รีวิว A Love So Beautiful

A Love so Beautiful Netflix รีวิว นับแต่นั้น…ฉันรักเธอ ซีรีส์เกาหลี ที่รีเมคจากซีรีส์จีนเรื่องดังในชื่อเดียวกันที่เคยคว้ารางวัลสำหรับซีรีส์ฉายออนไลน์แห่งปีของจีนมาแล้ว ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

การรีเมคฉบับเกาหลีครั้งนี้ ได้นักแสดงสาว โซจูยอน และ นักแสดงนุ่ม คิมโยฮาน มารับบทพระเอกนางเอกของเรื่อง มีทั้งหมด 24 ตอนจบ รับชมได้แล้วใน Netflix (อัพเดทจบแล้ว 24 ตอน)

ซีรีส์เรื่องนี้ รีเมคมาจากต้นฉบับของจีน ที่สร้างจากนิยายดัง ซึ่งฉบับเกาหลีที่ดัดแปลงมานี้ก็ยังคงเก็บรายละเอียดหลักของฉบับจีนเอาไว้ แล้วดัดแปลงตามฉบับเกาหลี โดยฉายทางช่อง Web Drama ซึ่งฉายซีรีส์เกาหลีขนาดสั้น

เรื่องราวเกี่ยวกับสาวน้อยวัยใส ชินซลอี (แสดงโดย โซจูยอน) ที่มีนิสัยร่าเริงปนซุ่มซ่าม แต่เป็นคนมองโลกในแง่ดี เข้ากับคนเก่ง เธอหลงรัก ชาฮอน (แสดงโดย คิมโยฮาน) เด็กหนุ่มวัยเดียวกันที่รู้จักกันมานาน

ซึ่งเธอแอบรักเขาถึง 17 ปี และก็ได้สารภาพรักอย่างเปิดเผยกับเขามาแล้ว แต่เขาก็ทำทีว่าไม่ได้สนใจมากนัก จนกระทั่งวันหนึ่งมีนักเรียนหนุ่มที่ย้ายเข้ามาใหม่คือ อูแดซอง (แสดงโดย ยอฮเวฮยอน) นักว่ายน้ำหนุ่ม รูปหล่อ นิสัยดี ที่เข้ามาหลงชอบชินซลอีอีกคนหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวความรักสามเส้าแบบวุ่นๆใสๆเกิดขึ้น

นอกจากความรักของคนทั้งสามแล้ว ยังมีเรื่องความรักของกลุ่มเพื่อนคนอื่น รวมถึงมิตรภาพในกลุ่มเพื่อนฝูง และยังสะท้อนชีวิตในวัยรุ่นและวัยเรียนของสังคมเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นค่านิยมการแข่งขันเพื่อแย่งชิงความเป็นอันดับหนึ่งของวัยรุ่นเกาหลีที่ถูกบีบจากผู้ใหญ่

การกลั่นแกล้งในโรงเรียน ไปจนถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ในครอบครัวของคนเกาหลีด้วย เพียงแต่เรื่องนี้มีการนำเสนอในแบบ Feel Good ว่าทุกอย่างมันก็มีด้านที่สวยงามเหมือนกัน และบางครั้งในสังคมที่มีความเคร่งเครียดสุดโต่ง ก็มีมุมเบาๆ ดีๆ แง่บวก ในมิตรภาพของกลุ่มเพื่อนด้วย

ลงจอแล้วจ้า A Love So Beautiful ซีรีส์รักโรแมนติก High School ที่เหล่าแฟน ๆ ต่างรอคอย ในเวอร์ชั่นนี้เป็นฉบับรีเมคมาจากต้นฉบับชื่อเดียวกันที่ฝั่งจีนเคยสร้างไว้เมื่อปี 2017 ซึ่งโด่งดังและได้รับกระแสตอบรับจากแฟน ๆ

อย่างล้นหลามในเวอร์ชั่นเดิมนั้นได้พระนางต่างไซซ์อย่างพระเอกหนุ่ม หูอี้เทียน และนางเอกไซซ์มินิ เสิ่นเย่ว โดยในเวอร์ชั่น 2020 นี้ได้พระเอกหน้าใหม่อย่าง คิมโยฮัน อดีตสมาชิกวง X1 มาประกบคู่กับนางเอกสาวรุ่นพี่อย่าง

โซจูยอน วันนี้เจย์จึงนำเอาเรื่องย่อ+แนะนำตัวละครและความเห็นหลังชมมาฝากให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันว่าจะเหมือนหรือต่างจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมมากน้อยแค่ไหนไปอ่านกันเลยจ้า

คิมโยฮัน รับบท ชาฮอน (เจียงเฉินในเวอร์ชั่นจีน) หนุ่มฮอตของโรงเรียนการเรียนดีฉลาดเป็นกรด แต่เขานั้นเป็นเสือยิ้มยากอีกทั้งยังทำตัวเย็นชาจนถูกขนานนามว่าเป็นนายหน้าน้ำแข็ง คาแรกเตอร์ เย็นชา หัวกะทิ ภายนอกเหมือนไม่ใส่ใจแต่ในใจเป็นคนที่อ่อนโยนใจดีเห็นใจผู้อื่น

โซจูยอน รับบท  ชินซลอี (เฉินเสี่ยวซีในเวอร์ชั่นจีน) สาวน้อยผู้แสนสดใสที่หลั่งไหลคลั่งรักในตัว ชาฮอน ทั้งสองเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กอีกทั้งยังอาศัยอยู่ในตึกเดียวกันจึงนับว่าเป็นเพื่อนบ้านกันมานานอีกด้วย คาแรกเตอร์ สดใสร่าเริง การเรียนไม่ได้ดีเด่นอะไรแต่จิตใจดีวาดรูปเก่ง

ยอฮเวฮยอน รับบท อูแดซอง (อู๋ปัวซงในเวอร์ชั่นจีน) นักเรียนใหม่สุดฮอตที่พึ่งย้ายมาเรียนที่เดียวกับ ชินซลอี และ ชาฮอน แค่วันแรกเข้ามาเขาก็ได้ฝากตัวเป็นลูกน้องกับชินซลอีแล้ว คาแรกเตอร์ แมน ๆ เอาใจเก่ง รุกแรง ตรงไปตรงมา ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร

เรื่องย่อ บอกเล่าเรื่องราวความรักของสาวน้อย ชินซลอี กับ ชาฮอน หนุ่มหล่อสุดฮอตระดับหัวกระทิของโรงเรียน ซลอีกับชาฮอนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กและทั้งสองยังเป็นเพื่อนบ้านกันมานานนั่นทำให้สาวน้อยชินซลอีจึงแอบมีใจให้กับชาฮอนไม่น้อย

เมื่อวันเวลาล่วงเลยเข้าสู่ชีวิตวัย High School ชินซลอีเปิดเกมส์รุกเดินหน้าจีบชาฮอนอย่างเต็มกำลังโดยได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าเพื่อน ๆ อย่างเต็มที่แต่ทางชาฮอนนั้นก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่จะตอบรับความรักครั้งนี้เอาซะเลย

แต่ทว่าเมื่อมีหนุ่มนักเรียนใหม่อย่าง อูแดซอง ที่เข้ามาตีสนิทซลอีแบบเปิดตัวแรงว่าชอบชินซลอีแถมยังเข้ามาแทรกกลางระหว่างพวกเขาสองคน ชาฮอน พ่อหนุ่มหน้าน้ำแข็งก็เริ่มแสดงท่าทีหึงหวงออกมาไม่น้อย เรื่องราวความรักของสาวน้อยชินซลอีกับพ่ออัจฉริยะหัวกะทิชาฮอนจะจบลงอย่างไร

ความเห็นหลังชม: จากที่ได้รับชมตอนแรกเส้นเรื่องยังคงเหตุการณ์สำคัญเดิม ๆ ไว้ค่ะ ทั้งฉากสารภาพรักในช่วงเปิดเรื่องหรือการเปิดตัวพระรองกับเสื้อ Balance และเรื่องการเขียนจดหมายรัก ยังคงเดิมไว้ทุกอย่างแต่รายละเอียดเล็ก ๆ

น้อยปรับเปลี่ยนไปตามบริบทสังคมให้เข้ากับความเป็นเกาหลีมากขึ้นและอีกอย่างที่เจย์รับรู้ได้เลยว่าต่างกันมากคือเวอร์ชั่น 2020 ค่อนข้างรวบรัดและเดินเรื่องเร็วกว่าทางต้นฉบับมากถึงแม้ว่าจะมีจำนวนตอนที่เท่ากัน

แต่ว่าฉบับดั้งเดิมนั้นมีความยาวของตอนถึง 40-44 นาทีโดยประมาณแต่เวอร์ชั่นใหม่นี้มี Duration เพียงแค่ 20-25 นาทีโดยประมาณ ฉะนั้นแน่นอนว่าหากทางเกาหลีจะคงเส้นเรื่องเดิมไว้ทั้งหมดจึงจำเป็นต้องตัดรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่ค่อยสำคัญออกไป

รีวิว A Love So Beautiful

ถ้าเทียบกันจากตอนแรกว่าเจย์ชอบเวอร์ชั่นไหนคงให้ทางจีนค่ะเพราะว่าทำได้ออกมาค่อนข้างดีและให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครมากกว่า ส่วนในด้านนักแสดงขอชื่นชม ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

โซจูยอน เลยว่าโกงอายุเก่งอะไรเบอร์นี้คนวัย 27 ปีแสดงเป็นเด็กอายุ 16 ได้เนียนมากทั้งคาแรกเตอร์ สีหน้า แววตาและรอยยิ้มเหมือนเธออายุ 16 จริง ๆ ด้านพระเอกและพระรองก็งานดีมากอยากจะสารภาพว่าตามตรงเลยว่าเหตุผลที่ตามมาชมเรื่องนี้

เพราะชอบต้นฉบับนั่นคือส่วนหนึ่งแต่เหตุผลที่แท้จริงคือตามมาเสพใบหน้าของน้องคิมโยฮันนั่งเองจ้า เพราะเจย์นั้นตามเชียร์น้องเขามาตั้งแต่เข้าร่วมประกวดรายการ Produce X 101 แล้วจึงสบโอกาสมาตามเก็บผลงานของเขาด้วย จุดเด่น โทนของเรื่องอบอุ่น Feel Good นักแสดงดึงดูดน่าติดตาม โครงเรื่องใกล้เคียงกับต้นฉบับมาก

สำหรับผม ถือว่าเป็นซีรีส์ในดวงใจอีกเรื่องนึง ชอบการเล่าเรื่องแบบนี้ที่ดำเนินไปเรื่อยๆค่อยๆเห็นการพัฒนาของตัวละคร ชอบการนำเอาโทรศัพท์มาแสดง time line ของเนื้อเรื่อง ถ้าสังเกตเราจะเห็นว่าโทรศัพท์ของทั้งคู่จะค่อยๆเปลี่ยนไปตามเวลา จาก Nokia ปุ่มยาง จนมาถึง Iphone

แอบเสียดายนิดนึงพาร์ทมหาลัยตัดฉับๆมาก น่าจะเพิ่มตอนให้มากกว่านี้ สัก 30 ตอนกำลังสวยเลย ส่วนหนึ่งที่ชอบมากของซีรีส์คือ การจบที่สมบูรณ์แบบมาก พระนางมานั่งเปิดใจคุยกัน

 

รีวิว A Love So Beautiful

 

ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถือได้ว่าเป็นการเคลียร์ปมทั้งหมดแบบ 100% แถมมีความในใจของพระเอกที่เก็บงำมาทั้งหมด 22 EP. ให้เราได้รู้และเข้าใจตัวละครยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ไม่เคยดู แนะนำเลยครับ ฟินแน่นอน

เจย์เชื่อว่าเหล่าแม่ ๆ พี่สาว น้องสาว One it และแฟนคลับของโยฮันคงชอบเรื่องนี้มากแน่ ๆ เพราะบทส่งแถมออร่าจับมากมาย ท่านใดกำลังมองหาซีรีส์ Feel Good ดูข้ามปีเรื่องนี้เจย์แนะนำเลยจ้า

โดยสามารถตามไปเชียร์ชินซลอีคนคลั่งรักชาฮอนได้ที่ Netflix ได้เลยค่ะ สุดท้ายนี้กราบอ้อมอกอ้อมใจทุกท่าน ที่แวะเวียนกันเข้ามาเสพบทความของเสี่ยวเจย์ ฝากเอ็นดูนักเขียนสายรีวิวตัวน้อยคนนี้ไปนาน ๆ นะคะ

ความรู้สึกหลังดู

ละครเกาหลีฮิตเรื่อง “A Love So Beautiful” ที่รีเมคของเกาหลีล้มเหลวในการแสดง เนื่องจากสั้นเกินไปและวิเศษเกินไป ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

เรื่องราวเกี่ยวกับนักเรียนมัธยมปลายที่รู้สึกถึงข้อกำหนดแรกของความรัก ส่วนแรกของละครเรื่องนี้อุทิศให้กับช่วงวัยหนุ่มสาวของพวกเขาจริง ๆ และล้มเหลวในการถ่ายทอดความรู้สึกคิดถึงที่ละครโรงเรียนส่วนใหญ่ทำโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาถูกวางไว้ในอดีต

ส่วนที่สองของละครมุ่งเน้นไปที่ชีวิตวัยผู้ใหญ่ของพวกเขาและนั่นคือจุดเริ่มต้นของละครโดยมีการทดสอบความสัมพันธ์หลักและบางครั้งก็ข้ามซึ่งไม่ได้รับการจัดการอย่างราบรื่น

ฉันเดาว่าปัญหาหลักที่ละครเรื่องนี้ต้องเผชิญคือตอนสั้น ๆ พวกเขาพยายามที่จะมีกรณีเล็ก ๆ ต่อตอน แต่เรื่องราวจริงไม่สามารถพัฒนาได้อย่างถูกต้องเนื่องจากสิ่งนั้น ข้อเสียอีกประการหนึ่งที่ปรากฏคือความคิดที่เบื่อหูของหลาย ๆ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ตั้งแต่งานกล้องเก่าๆ ไปจนถึงการแสดงท่าทางโรแมนติกสุดประหลาด แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปฏิกิริยาของนางเอกต่อทุกอย่างที่เกินความเป็นเด็กและจบลงด้วยความน่ารำคาญ ละครเรื่องนี้คาดเดาได้มากเกินไปและไม่ใช่เพราะเป็นละครรีเมค

 

รีวิว A Love So Beautiful

 

ลองคิดดู ต้นฉบับอยู่ใกล้กับสถานที่ประโลมโลกมากขึ้น โดยเน้นที่ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ ปัญหาครอบครัว และละครที่โตขึ้น ในทางตรงกันข้าม อันนี้ไม่บรรลุนิติภาวะและน่าเบื่อง่ายกว่า อย่างน้อยตัวละครข้างเคียงก็น่าสนใจและเพิ่มความบันเทิงที่นี่และที่นั่นเมื่อจำเป็น การแสดงก็ค่อนข้างดีจากทุกคนในทีมเช่นกัน

ซีรีส์นี้ติดตามชีวิตและความรักของนักเรียนกลุ่มหนึ่งตลอดชีวิตที่โรงเรียน สู่ความสำเร็จในอาชีพการงานเฉพาะของพวกเขา เรื่องราวเบาๆ กับเหตุการณ์ที่ตลกขบขันเป็นครั้งคราว หากคุณต้องการนาฬิกาที่ดูเรียบง่ายพร้อมมิตรภาพอันอบอุ่นหัวใจ คุณจะไม่ผิดหวังที่นี่

หากคุณกำลังมองหาอะไรที่สนุกและเบา ๆ แล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดกับ “A Love So Beautiful” ตรงไปตรงมา มีการแสดงที่ดีขึ้นเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ตกหลุมรักกับเด็กผู้ชายโดยที่ผู้หญิงคนนั้น (ด้วยเหตุผลบางอย่าง) ไม่ได้ฉลาดมากเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่เธอรัก “Good Morning Call” และ “Mischievous Kiss: Love in Tokyo” เป็นซีรีส์ที่ดีกว่า

 

นี่เป็นเรื่องราวที่ทำมาหลายครั้งแล้ว แม้ว่าการพลิกผันในตอนจบจะทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแม้ว่าจะรู้ว่าจะจบลงอย่างไร ไม่ใช่ทุกรายการที่คาดเดาได้ว่าจะแย่เสมอไป

Shin Sol-Yi เป็นเด็กสาวที่มีความกระตือรือร้น ค่อนข้างไร้เดียงสาและยังไม่บรรลุนิติภาวะสำหรับอายุของเธอ น่าเสียดายที่สิ่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเธอโตขึ้น เธอเริ่มด้วยวัย 17 ปี ทำตัวเหมือนอายุ 10 ขวบ เธอจบลงด้วยวัยยี่สิบที่ทำตัวเหมือนเด็กอายุ 12 ขวบ เธอสะอื้นและมุ่ย และบ่อยครั้งที่สิ่งนี้กลายเป็นเรื่องน่ารำคาญเล็กน้อย

ฉันเคยอาศัยและทำงานในประเทศจีน เกาหลีและไต้หวัน และฉันได้บอกผู้คนว่า: ใช้อายุของเด็กผู้หญิงและลบสิบปีเพื่อให้ได้วุฒิภาวะที่แท้จริงของเธอ มันไม่ค่อยล้มเหลว

Cha-Heon เป็นเป้าหมายของความรักของ Sol-Yi เขาเป็นนักเรียนชั้นยอด แต่เขาค่อนข้างเย็นชาและอยู่ห่างไกลเมื่อพูดถึงซอลยีและเธอสนใจเขามากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

การแสดงค่อนข้างดี Yo-Han Kim (Cha-Heon) ค่อนข้างไม้ในบทบาทของเขา ดังนั้น Ju-Yeon (Shin Sol-Yi) มีลักยิ้มที่น่ารักที่สุดในโลกและรอยยิ้มมูลค่าหลายล้านเหรียญ ฉันแค่หวังว่าเธอจะสามารถนำความลึกและมิติมาสู่ตัวละครของเธอได้มากขึ้น รวมทั้งทำให้ตัวละครของเธอมีวุฒิภาวะมากขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อทำให้เธอน่าดึงดูดยิ่งขึ้นและน่ารำคาญน้อยลง

ฉากจูบในรายการนี้เป็นฉากที่แย่ที่สุดที่ฉันเคยเห็น ไม้ปากแน่นไม่มีความรู้สึกหรือความถูกต้องเลย เห็นได้ชัดว่านักแสดงและนักแสดงไม่ชอบทำแบบนั้น ถึงกระนั้น เรื่องนี้ก็เป็นซีรีย์ที่น่าติดตาม ไม่ได้มีอะไรพิเศษเกินไป แต่เป็นเรื่องราวความรู้สึกดีๆ ที่มั่นคงซึ่งจะทำให้คุณยิ้มได้ ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง