รีวิว The 40-Year-Old Virgin

ที่ดูหมิ่นเหยียดหยามตัวละคร แต่ “The 40-Year-Virgin Virgin” กลับมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งอย่างน่าประหลาดใจในขณะที่คอเมดี้ของเพื่อน ๆ ดำเนินไปและมีจิตใจที่ดีและเป็นฮีโร่ที่น่ารัก ไม่ใช่แค่การที่ Andy Stitzer ขี่จักรยานไปทำงาน แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงการเลี้ยวของเขา ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

บทความต่อไปนี้เป็นการเขียนวิเคราะห์หนังตลกโรแมนติก (หรือเปล่าหว่า ?) ที่เน้นมุขไปทางเรื่องใต้สะดือเหมือน American pie เนื่องจากผมเคยดูหนังเรื่อง American pie เพียงครั้งเดียวและนานมาแล้วเลยบอกไม่ได้มีแนวคิดอะไรแฝงอยู่ในนั้นบ้าง (หรือว่าไม่มีอะไรเลย ?)

แต่ในหนังเรื่องนี้ถือได้มีอะไรหลายอย่างเพียงพอสำหรับเขียนถึงและเพียงพอสำหรับการเสียเวลาของท่านในการอ่าน หนังเรื่องนี้กำกับโดยจัดด์ อาพัดโทว์ ผู้ที่เคยฝากฝีมือกับการเป็นผู้ผลิตหนังเรื่อง Anchorman: The Legend of Ron Burgundy (2004)

เกี่ยวกับโฆษกโทรทัศน์ของอเมริกาในทศวรรษที่ 70  ซึ่งก็ตลกบ้างไม่ตลกบ้าง ชะรอยว่าคงไม่ค่อยเข้าตาคนไทยก็เลยไม่เคยดังเท่าไรนัก สำหรับเรื่อง 40 Year -Old -Virgin

เป็นเรื่องแรกที่เขากำกับและประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล ได้ทั้งเงินและกล่อง สำหรับกล่องคือนักวิจารณ์หนังชื่อดังเช่นริชาร์ด โรเปอร์ คู่หูของโรเจอร์ อีเบิร์ต จัดให้เป็นหนังหนึ่งยอดเยี่ยมอันดับที่สิบของปี 2005

ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งชื่อได้เหมาะกับแนวคิดหลักของเรื่องเป็นยิ่งนักนั้นคือพระเอกของเรื่องนามว่าแอนดี้ สไตท์เซอร์ (แสดงโดยสตีฟ คาเรลล์) คนที่เราคุ้นหน้ากันดีจากบทของพิธีกรทีวีคู่แข่งของจิม แคร์รีย์

ในหนังเรื่อง Bruce Almighty ที่สร้างเสียงฮาโดยการตกเป็นเหยื่อของพระเอกตอนรายงานข่าว เขาช่างมีใบหน้าและบุคลิกเหมือนกับดาราดังอีกคนคือเบน สตีลเลอร์

และรูปแบบการแสดงก็เหมือนกันด้วย แอนดี้ทำงานเป็นเสมียนอยู่ในร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่ง เขาอายุ 40 ปี ที่สำคัญนอกจากโสดแล้วเขายังบริสุทธิ์ด้วยต่างหาก !! เหตุการณ์นี้สามารถมาตั้งเป็นกระทู้ในพันทิปห้องปัญหาชีวิต ได้ว่า

มีด้วยหรือสำหรับผู้ชายอายุ 40 ปีแล้วยังไม่เสียความบริสุทธิ์ให้กับหญิงใดเลย ชีวิตของแอนดี้นั้นแน่นอนว่าย่อมเป็นไปตามความคาดหมายของเราคือเป็นคนขี้อาย เงียบ ๆ เรียบร้อย บุคลิกค่อนข้างจะออกไปทาง Regressive คือวัยทดถอยเหมือนกับเด็กไม่ว่าชอบเล่นเกม ชอบทาสีตุ๊กตา ขับรถไม่เป็น ขี่แต่จักรยาน

และเมื่อจอดจักรยานแล้วก็จะถอดเอาล้อมาด้วยกันไม่ให้คนขโมยได้ แถมยังหิ้วล้อนั้นเข้ามาในร้าน อันสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดูอย่างมาก ในร้านนี้เขามีเพื่อนซึ่งอยู่ในวัยใกล้ๆ กันอีก 3 คนซึ่งแต่ละคนค่อนข้างจะช่ำชองเรื่องผู้หญิงเป็นยิ่งนัก

 

รีวิว The 40-Year-Old Virgin

 

แต่แล้วโชคชะตาของแอนดี้ก็เปลี่ยนไปเมื่อทั้ง 3 คนล่วงรู้ว่าเขาเป็นชายบริสุทธิ์ทั้งแท่ง ทั้ง 3 คนจึงวางแผนให้แอนดี้เสียความบริสุทธิ์ให้กับหญิงใดหญิงหนึ่งให้จงได้ แต่แล้ว แอนดี้ก็ไปตกหลุมรักกับทรีช พรีรดมอนท์ (แสดงโดยคาธอริน คีนเนอร์) แม่ม่ายลูกติด แถมเธอยังเป็นย่าคนในวัยที่ยังไม่มากอีกด้วย เรื่องราวจะเป็นอย่างไร กรุณาติดตามหาดูเอาเอง

สำหรับแนวคิดแฝงในเรื่องนี้เราพบครั้งแรกในชื่อเรื่องนั้นแหละ นั่นคือ คนบริสุทธิ์ที่อายุ 40 ปี (40-year-Old Virgin) สมมติว่าคนที่ว่านี้เป็นผู้หญิงก็ย่อมทำให้หนังลดความน่าสนใจไปมากกว่าครึ่ง

เพราะปัจจุบันเป็นเรื่องธรรมดาเสียแล้วสำหรับผู้หญิงในการอยู่เป็นโสดตลอดชีวิตด้วยเหตุผลอันหลากหลาย แต่ถ้าเป็นผู้ชายย่อมทำให้คนสนใจกันมากเหมือนกับตั้งชื่อหนังว่า “แมวที่พูดได้” (The Cat who can Talk) อะไรทำนองนี้ ที่ขบขันเพราะว่าแนวคิดเรื่องความบริสุทธิ์ (Virgin)

นั้นถึงแม้ตัวศัพท์เองจะสามารถใช้ได้ทั้ง 2 เพศ แต่สมัยก่อนเราจะใช้กับเพศหญิงเท่านั้นและกลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิงดังจะตั้งลงในห้องปัญหาชีวิตได้ว่า ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร

 

 

ทำไมผู้ชายถึงชอบผู้หญิงบริสุทธิ์ ?” หรือ “สมองผู้ชายมีแต่ให้ความสำคัญกับเยื้อบางๆ ของผู้หญิงเท่านั้นหรือ แน่นอนว่าแนวคิดนิยมผู้หญิงที่บริสุทธิ์ย่อมอยู่ในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ (Male dominance) นั้นคือมองผู้หญิงเป็นเหมือนกับสิ่งของอันล้ำค่าที่จะต้องบริสุทธิ์จนกว่าจะถึงวัยอันควรนั้นคือตกเป็นของผู้ชายที่สมควรกันหรือมีอำนาจและบารมีเหนือกว่า

คนไทยสมัยก่อนจะรับไม่ได้เลยกับหนังที่นางเอกตกเป็นของคนอื่นก่อนได้กับพระเอก แต่สำหรับพระเอกแล้วการได้กับผู้หญิงคนอื่นก่อนนางเอกย่อมถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของชายชาตรี จนเลยไปถึงแนวคิดที่ว่ายิ่งมากยิ่งดี (อันสะท้อนถึงแนวคิดผัวเดียวเมียหลายคนในอดีต แม้ว่าปัจจุบันแนวคิดเรื่องผู้ชายรักเดียวใจเดียวหรือรักครอบครัวจะมาแรง แต่แนวคิดเก่าๆ แบนี้ก็ยังแฝงมากับละครหรือภาพยนตร์อยู่ไม่น้อย)

ในทางกลับกัน การที่ผู้หญิงหวงแหนพรหมจารีจนอายุเกินวัยอันควรโดยที่เธอเองไม่ใช่นักบวชหรือแม่ชี  สังคมทุกที่ย่อมมองในด้านไม่ดี จึงมักจะมีทฤษฎีตีตราทางสังคมดังภาษาอังกฤษเรียกว่า spinster หรือสาวขึ้นคาน * ถึงแม้ปัจจุบันสังคมจะยอมรับการเป็นโสดของผู้หญิงมากขึ้นแต่แนวคิดเช่นนี้ก็ยังทรงพลังอยู่

ดังจะดูได้จากนิตยสารสำหรับผู้หญิงหลายเล่มที่มุ่งเน้นให้ผู้หญิงจับผู้ชายหรือหาสามีให้จงได้ หนังตลก โรแมนติกหลายเรื่องจึงเน้นความพยายามของนางเอกในการดิ้นรนออกจากความเป็นโสดนั้นไม่ว่าเรื่อง Bridget Jones’s Diary แนวคิดที่ต่อต้านความนิยมนี้ย่อมถือว่าเป็นแนวคิดแบบสตรีนิยมหรือ Feminism

อย่างไม่มีปัญหาที่จะประณามสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่และใจแคบ แต่สำหรับผู้ชายที่ยังบริสุทธิ์ในวัยที่มากแล้วล่ะ ? ในหนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความแปลกแยกของแอนดี้ต่อการล้อเลียนภายหลังจากที่เพื่อนร่วมงานในร้านทุกคนรู้ว่าเขายังไม่เคยมีอะไรกับสาวคนไหนเลย แน่นอนว่าสังคมที่เราอยู่อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น

 

รีวิว The 40-Year-Old Virgin

 

แต่เท่าที่ผมเห็นมาหากใครรู้ว่าหมอนั้นยังบริสุทธิ์อยู่ก็จะมองด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป ไม่เหมือนกับผู้ชายที่ผ่านผู้หญิงมากมายย่อมคุยโวโอ้อวด ดีไม่ดีจะบรรยายกิจกรรมบนเตียงทุกอิริยาบถด้วยความภูมิใจ เท่านี้ก็พอจะวิเคราะห์ได้ว่า แนวคิดในเรื่องผู้ชายเป็นใหญ่นี้ย่อมทำให้เหยื่อไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น หากผู้ชายก็สามารถเป็นเหยื่อได้เช่นกัน

หากมองตามทฤษฎีสังคมวิทยาของการจัดแบ่งชนชายขอบ (หรือชนกลุ่มน้อย) ย่อมจะมีการกันให้คนที่ไม่เข้าประเภทออกไปคนที่อยู่ตรงกลางจึงเป็น ผู้ชายรักต่างเพศ-ที่เคยผ่านผู้หญิงมาแล้วอย่างน้อยก็ภรรยา-ฐานะชนชั้นกลางถึงรวย-ฯลฯ (ถ้าข้ามประเทศก็จะรวมถึงผู้ชายผิวขาว)  แนวคิดที่ว่ายิ่งนอนกับผู้หญิงมากยิ่งดีนั้นก็ได้แก่พระเอกในภาพยนตร์ต่อสู้หลายเรื่องเช่น James Bond

ส่วนพวกที่อยู่ออกขอบ ๆ ก็ได้แก่ผู้หญิง พวกรักร่วมเพศ ชนสีผิว ผู้พิการ ผู้ติดเชื้อ ฯลฯ สำหรับชายโสดเช่นแอนดี้ย่อมถูกจัดให้เป็นพวกที่เบี่ยงเบนจากตรงกลางหน่อย เพียงเพราะไม่เคยนอนกับผู้หญิงเท่านั้น

และเขาก็ไม่ใช่เกย์เพราะในหนังย้อนกลับไปตอนที่เขายังวัยรุ่นแสดงให้เห็นว่าเขาได้พยายามมีอะไรกับผู้หญิงมา 3 ครั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ (ที่น่าตลก)

เสียก่อนทำให้ขาดความเชื่อมั่นกลายเป็นโรคจิตที่เรียกว่า Love-shyness หรือโรคกลัวมีความสัมพันธ์กับเพศตรงกันข้าม นั้นเป็นสิ่งที่แอนดี้จะต้องต่อสู้ตลอดทั้งเรื่องเพื่อให้กลับไปสู่จุดศูนย์กลางของการยอมรับของสังคม

ในสายตาของผู้ชาย (หรือผู้หญิง)ที่ตกอยู่ในวาทกรรมแบบ Sexism (แนวคิดที่เชื่อว่าผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิง) และ Machismo (ผู้ชายที่ดีต้องเป็นผู้ชายจ๋า) การมีเพศสัมพันธ์ย่อมแสดงให้เห็นว่าผู้ชายคนนั้นได้ย่อมได้มีอำนาจเหนือผู้หญิงแล้ว การไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงเลยถือว่าเป็นวิกฤตการณ์ท้าทายความเป็นลูกผู้ชายเป็นยิ่งนัก แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องอะไรสักอย่างของผู้ชายคนนั้น

รีวิว The 40-Year-Old Virgin

ในขณะเดียวกันหนังก็ไม่ได้สร้างภาพความสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิงในด้านที่สมบูรณ์แบบเมื่อเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มคือเดวิดเกิดช้ำใจเพราะพบแฟนเก่าเลยละความตั้งใจในการหาเรื่องจีบผู้หญิง เพื่อนอีกคนหนึ่งคือคาลซึ่งเห็นใจก็พยายามกระตุ้นทุกวิถีทางให้เขากลับมาสืบทอดอุดมการณ์ “ผู้ชายเป็นใหญ่” ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

อีกครั้ง คล้าย ๆ กับหนังเรื่อง Fight Club แต่ Fight Club เน้นเรื่องการใช้กำลังต่อสู้ ส่วน 40 Year -Old -Virgin นั้นเน้นการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีบางฉากที่ 4 สหายแข่งกันปัสสาวะข้างตึกว่าใครสามารถไปไกลกว่ากัน (เน้นความแผลง ๆ แบบลูกผู้ชาย) หรือตอนมารวมกลุ่มพูดคุยกันก็ขวางหลอดไฟยาว ๆ ใส่พื้น (เน้นความรุนแรงนิดๆ)

หนังยังมีสิ่งผลักดันคือถึงความท้าทายของผู้หญิงที่มีต่อสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ นั้นคือให้หัวหน้างานในร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นผู้หญิงท่าทางจืดชืดคนหนึ่ง(ที่ไม่บริสุทธิ์แต่ไม่แต่งงาน)และยังสร้างกฎเกณฑ์อะไรที่ทำให้ผู้ชายซึ่งเป็นลูกน้องอึดอัดเช่นบังคับให้โทรทัศน์ที่แสดงสำหรับลูกค้าเปิดแต่คอนเสิร์ตของไมเคิล

แม็คโดนัล ซ้ำซาก เพื่อนๆ ของแอนดี้จึงรวมกลุ่มกันในการหมกมุ่นแต่เรื่องใต้สะดือเช่น เข้าร่วมงานจับคู่ หรือการไปเที่ยวผับเพื่อจับสาวถือได้ว่าเป็นการระบายออกในการแสวงหาอำนาจจากผู้หญิงคนอื่น และมีตอนหนึ่งที่หนังแสดงให้เห็นถึงความเคลือบแคลงใจของผู้ชายที่กลัวต่อการตกอยู่ใต้อำนาจของผู้หญิงอย่างชัดเจน

นั้นหัวหน้างานหญิงคนนั้นได้เสนอตัวขอนอนกับแอนดี้ (ไปพร้อม ๆ กับแนวคิดเรื่อง Free Love หรือรักเสรีดังเช่นคำว่า F-ck Buddy หรือเพื่อนที่นอนด้วยกันเท่านั้น)แต่แอนดี้ปฏิเสธ อันเป็นการทำลายทฤษฎีความเชื่อแรกที่ผมนำเสนอมาเองว่า การมีเพศสัมพันธ์ไม่จำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่า ผู้ชายต้องมีอำนาจเหนือผู้หญิงเสมอไปไม่ ผู้ชายอาจจะโดนผู้หญิงมีอำนาจเหนือกว่าก็ได้

อันนำไปสู่ข้อเท็จจริงที่ว่า กรณี Sexual Harassment หรือการคุกคามทางเพศเช่นในที่ทำงานอาจจะไม่ใช่แค่เจ้านายที่เป็นชายกับลูกน้องที่เป็นหญิงเท่านั้น อาจจะรวมถึงเจ้านายที่เป็นหญิงกับลูกน้องที่เป็นชายก็ได้ (ตัวอย่างที่แปลก ๆก็ได้แก่รายงานของเชลยศึกอิรักที่ถูกทารุณกรรมทางเพศโดยผู้คุมที่เป็นทหารหญิง) การปฏิเสธของแอนดี้ถือว่าเป็นการนำตัวเองออกไปจากการครอบงำของผู้หญิงอีกครั้งหนึ่ง

ความรู้สึกหลังดู

“สาวพรหมจารีอายุ 40 ปี” เป็นส่วนผสมที่แปลก ด้านหนึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้หยาบและน่ารังเกียจ…เต็มไปด้วยการเสียดสีทางเพศมากมาย อีกอย่างคือโรแมนติกหวานแหวว และสำหรับฉัน การมิกซ์ไม่ได้ผลทีเดียว ฉันคงจะชอบอารมณ์ขันที่หยาบคายน้อยกว่า และชอบตัวละครของสตีฟ คาร์เรลล์ และความโรแมนติกมากกว่า ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

Andy (Carrell) ทำงานที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เหมือนกับ Best Buy เพื่อนร่วมงานของเขาเป็นคนงี่เง่าที่คุยเรื่องเซ็กส์ตลอดเวลา ในทางกลับกัน แอนดี้ค่อนข้างขี้อายและไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับผู้หญิง

และในตอนแรกเพื่อนร่วมงานเหล่านี้ล้อเลียนเขาที่เวอร์จิ้น อย่างไรก็ตาม ภายหลังพวกเขาทำภารกิจให้แอนดี้วางตัว และไม่น่าแปลกใจเลยที่ความพยายามเหล่านี้ไม่ได้ผล และคำแนะนำของพวกเขาก็แย่มาก Andy สามารถจัดการเพื่อค้นหาความรักและเซ็กส์ได้หรือไม่?

เห็นได้ชัดว่ามีไดเร็กเตอร์คัทที่มีความหยาบกว่าเวอร์ชั่นนี้ สำหรับฉัน ฉันคิดว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้มีมากเกินไปและมันก็เป็นอุปสรรคต่อความโรแมนติกที่ดี คุ้มค่าที่จะดู แต่อาจไม่ใช่หนังคืนวันที่ดี

ผู้ชายขี้เก๊ก (สตีฟ คาเรล) ยังคงเป็นสาวพรหมจารี ดังนั้นเพื่อน ๆ ของเขาจึงพยายามทำให้เขานอนราบ ฉันเข้าสู่ภาพยนตร์เรื่องนี้โดยหวังว่าจะได้หนังตลกเรื่องหนึ่ง แต่ก็ต้องช็อคเมื่อเห็นว่าสิ่งนี้มีหัวใจมากแค่ไหน อารมณ์ขันที่ลามกอนาจารมาถึงจุดนั้น

แต่ฉันไม่เคยคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้โหดร้ายหรือใจร้ายซึ่งจะทำลายสิ่งนี้ได้จริงๆ เสียงหัวเราะไม่หยุด แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อและดีที่สุดคือตอนจบที่ค่อนข้างน่าประทับใจ ด้วยสิ่งนี้และ Wedding Crashers ดูเหมือนว่าจะมีชีวิตสำหรับประเภทตลก

Andy Stitzer (Steve Carell) โสดอย่างสิ้นหวังในวัย 40 ปีที่ทำงานเป็นช่างเทคนิคที่ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เขาไม่มีเกมกับผู้หญิงและไม่มีประสบการณ์เรื่องเซ็กส์ เพื่อนร่วมงานของเขา David (Paul Rudd), Cal (Seth Rogen)

 

รีวิว The 40-Year-Old Virgin

 

และ Jay (Romany Malco) ขอให้เขาเข้าร่วมเกมโป๊กเกอร์ของพวกเขาอย่างไม่เต็มใจ ระหว่างเกม แอนดี้ปล่อยวางว่าเขาไม่เคยมีเซ็กส์ พวกนั้นล้อเลียนเขาแต่แล้วก็สาบานว่าจะให้เขานอน พวกเขาให้คำแนะนำที่ขัดแย้งและโดยทั่วไปไม่ดี ที่คลับ เขากลับบ้านพร้อมกับนิคกี้ (เลสลี่ แมนน์)

ที่เมาเป็นบ้า ทริช (แคทเธอรีน คีเนอร์) เข้ามาในร้านเพื่อซื้อเครื่องเล่นวิดีโอ เธอมีหน้าร้านฝั่งตรงข้ามขายของของคนอื่นบนอีเบย์ Marla (Kat Dennings) เป็นลูกคนหนึ่งของเธอ แคลบอกให้เขาถามคำถามต่อไปเพื่อให้เป็นเรื่องลึกลับและนั่นก็ใช้ได้กับพนักงานร้านหนังสือ เบธ (เอลิซาเบธ แบงก์ส)

มีความตลกขบขันที่น่าอึดอัดมากมายที่มาจากหนังตลก Judd Apatow เรื่องนี้ Steve Carell โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการตัดผมนั้นเหมาะสำหรับบทบาทนี้ ไม่มีอะไรตลกเจ็บปวดมากไปกว่า Kelly Clarkson

ที่หัวใจของมัน Carell เป็นสัตว์ที่น่ารัก ผู้ชายคนอื่นเกือบจะไร้สาระ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำงานได้ดี มีนักแสดงตลกที่ยอดเยี่ยมมากมายที่ทำงานด้วยความคิดที่ตลกขบขันเช่นนี้ ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง