รีวิว Eccentric Chef Moon

ในเรื่องนี้ Eccentric ! Chef Moon เอริค มุนได้รับบทเป็นมุนซึงโมเชฟชั้นยอดที่ครอบครัวเป็นเจ้าของร้านอาหารซุปหมูที่มีขายมาอย่างยาวนานถึง 80 ปี ต่อมาเขาได้มาเจอกับยูยูจิน ที่รับบทโดยโกวอนฮี นักออกแบบแฟชั่นชื่อดังผู้มีความจำเสื่อมและแน่นอนว่าเรื่องราววุ่น ๆ ก็เกิดขึ้น Chef Moon เป็นที่รู้จักในการทำอาหารเกาหลีให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกผ่านร้านอาหาร ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

นอกจากนี้เขาต้องแน่ใจว่าได้เลือกส่วนผสมที่มีคุณภาพเท่านั้นนั่นหมายถึงว่าเขายอมไปต่างประเทศเพื่อรับชุดวัตถุดิบที่สดใหม่ ความใส่ใจในรายละเอียดนี้ทำให้แม้แต่ชามข้าวที่ปรุงรสอย่างดีก็ยังเป็นอาหารที่น่ารื่นรมย์

ในหมู่บ้านเล็กๆที่เงียบสงบ เชฟหนุ่มใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายหลังจากสูญเสียพ่อแม่ไป เขาอยู่กับลูกสาวตัวน้อยๆ วันหนึ่งหญิงสาวคนหนึ่งก็มาปรากฏตัวต่อหน้าโดยที่เธอจำอะไรไม่ได้เลย และเมื่อเขารับดูแลเธอความวุ่นวายก็เกิดขึ้นแต่ในความวุ่นวายนั้นก็กลับทำให้เขายิ้มได้ ความรักและปัญหาที่ก่อตัวเข้ามาจะทำให้ทั้งคู่เดินหน้าต่อไปได้ไหมไปดูกันค่ะ

ณ หมู่บ้านซอฮาที่เขตนนยางที่เป็นบ้านเกิดของแม่มุนซึงโมเขากำลังตัดสินใจว่าจะขายไปบ้านเพื่อกลับไปยังกรุงโซล ในขณะนั้นเองเขาได้เจอหญิงคนหนึ่งที่เชิงเขาด้วยความที่เธอความจำเสื่อมเขาจึงใจดูแล แต่เพราะความจำเสื่อมของเธอทำให้เธอมีอารมณ์ที่หลากหลาย และแล้วความวุ่นวายได้มาเยือนชีวิตอันสงบของเขาแล้ว

ซีรีส์เรื่องนี้ยิ่งโด่งดังขึ้นมากจากการที่เอริคเป็นแขกรับเชิญในรายการวาไรตี้ทำอาหารเช่น“ Three Meals a Day” ทางช่อง tvN ทำให้ละครเรื่องนี้เป็นการเดินทางที่น่าเพลิดเพลินสำหรับผู้ชมในการค้นพบอาหารเกาหลีและเพลิดเพลินไปกับทักษะการใช้มีดอันแหลมคมของเอริคเพราะว่าเขาแสดงได้สมบทบาทมาก

 

รีวิว Eccentric Chef Moon

 

แต่เจ้าของบล็อกกลับมาจากไปเที่ยวเยี่ยมพี่สาวคนสวยที่เขาใหญ่เมื่อปลายเดือนมีนาคม  เจ้าหลานสาวตัวดีก็สอบปลายภาค  พอหลานสาวสอบเสร็จก็พอดีกับน้องวิทระลอกสามมาพอดี  บ้านเจ้าของบล็อกไม่ออกนอกบ้าน  (ถ้าไม่จำเป็น)  กันอย่างเคร่งครัดมาก  คุณชายกับแม่น้ำปิงก็  work  from  home  มาตั้งแต่นั้นจนถึงตอนนี้  และถึงแม่น้ำปิงจะรับวัคซีนครบ  2  โดส  ไปแล้วก็ยังไม่ออกจากบ้านอยู่ดี  เจ้าของบล็อกก็มีเวลาว่างเหลือจากการทำงานบ้าน  ทำกับข้าว  นอกจากทำบล็อกแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรดี  พอดีมีน้องคนนึงแนะนำให้ดูซีรีย์เกาหลีที่เกี่ยวกับอาหารเรื่องนึงแล้วติดใจเพราะสนุกดี  พอดูจบไปเรื่องนึงก็เลยไปเสิร์ชหาเองอีก  จนถึงตอนนี้ดูไป  3  เรื่อง  1  ใน  3  เรื่องนั้นมีถึง  3  ภาค  เลยมีความคิดว่าจะลองทำรีวิวซีรีย์ที่ดูไปแล้วบ้างครับ  อิอิอิ

จริงๆแล้วซีรี่ย์เรื่อง  Yoobyeolna! Chef Moon  เป็นเรื่องที่ดูล่าสุดครับ  แต่เห็นว่าเนื้อเรื่องสนุกมาก  มีทั้งตลก  ซึ้งกินใจ  แต่ไม่รักใคร่กันจนหวานน้ำตามขึ้น  และห้ำหั่นกันทางธุรกิจอย่างเอาเป็นเอาตาย  สนุกกว่าเรื่องที่ดูคือ  Let’s Eat  ทั้ง  3  ภาค  ซะอีกครับ  (อันนี้มีแต่ตลกอย่างเดียว)  ก็เลยอยากจะมาคุยให้ฟังก่อนครับ

รีวิว Eccentric Chef Moon

Yoobyeolna! Chef Moon  เป็นเรื่องของพระเอกซึ่งเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาหลี  แต่ต้องมาพบกับนางเอกซึ่งเป็นดีไซน์เนอร์ผู้ประสบความสำเร็จที่มีชื่อเสียงระดับโลก  ที่ประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม  แต่เรื่องราวยิ่งซับซ้อนยิ่งๆขึ้นไปอีกเมื่อมีบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีเข้ามาพัวพันกับทั้งพระเอกและนางเอก ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

ด้านชีวิตส่วนตัวของพระเอกก็เกิดมีเด็กที่มาอ้างว่าเป็นพ่อมาอยู่ด้วย  และชีวิตของพระเอกก็มาผกผันมาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ  นอกกรุงโซล  กับนางเอก  และเด็กน้อย  โดยมีชาวบ้านในหมู่บ้านคอยเป็นตัวชูโรงให้ซีรีย์เรื่องนี้สนุกสนานยิ่งขึ้น

พระเอกรับบทโดย  Eric Mun  นักร้อง  นักแสดง  ชาวเกาหลีแต่ไปเติบโตที่อเมริกา  ค่อนข้างสมบทบาทเพราะมีบางฉากที่ต้องพูดภาษาอังกฤษได้โดยไม่ขัดเขิน  สำเนียงก็ประมาณคนเกาหลีพูดภาษาอังกฤษแต่เจ้าของบล็อกคิดว่าน่ารักดีครับ

เจ้าของบล็อกค่อนข้างปลื้มพี่  Eric Mun  นะครับ  อาจจะเป็นเพราะหน้าเค้าผ่านการพบแพทย์มาน้อย  (อันนี้เจ้าของบล็อกเดาเอาเอง)  คือรูปหน้า  จมูก  เค้าดูสมส่วน  เป็นธรรมชาติมาก  ไม่เหมือนกับพระเอกเกาหลีหลายๆคนที่ดูๆไปนานๆเริ่มคิดถึงพระเอกหลายๆคนในเมืองไทย  อิอิอิ

ส่วนนางเอกรับบทโดย  Go Won Hee  นี่ก็รับบทได้เป็นดีไซน์เนอร์ได้เนียนมาก  อาจจะเป็นเพราะ  Go Won Hee   เคยเป็นนางแบบในชีวิตจริงก็ได้ครับ  เจ้าของบล็อกชอบฉากที่นางความจำเสื่อมมาก  เพราะนางดูสดใส  น่ารัก  และหิวตลอดเวลา  กลับกันครับ  ฉากที่นางกลับมาเป็นดีไซน์เนอร์แล้วนางดูปั่นปึ่ง  มีความมั่นใจในตัวเองมาก

Ahn Nae Sang  รับบทร้ายที่สุดในเรื่อง  หน้าร้ายมากๆ  แต่เจ้าของบล็อกไปค้นรูปดูในเนทปรากฎว่ารูปที่หัวเราะดูแล้วตลกมากๆ  ดูอารมณ์ดีทีเดียว  ในเรื่องร้ายมากๆ  แต่ตอนจบ  (เจ้าของบล็อกคิดว่า …)  ได้รับกรรมมไม่สาสมกับความเลวเรย อิอิอิ

 

รีวิว Eccentric Chef Moon

 

เจ้าของบล็อกรัก  โกยอนอา  ที่สุด  รับบทเป็น  ซอลอา  เด็กที่มาตู่ว่าพระเอกเป็นพ่อ  นางน่ารักน่าตีเป็นที่สุด

นักแสดงอีกกลุ่มที่เจ้าของบล็อกรักมาก็คือ  ชาวบ้านในหมู่บ้านเล็กๆที่พระเอกไปอยู่  มีความเผือกแบบแม่บ้านเกาหลี  middle  class  มากกกกก  ตอนแรกนึกว่าจะมาป่วนพระเอกซะอีก  แต่ตอนหลังมาอยู่ข้างพระเอกกับนางเอกกันทั้งหมูบ้านเลย  น่ารักมากๆ  เจ้าของบล็อกขำดังๆทุกทั้งที่มีฉากแม่บ้านครับ

ซีรี่ย์เรื่อง  Yoobyeolna! Chef Moon   เจ้าของบล็อกคิดว่าสนุกมากๆครับ  ดูได้แบบครบรสเลย  มีทั้งรักแต่ไม่ได้หวานแหวะนะครับ  (เพราะถ้าหวานแหวะเจ้าของบล็อกคงไม่ดู)  ทั้งห้ำหั่นกันในเชิงธุรกิจ  และเป็น  comedy  แบบสุดๆด้วยครับ  สำหรับคนที่ชอบฉากที่ทำอาหาร  ซีรี่ย์เรื่อง  Yoobyeolna! Chef Moon  ก็มีฉากทำอาหารเกาหลีทั้งแบบแท้ๆ  และอาหารเกาหลีแบบฟิวชั่นสอดแทรกเป็นระยะๆ  ครับ  รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ

ความรู้สึกหลังดู

” Eccentric! Chef Moon ” เป็นละครที่โอเค แต่ไม่มีอะไรเป็นต้นฉบับ ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

 

เรื่องราวโดยรวมนั้นคาดเดาได้ เนื่องจากละครเกาหลีหลายเรื่องเคยใช้แนวเรื่องนี้มาก่อน และมันก็สนุก ฉากอาหารถูกสร้างมาอย่างดีและให้ความบันเทิง เนื่องจากนักแสดงทำงานได้ดีกับการแสดงของพวกเขา สาวน้อยก็น่ารักด้วย ชีวิตในหมู่บ้านและชาวบ้านให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจกับละครเรื่องนี้และการแสดงตลกเมื่อจำเป็น ละครธุรกิจพร้อมกับความลึกลับของอดีตก็โอเค

แต่ไม่มีอะไรที่ไม่เคยเล่นมาก่อน นอกจากนี้ ความรักก็ไม่เป็นไร ส่วนใหญ่เป็นเพราะนางเอกน่ารำคาญตอนที่เธอยังความจำเสื่อมและทำตัวเหมือนเด็กหรือแย่กว่านั้น โดยรวมแล้ว หกและครึ่งในสิบ

ชื่อเรื่องหมายถึงสองหน่วยงานที่แยกจากกัน ยู บยอล นา แปลว่า ประหลาด ซึ่งก็คือ นางเอก แล้วก็ เชฟมูน ฉันคิดว่าเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นมากขึ้นเกี่ยวกับอาหาร แต่กลับกลายเป็นว่ามันมีความขัดแย้งมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่ใช่ละครสำหรับนักชิม ฉันไม่ค่อยชอบตัวละครพิเศษของเพื่อนบ้านมากนักและรายละเอียดอื่น ๆ ก็น่าหงุดหงิด

ละครเกาหลีง่ายๆ ที่ฉันชอบดู อันที่จริงเป็นโครงเรื่องที่ไม่น่าดู เนื่องจากหัวข้อหลักที่นี่คือคอร์รัปชั่น ความจำเสื่อม การฆ่าสัญญา การขโมยข้อมูลประจำตัว สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ฉันอยากดูตอนต่อไปที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ฉากทำอาหารนั้นน่าประทับใจมากและฉันก็รู้สึกทึ่งกับสไตล์หวาน ๆ ของร้านอาหารในหมู่บ้าน ฉันยังชอบสไตล์เสื้อผ้าของ Yoo-jin ในช่วงความจำเสื่อม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฉันไม่ชอบเกี่ยวกับตัวละครหลักคือเธอมีบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงสองคน

เป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ที่มีเสน่ห์ด้วยท่าทางจริงจังและบุคลิกที่โหดเหี้ยมหลังเกิดอุบัติเหตุ (ไม่เคารพผู้สูงอายุทั่วไป ไม่ทักทาย) ด้วยพฤติกรรมไร้เดียงสา เธอเห็นอกเห็นใจฉันมากขึ้น แต่ฉันก็ไม่เข้าใจวิธียอมรับตัวตนเก่าด้วยความทรงจำใหม่ทันทีหลังจากความทรงจำนั้น

ชาวบ้านและเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ได้ให้สิ่งทั้งหมดมีเสน่ห์มากขึ้นเพราะทุกคนมีความพิเศษในแบบของตัวเองไม่ได้เสแสร้ง แต่เป็นมนุษย์ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เป็นแสงแดดซึ่งทำให้พ่อครัวเป็นคนที่ดีขึ้นและทุกคนในพื้นที่ ฉันน่าจะสนใจว่าแม่ของเธอเป็นใคร แต่มีการพูดคุยเล็กน้อยเกี่ยวกับพ่อของเธอด้วย และเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็รู้สถานการณ์หรือไม่ ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร

 

 

รีวิว Eccentric Chef Moon

 

ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักทั้งสองได้ทิ้งความมีรสนิยมอันหวานชื่นไว้เล็กน้อย เส้นด้ายที่บางและน่ารับประทาน การใช้ภาษาและพฤติกรรมที่นุ่มนวลนั้นเป็นไปอย่างไม่เป็นทางการ สมบูรณ์แบบ มีจุดหนึ่งที่ทำให้ฉันรำคาญใจ

เช่นเดียวกับในละครเรื่องอื่นๆ การเลือกระหว่างความสัมพันธ์และอาชีพ อย่างน้อยก็ขับเคลื่อนไปสู่อาชีพ ที่สัญญาว่าจะรอคนๆ นั้น เหตุใดความสัมพันธ์ทางไกลจึงไม่ถือว่าเป็นตัวเลือก

ตัวละครที่แทนที่แม่ ป้า เพื่อน (อะไรก็ได้) ทำให้ฉันหงุดหงิดและไม่เข้าใจในแง่ของพฤติกรรม เมื่อเธอเผชิญหน้ากับตัวละครหลัก เธอรอเป็นเวลานานที่จะอธิบายและแรงกดดันทั้งหมดจากเธอด้วยเหตุผลที่ไร้เหตุผล

ในทางกลับกัน ตัวละครของลูกสาวศัตรูทำให้ฉันประทับใจมากกว่าใครๆ เธอมีบทบาทสำคัญเพราะเธอแสดงให้เห็นว่าคน ๆ หนึ่งสามารถกดดันตัวเอง ได้มากแค่ไหน ความปรารถนาในอุดมคตินิยมและอำนาจหรือชื่อเสียงที่มากขึ้น ความไม่เชื่อในตัวเอง และความรู้สึกไม่เคยพอ เธอต้องการความสนใจจากพ่อของเธอซึ่งเธอเข้าใจผิด . ฉันดีใจที่เธอรับรู้

ตอนจบก็โอเค เช่นเดียวกับละครทั้งหมด ตั้งแต่บทและระดับภาพ คู่โปรดของฉันอย่างใด ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียวเว็บรีวิวหนัง