสนุกสนานอย่างเป็นธรรมชาติ และรอยยิ้มและเสียงหัวเราะนั้นติดเชื้ออย่างแน่นอน และเข้าถึงคำถามที่ยั่วยุมากขึ้นเกี่ยวกับโครงสร้างทางสังคมในปัจจุบัน ยอดเยี่ยม! เอนหลังและเพลิดเพลินกับการนั่ง ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียวเว็บรีวิวหนัง