รีวิว BackstreetRookie
สารภาพตรงนี้ว่าดูไปบ่นไปได้เขียนถึงซีรีส์เรื่องนี้มาตั้งแต่ตนที่ดูออนแอร์สดทาง iQIYI จบ (17 สิงหาคม 2020) ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นแพล็ตฟอร์มที่ยังไม่แพร่หลาย และด้วยการได้ผ่านหูผ่านตามาบ้างว่าเป็นเรื่องราวเบาสมองเน้นความขำขันที่ดูแล้วน่าจะผ่อนคลาย ดูได้ที่ ดูหนัง
แล้วสิงนั่นเองก็ทำให้ผู้เขียนตัดสินใจดูซีรีส์ที่ว่ากันตามตรงคือถ้านับจากการดูซีรีส์เกาหลีที่ผ่านๆมานี่คืองานที่อ่อนด้อยที่สุด องค์ประกอบหลายๆอย่างยังห่างไกลจากเรื่องที่ดูที่ผ่านๆมา
แต่ถ้าวัดกันที่ความบันเทิงล้วนๆและจุดมุ่งหมายที่ตัวเรื่องต้องการจะเป็นเรื่องนี้จัดว่าทำได้เยี่ยมและตรงจุดจนทำให้อะไรก็ตามที่เป็นริ้วรอยในเรื่องของบท การตัดต่อ หรือการแสดงของบางคนไม่สามารถทำอะไรความสนุกที่มโหฬารได้
ด้วยความสัตย์ซื่อที่จะเสนอเรื่องของความรักที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนที่มีพัฒนาการ และแน่นอนความฮาที่อัดแน่นไม่มีว่างเว้นในทุกตอน กับอีกเหตุผลหนึ่งที่ผู้เขียนหยิบเอาบทความนี้มาเผยแพร่อีกครั้ง
เพราะช่วงนี้ผู้เขียนกำลังติดซีรีส์เก่าอย่าง Dong Yi (2010) แล้วเห็นการแสดงที่ต้องทึ่งและชวนขนลุกของคิมยูจองที่ตอนนั้นยังเป็นนักแสดงเด็ก แล้วก็พลันมานึกถึงเรื่องนี้ที่หนูน้อยที่แสดงจนผู้ใหญ่น้ำตาไหลในวันนั้นกลายมาเป็นนางเอกเต็มตัวที่แบกเรื่องไว้ได้ในวันนี้
แถมตอนนี้งานซีรีส์ที่สนุกมากเรื่องนี้ได้มีมาให้ชมทางแพล็ตฟอร์มที่น่าจะเข้าถึงผู้ชมได้มากกว่าอย่าง viu ผู้เขียนจึงขออนุญาตแนะนำกับงานที่ไม่ควรถูกหมางเมินซีรีส์สุดรั่วแต่ก็สุดสนุกBackstreet Rookie
เรื่องย่อ จองแซตบยอล (คิมยูจอง)คือเด็กสาวมัธยมปลายที่มีทักษะสูงในการทะเลาะวิวาทและหน้าตามาแบบงานดี วันหนึ่งเธอได้เจอกับหนุ่มหล่อท่าทางทึ่มๆผ่านทางมาและการพบกันครั้งนั้นเธอก็เก็บชายคนนั้นไปไว้ในใจ
สามปีผ่านไปจองแซตบยอลที่เรียนไม่จบชั้นมัธยมปลายด้วยเหตุผลบางอย่างจนต้องมาทำงานขายยาแก้เมาค้างในสถานบันเทิงเพื่อเลี้ยวชีวี กระทั่งเธอมาสมัครเข้าทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อที่มีผู้จัดการและเจ้าของคือชเวแดฮยอน (จีชางอุค) ชายที่ “ตั้งแต่เป็นสาวเต็มกายหาผู้ชายถูกใจไม่มี” นอกจากคนนี้ที่อยู่ในใจแซตบยอลเสมอมา
และเรื่องบอกโต้งๆว่าเธอมาเป็นพนักงานที่ร้านของแดฮยอนเพราะมาตามหาหัวใจและผู้ชายในฝัน (อี๋) แต่มันก็ไม่ง่ายปานนั้นเมื่อแดฮยอนดันเป็นชายในฝันที่มีแฟนแล้วเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานผู้สวยรวยเริ่ดเชิดคือยูยอนจู (ฮันซอนฮวา)
ที่มีพื้นฐานชาติตระกูลที่ใช้คำว่า “ไฮโซ” นำหน้าที่คาดว่าเกิดอุบัติเหตุไม่ต้องตรวจแอลกอออล์ต่างจากแดฮยอน แต่ระหว่างแดฮยอนกับยอนจูก็มีกำแพงบางอย่างขวางกั้นไว้ และการเข้ามาของแซตบยอลที่มาแบบสายรุกบุกเข้าหาหัวใจของแดฮยอนแบบไม่อายฟ้าดินสงครามจึงเกิดขึ้น
เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งผู้ยึดครองหัวใจแต่กลับไม่รู้คุณค่าและไม่รักษา กับอีกหนึ่งหญิงสาวที่เทให้ทั้งใจแต่เขามองผ่านไปไม่มาเหลียวแล (แป่ว) เล่าผ่านผ่านเหตุการณ์ชวนขัน ตลกโปกฮา บนความแสนธรรมดาปนน้ำเน่าและรั่วของบทตลอดทาง
แต่ก็ยังมีเรื่องราวเชิงมิติเรื่องของความผูกพันกันในครอบครัว กำแพงระหว่างชนชั้น ความรักของพี่น้อง และมิตรภาพระหว่างเพื่อนให้ได้สัมผัส แม้ว่าบางอย่างอาจไม่แจ่มชัดแต่ก็เพียงพอให้งานชิ้นนี้มีอะไรอยู่ข้างหลังฉากหน้าที่ระเบิดเสียงฮาของผู้ชมได้ในทุกตอน
บทที่การ์ตู๊นการ์ตูน รั่วทั้งเรื่องแต่ซื่อตรงชัดเจน เล่นสนุกเต็มที่โนสนโนแคร์ แต่ก็ยังมีมิติดีๆให้สัมผัส
ทันทีที่เห็นเปิดหัวมาผู้เขียนเดาว่านี่คืองานสร้างที่มาจากการ์ตูนเป็นแน่และมันก็ใช่จริงๆ ดังนั้นการดูอะไรก็ตามที่สร้างมาจากการ์ตูนสิ่งที่ควรกระทำคือวางตรรกะและเหตุผลลงก่อนแล้วจะเพลิดเพลิน
และเรื่องนี้เอาตรงๆบทรั่วอย่างระห่ำอุดมไปด้วยความบังเอิญ ปมและประเด็นหาทางออกง่ายๆ จุดพลิกผันที่ไม่สมเหตุสมผล การกระทำของตัวละครบางตัวก็เกินมนุษย์มนาจะทำได้ แต่สุดท้ายทุกอย่างจะถูกอธิบายด้วยเหตุผลที่ว่ามันคือเรื่องที่พัฒนามาจากการ์ตูน (จบ)
และตัวเรื่องก็นำเสนอในรูปแบบการ์ตูนเต็มพิกัด ซึ่งมันก็ได้ผลจัดๆเพราะตัวเรื่องต้องการเสนอตัวให้เป็นความฮาล้วนๆ และวัตถุประสงค์หลักของบทคือท่านผู้ชมไม่ต้องคิดมาก
ด้วยการเล่าเรื่องไปตรงๆสมงสมองวางไว้ก่อนแล้วขายความซื่อตรงในการเป็นงานเบาสมองเน้นเสียงหัวเราะ ฮากันน้ำตาเล็ด ฮาน้ำหมากกระจายแบบที่คนรุ่นใหม่เรียกว่า “ตลกโบ๊ะบ๊ะ” ในอารมณ์ขันที่ใส่แบบสุดTeenไม่ต้องซับซ้อนรกใจ แน่วแน่ในสิ่งที่เป็นและวัตถุประสงค์ของตนอย่างซื่อสัตย์ และมันได้ผลจัดๆเพราะผู้ชมสามารถระเบิดเสียงหัวเราะได้ในทุกตอน
ทำให้เรื่องหลักที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไรกลายเป็นความฮาจนน่าติดตามไปอย่างน่าทึ่ง ด้วยตัวเรื่องหลักคือเรื่องรักสามเส้าสี่เส้าชิงรักหักสวาท (น้ำเน่าไปอีก) โดยมีน้ำหนักในทางพัฒนาการด้านความสัมพันธ์และความรักที่ก่อตัวในร้านสะดวกซื้อ ที่พระเอกและนางเอกใช้เวลาอยู่ด้วยกันและเรียนรู้ความงดงามข้างในซึ่งกันและกัน
โดยมีปัจจัยเรื่องของกำแพงชนชั้นและการศึกษาเข้ามากระทบ ซึ่งถ้าว่ากันที่แกนของเรื่องประมาณนี้ก็คือซื่อตรงไม่มีหลุดไม่มีเป๋ออกข้างทาง เพราะถ้าว่ากันที่เรื่องความรักที่ก่อตัวขึ้นระหว่างแดฮยอนกับแซตบยอลนี่คือความสวยในพัฒนาการของเรื่องอย่างที่บทตั้งใจ
เพราะผู้ชมเห็นพัฒนาการของความรักของทั้งคู่ผ่านการเข้าใจผิด ความเข้าใจ ยอมรับตัวตนและพื้นฐานของกันและกันจนมารักกันในตอนท้ายที่มีเหตุผลและจุดเปลี่ยน ซึ่งจุดนี้เรื่องทำได้ดีเพราะผู้ชมสัมผัสได้แม้ว่ามันจะธรรมดาๆเบๆไปหน่อยก็ตาม
อีกสิ่งหนึ่งที่ยกระดับให้เรื่องราวที่แสนธรรมดานี้มีความสนุกและน่าติดตามคือสีสันที่จัดจ้านในการเสนอความฮา ด้วยความที่มันมาจากการ์ตูนบางฉากบางเรื่องราวจึงเป็นการ์ตูนเต็มที่เพื่อเรียกเสียงหัวเราะเช่นฉากต่อยตี
อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนคิดว่ามันจ๊าบมากคือการล้อเลียนหนังหรือซีรีส์เรื่องต่างๆเพื่อเรียกเสียงฮา ที่เห็นชัดๆคืองานเก่าของผู้กำกับอย่าง The Fiery Priest (บาทหลวงเลือดระอุ 2019) ที่มาเยอะและจัดเต็ม กระทั่งหนังอย่าง Pulp Fiction หรือ Parasite กับอีกหลายฉากหลายเรื่อง และมันทำให้ผู้ชมลุ้นว่าในแต่ละช่วงแต่ละตอนจะมีอะไรมาให้ตะลึงได้อีก
แม้จะฮาอย่างบ้าคลั่งแต่ยังมีอะไรให้จับต้อง แต่แม้เนื้อเรื่องจะธรรมดาแต่ความเป็นงานซีรีส์เกาหลีที่ต้องมีคือดราม่าหรือประเด็นทางสังคมที่แฝงไว้เสมอ และสำหรับเรื่องนี้คือเรื่องความรักที่มีกำแพงชนชั้นกั้นขวางระหว่างแดฮยอนกับยอนจูที่ครอบครัวยอนจูเป็นพวกเหยียดชนชั้นอย่างน่ารังเกียจ ไม่มองถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ไม่สนสี่สนแปดว่าใครจะดีงามข้างในยังไง ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองบรรลุผล ในขณะเดียวกันยอนจูเองก็แทบไม่ต่างกันเมื่อเธอเลือกที่จะไม่ทำอะไรเพื่อคนที่เธอรัก และพยายามปกปิดเสมอมาไม่ให้ครอบครัวรู้ว่าแดฮยอนเป็นแค่เจ้าของร้านสะดวกซื้อ
ในขณะที่แซตบยอลเองกลับมีความน้อยเนื้อต่ำใจในความต้อยต่ำของเธอเสมอมา ด้วยความที่เรียนไม่จบ ยากจน โดนโกง เลยถูกสร้างเงื่อนไขให้เดินจากไปเพราะหวังดีกับชายที่เธอรักครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งทั้งนี้มีแต่แดฮยอนเท่านั้นที่อยู่ตรงกลางและแม้ว่าเขาพยายามเข้าใจในตัวยอนจูและประคับประคอง
แต่เมื่อเรื่องราวมันมากระทบถึงคนที่เขารักคือครอบครัวความอดทนและเข้าใจก็หมดอายุลง เมื่อยอนจูไม่ยอมทำเพื่อเขาเลยสักครั้งเมื่อเขาต้องการแต่กับแซตบยอลกลับทำเพื่อเขาด้วยใจและด้วยกำลังเท่าที่ผู้หญิงจนๆด้อยการศึกษาคนหนึ่งทำได้
ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้มันชัดและสัมผัสได้ ถ้านั่นยังไม่พอยังว่าด้วยเรื่องความเข้าใจในครอบครัวของแดฮยอนที่มีแม่เป็นช้างเท้าหน้า เรื่องของความรักระหว่างแซตบยอลกับอึนบยอล (โซลบิน) ที่เป็นความรักความเข้าใจของพี่น้อง
แต่ทว่าเรื่องราวดราม่าเหล่านี้แม้ว่าจะสัมผัสได้ แต่ก็มาช้าไปเพราะกว่าจะมีประเด็นที่คมคายแทรกมาก็ปาเข้าไปครึ่งเรื่อง แต่ก็อย่างว่าเรื่องราวเหล่านี้มันคือเป้าหมายหลังเป้าหมาย เพราะเรื่องมันเน้นหนักในความเป็นเรื่องราวความรักของแดฮยอนกับแซตบยอล ที่เน้นความฮาอย่างบ้าคลั่งแบบการ์ตูน จึงทำให้เรื่องที่คมคายกลายเป็นแค่ผงชูรสให้ได้มีอะไรให้จับต้องบ้างเท่านั้น
เสน่ห์ เคมี และสีสันตัวละคร ที่ทำให้เรื่องยกระดับความสนุกได้อีกระดับ
แต่สิ่งที่เหนือธรรมดาจนกลายเป็นความเจ๋งเป้งสำหรับผู้เขียนคือเสน่ห์และเคมีของพระนางที่ไหลลื่นเป็นธรรมชาติและสนุกตาม จีชางอุคกับคิมจูยองเล่นเข้าคู่กันได้อย่างเรียบเนียน ทั้งคู่ให้การแสดงที่เป็นธรรมชาติ จีชางอุคน่าเชื่อถือในบทชายผู้ไม่ได้มีฝันใหญ่โตอะไร
แค่ได้เป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อและอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างเกื้อกูลกันก็พอใจแล้ว บุคลิกท่าทางเป็นคนจิตใจดีและแม้จะหล่อลากดินแต่ก็ไม่ต่างจากไอ้ขี้แพ้ (เอาแค่ฉากโดนเตะก้านคอในตอนท้ายยังขำไม่หาย) และจะทำให้ผู้ชมลืมมาดเข้มๆจาก The K2 ได้เลย
ส่วนคิมจูยองก็ยังน่าชมในบทโก๊ะๆก๋ากั่นรุกเร้าเข้าหาชายในดวงใจอย่างไม่เขินอาย รั่วเรื้อนแต่น่ารัก แต่กระนั้นในความเป็นแซตบยอลที่น้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาก็ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างน่าเชื่อถือ
รีวิว BackstreetRookie
จะมีอย่างเดียวที่การแต่งหน้าขาวปากแดงปานลิเกทำให้ในซีนอารมณ์บางซีนแสดงออกไม่เต็มที่ ซึ่งถ้ามองจากตรงนี้แล้วหวนนึกไปถึงตอนเป็นนักแสดงเด็กที่เพิ่งผ่านตาไป มาตรฐานการแสดงยังคงจัดจ้านรับผิดชอบบทได้ไม่มีที่ติ แต่สิ่งที่มองเห็นเลยคือเสน่ห์และพลังดาราในการแบกเรื่องที่จับต้องแล้ว ซึ่งกับเรื่องนี้อาจต้องยอมรับว่าคิมจูยองให้การแสดงที่ดูดีกว่าจีชางอุค ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี
ส่วนที่มอบสีสันให้กับเรื่องแบบขโมยซีนคือเร็กเก้บอยร้อนรัก (อึมมุนซุค) เพื่อนพระเอกที่ฮาสุดฤทธิ์ตั้งแต่ตอนแรกจนตอนสุดท้ายอย่างน่าชม แล้วยังมาประกบกับความรั่วจัดเรื้อนจริงของซอเยฮวาในบทกึมบีเพื่อนรักแซตบยอล จนอาจเรียกได้ว่าเป็นคู่รองที่ประหลาดที่สุดที่เคยเจอมาแต่ก็เป็นสีสันที่ทำให้เรื่องดูสนุกขึ้น
อีกด้านหนึ่งสำหรับเรื่องที่ผู้เขียนมองว่าเป็นเพราะบทมากกว่าที่ทำให้ตัวละครอย่างยอนจูและแม่กลายเป็นนางอิจฉามากกว่านางร้าย ซึ่งด้วยการกระทำที่ไม่น่ารักและไม่สมเหตุผลกลายเป็นคนดูไม่รักและไม่สงสารยอนจูในตอนท้ายทั้งที่น่าจะ ซึ่งบทสองแม่ลูกนี้ขาดเพียงแค่กรี๊ดกร๊าดโหวกเหวกโวยวายเท่านั้นที่จะกลายเป็นตัวอิจฉาในละครน้ำเน่าหลังข่าว
ส่วนคนอื่นๆอย่างพ่อ แม่ (คิมซุนยอง) และพี่สาวของแดฮยอนหรือเพื่อนแซตบยอลนับว่าเป็นเครื่องเคียงชั้นดี แต่น่าเสียดายที่บทเจ้าหมาน้อยกับอึนบยอลที่ให้การแสดงยังไม่สมบทบาททื่อๆแข็งๆและไม่ได้ใจผู้ชม
ส่วนนักแสดงรับเชิญมากหน้าที่มาล้อเล่นปนล้อเลียนก็คุ้นหน้าคุ้นบทกันดีก็ทำให้มากี่ทีก็ฮาทุกที แต่ทั้งนี้ถ้านับกันที่ธงของเรื่องตั้งไว้ที่เป็นเรื่องเบาสมอง นำเสนอในโทนการ์ตูนเว่อร์ๆมันก็ไม่มีเหตุผลใดให้ตำหนิ
และเพลงประกอบก็ยังเพราะและหนุนส่งเรื่องราวได้ดีตามสไตล์ซีรีส์เกาหลี ทำให้งานที่ดูเหมือนจะธรรมดาๆนี้ดูสนุก ได้ยิ้มได้หัวเราะในทุกตอนแต่ก็ยังมีอะไรคมๆให้จับต้องบ้างแม้จะไม่มากมายก็ตาม
นี่คืองานที่อ่อนมากถ้านับกันที่มาตรฐาน เอาแค่เทียบกับ The Fiery Priest ที่มาจากการสร้างของทีมเดียวกันก็ไม่ถึงแล้ว แต่คนเราก็คงไม่อาจอยู่กับความตึงได้ตลอดเวลา หากเมื่อรับชมงานที่มาตรฐานเรื่องบทและการแสดงเพื่อเสพความประทับใจได้แล้ว บางทีการลองเลือกที่จะดูความเบาสมองไม่ต้องคิดมากก็ให้ความบันเทิงได้เช่นกัน เช่นเรื่องนี้ที่ความจริงบทรั่วมาก
หลายๆอย่างดูบังเอิญและจงใจ แต่ลองย้อนกลับไปคิดว่าเราเลือกดูเพื่ออะไร? ถ้าการเลือกดูเรื่องนี้เพราะความต้องการที่จะผ่อนคลายอารมณ์ เลือกชมเพื่อจะได้ยิ้มได้หัวเราะแบบไม่คิดอะไร เรื่องนี้ก็คือเรื่องที่ตรงเป้าและตรงใจ
ก็ใช่ที่ถ้าจะมองในแง่คุณภาพงานสร้างและองค์ประกอบอาจมองเห็นจุดบกพร่องตามเนื้อผ้า แต่กระนั้นสำหรับเรื่องนี้ในความเห็นส่วนตัวคือแม้จะเห็นริ้วรอยบ้าง หากแต่ตัวเรื่องโดยรวมยังตอบโจทย์ความต้องการความบันเทิงแบบย่อยง่ายของผู้ชม
แล้วเมื่อผู้ชมตั้งใจแบบนั้นก็วางความคาดหวังและดูได้อย่างสนุกและดูจนจบไม่เททิ้งกลางทาง กับเรื่องนี้แม้จะมีรอยรั่วมากมายแต่ตัวเรื่องยังคงซื่อตรงในการนำเสนอ
ซื่อตรงในธงที่ตั้งไว้คือความเป็นเรื่องเบาสมองเน้นขายความตลกขบขัน และสิ่งที่ต้องการขายก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เช่นนั้นแล้วก็ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะต้องเทเพราะเรื่องนี้ทั้งสนุก ทั้งฮา เรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งเรื่อง
ความรู้สึกหลังดู
เป็นการแสดงตลกที่มีชีวิตชีวาพร้อมนักแสดงที่น่ารักและเรื่องราวที่ดี เอฟเฟกต์คล้ายการ์ตูนสองสามตัวเป็นเพียงเอฟเฟกต์ – อันที่จริงเรื่องราวนั้นค่อนข้างมีเหตุผลและเคลื่อนไหวในบางครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับพ่อแม่ ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์
ขอชื่นชมนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมของ CLOY คิมซอนยอง ในฐานะแม่ของตัวละครหลัก นักแสดงสาวผู้น่ารัก Kim Yoo Jung เป็นคนที่อ่อนหวานและสวยมาก
และแสดงได้ดีมาก ตัวละครที่ซ่าส์และเป็นที่รักของเธอมีเรื่องราวเบื้องหลังที่เห็นอกเห็นใจ ฉากต่อสู้มีเสียงหัวเราะดังลั่น จีชางอุคเล่นบทตลกได้ดี เขาไม่ได้ดูแก่เกินไปสำหรับเธอแม้ว่าอายุจะห่างกันแต่ก็ดูเข้ากันได้ดี ส่วนที่เจ็บปวดอย่างหนึ่งคือความโรแมนติกของศิลปินเว็บตูนที่มีเดรดล็อกส์ ตัวละครของเขาบางครั้งก็ดูไม่ตลกอย่างเจ็บปวด
แต่ก็ไม่ได้ไม่ถูกต้องทางการเมืองอย่างที่ชาวเน็ตงี่เง่าบางคนเอะอะโวยวายกัน มีแนวโรแมนติกของละครเกาหลีบางเรื่องที่ทำออกมาได้สดใหม่และดีมากที่นี่ – เช่นการหักหลังและไม่ชอบด้วยกฎหมาย “สายรองรอง”
และรักสามเส้าไม่ระคายเคือง ใครรู้เรื่องตลกเกี่ยวกับคนเปิดร้านสะดวกซื้ออาจจะน่าสนใจมาก อย่าฟังการโต้เถียงเชิงลบเกี่ยวกับรายการนี้ – คนเจ้าระเบียบและใจแคบต้องการเปิดทีวีในศตวรรษที่ผ่านมา เป็นการแสดงที่สนุกสนานและตลกตลอดทั้งเรื่อง
“Backstreet Rookie” เป็นละครที่โอเค
เราควรดูโดยระลึกว่านี่เป็นละครตลกและเบา-ผิวเผินมากกว่า รวมทั้งยังมีข้อโต้เถียงกันอยู่บ้างเมื่อพูดถึงบางฉากหรือโครงเรื่อง ที่กล่าวว่าละครส่วนใหญ่เป็นเรื่องสนุก ตัวละครหลักทั้งสองมีความน่าสนใจและนักแสดงนำมีเคมี แม้ว่าความรักจะน่าเบื่อและไม่มีถนนแบบเดิมๆ
ตัวละครด้านข้างก็สนุกสนานเช่นกัน สำหรับละครครอบครัว ก็เพียงพอที่จะทำให้สิ่งที่น่าสนใจอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกทั้งหมดของละคร นอกจากนี้ ด้วยฉากแอคชั่น การอ้างอิงเว็บตูน และพื้นหลังที่มีสีสันล้วนเป็นสัมผัสที่ดีและได้รับการจัดการอย่างเชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตาม ตอนสุดท้ายนั้นลากยาวและน่าเบื่อ ไม่ต้องพูดถึงคาดเดาได้ ละครกับแฟนเก่าทั้งหมดถูกใช้มากเกินไปหลังจากนั้นไม่นาน โดยรวมแล้วห้าในสิบ
8.5/10 คือคะแนนของฉัน นี่คือหนังตลกโรแมนติกของเกาหลีใต้ปี 2020 ความยาว 16 ตอน 70 นาที
Choi Dae-hyun (Ji Chang-wook) พบกับแก๊งนักเรียนมัธยมปลายหญิงหลังจากประสบความล้มเหลวในความสัมพันธ์ ผู้นำสาวแกร่ง Jung Saet-byul (Kim Yoo-jung) Saet-byul พยายามรังแก Dae-hyun ให้ซื้อบุหรี่ แต่กลับขโมยจูบจากเขา เธอสนใจชายหนุ่มรูปงามที่ทำท่าทางหวานชื่นในทันที และทำให้แฟนสาวที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร
สามปีต่อมา Dae-hyun ได้ลาออกจากโลกธุรกิจและเปิดร้านสะดวกซื้อของครอบครัว การเผชิญหน้าโดยบังเอิญทำให้ Saet-Byul กลับมาในชีวิตของ Dae-hyun และเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าเขากำลังมองหางานพาร์ทไทม์ เธอก็พยายามหางานทำเพื่อให้ใกล้ชิดกับผู้ชายที่เธอชอบมากขึ้น ดาฮยอนกำลังคบหากับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ไม่เห็นคุณค่าของเขาเป็นเวลาสองปี Saet-byul มุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวที่มีปัญหา Dae-hyun ที่พบกันครั้งแรกและขโมยหัวใจของเขาในกระบวนการนี้อีกต่อไป
แจ้งเตือนสปอยเลอร์! ฉันรักตัวละครนำหญิง Saet-byul จริงๆ แล้วเธอเป็นเด็กหัวรุนแรงในตอนเริ่มต้น การเป็นคนจนนั้นยากในทุกที่ที่คุณอาศัยอยู่ และเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่เธอเสียสละตัวเองเพื่อให้ชีวิตวัยรุ่นที่มั่นคงกับน้องสาวของเธอและเริ่มต้นเป็นผู้ใหญ่ พี่สาวทำตัวเหมือนที่คาดหวังไว้เมื่อตอนที่เธอยังเด็ก แต่มีบุคลิกที่เติบโตขึ้นอย่างมากเมื่อเธอบอกกับแซทบยอลว่าเธอรู้และชื่นชมในสิ่งที่เธอทำเพื่อเธอ
ฉันชอบที่น้องสาวสามารถประสบความสำเร็จเป็นไอดอลได้ ฉันชอบเพื่อนของพวกเขาทั้งสองคนและได้เพิ่มความน่าสนใจให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ที่หลากหลาย Choi Dae-hyun นั้นหวานอย่างสมบูรณ์แบบในฐานะนักแสดงนำชาย เขามีความรับผิดชอบมั่นคงและมีเกียรติ ผู้ชายคนที่สองเป็นไอดอลที่งดงามซึ่งหลงรักแซทบยอลคนสวยอย่างสิ้นหวัง
เขาให้เครดิตพ่อที่เสียชีวิตของเธอสำหรับรากฐานของความสำเร็จของเขา และรู้สึกรับผิดชอบในการเฝ้าดูแลเด็กสาวทั้งสอง ฉันมีอาการของชายที่สองนิดหน่อย ฉันชอบวิธีที่ครอบครัวของ Choi Dae-hyun รับ Saet-byul ไปเมื่อเธอไม่มีที่ไปและแม้กระทั่งในเวลาต่อมาก็รับน้องสาวคนเล็กของเธอไป
มันเป็นสิ่งที่พ่อแม่ของฉันจะทำเพื่อที่ฉันจะได้ระบุตัวตนได้ เรื่องราวความรักนั้นแสนหวานและทั้งสองก็ดูน่าทึ่งด้วยกัน Kim Yoo-jung สวยมากจนเธอเป็นคู่ที่น่าเชื่อถืออย่างไม่น่าเชื่อกับ Ji Chang-Wook ที่หล่อเหลา ฉันขอแนะนำเรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้เบา ๆ สบาย ๆ ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียวเว็บรีวิวหนัง
