รีวิว Bad Moms

วีรกรรมภาคต่อของแก๊งสามแม่จอมป่วน ที่ทิ้งช่วงห่างจากภาคแรกแค่เพียง 15 เดือนเท่านั้น หลังจากภาคแรกประสบความสำเร็จไปเกินคาด หนังใช้ทุนไปเพียง 20 ล้าน แต่ทำรายได้ไปถึง 183 ล้าน ทางค่ายก็เลยประกาศไฟเขียวให้เดินหน้าภาค 2 ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

หลังหนังเข้าฉายไปได้แค่เพียง 2 เดือน แล้วภาคนี้ก็ได้จังหวะออกฉายปลายปี ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง ก็เลยวางธีมเรื่องให้ 3 ขุ่นแม่ต้องวุ่นวายกับ 3 คุณยายที่มาร่วมป่วนด้วย

ให้เรื่องราวออกมาแนวหนังครอบครัวเข้ากับเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาสพอดี แล้วก็ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ Daddy’s Home 2 หนังภาคต่ออีกเรื่องที่ขาย มาร์ค วาห์ลเบิร์ก และ วิล เฟอร์เรล ก็เลือกลงโรงในช่วงเดียวกัน และพลอตใกล้เคียงกันมากที่ได้ 2 คุณปู่มาร่วมแจมในช่วงคริสต์มาสพอดี กลายเป็นหนังคู่แฝดเรื่องหนึ่งแก๊งคุณแม่ อีกเรื่องก็แก๊งคุณพ่อ

ใน Bad Moms Christmas ได้จอน ลูคัส และ สกอตต์ มัวร์ คู่หูคู่เดิมจากภาคแรกกลับมารับหน้าที่ทั้งเขียนบทและกำกับ หนังก็เลยได้สานต่ออารมณ์ได้เป๊ะ และยังคงจุดขายไว้เหนียวแน่น ให้ 3 คุณแม่โชว์มุกใต้สะดือกันเป็นหลัก

ดูไปก็ยังงงอยู่นะ ว่านี่มันจะเรียกว่าหนังครอบครัวได้จริงหรือ คือหน้าหนังดูน่าจะเป็นหนังครอบครัวนะ วางฉากหลังเป็นเทศกาลคริสต์มาส ครอบครัวได้มาเจอหน้ากันทั้งคุณยายมาเยี่ยมคุณแม่ได้เจอหน้าหลาน ๆ กอดกัน กอดกัน

แต่ด้วยความเป็น Bad Moms หนังก็เลยเต็มไปด้วยมุกตลกทะลี่ง ก็คงต้องเป็นหนังครอบครัวแบบที่เน้นเฉพาะผู้ใหญ่กันล่ะ ให้รุ่นพ่อรุ่นแม่จูงพ่อแม่ตัวเองมาดูด้วยกัน

ห้ามพารุ่นลูกรุ่นหลานมาเด็ดขาดเพราะบทสนทนาอุดมไปด้วยคำหยาบและภาษาลามกล้วน ๆ แม้ว่าผู้เขียนผู้กำกับจะเป็นผู้ชายแต่ก็เขียนเรื่องราวออกมาเอาใจชะนีโดยเฉพาะบนจอมีทั้งรุ่นสาวรุ่นป้า ผู้ชายในเรื่องตกสถานะตัวประกอบอย่างชัดเจน

 

 

หน้าใหม่ที่โดดเด่นสุดในภาคนี้ก็คือ จัสติน ฮาร์ทลีย์ในบท ไท สวินเดล นักเต้นเปลื้องผ้าที่มาโชว์หุ่นล่ำและอาวุธประจำตัวอันเบ้อเริ่มซึ่งก็เรียกเสียงกรี๊ดได้ทั้งในจอและนอกจอ

จากเรื่องราวในภาคแรกที่บรรดาคุณแม่ต้องวุ่นวายกับกิจวัตรในการดูแลลูก ๆ แล้วต้องตีกับแก๊งสมาคมผู้ปกครอง ในภาคนี้เปลี่ยนมารบรากับบรรรดาแม่ของตัวเอง ที่บังเอิญว่าแม่ของทั้ง 3 โผล่มาเซอร์ไพรส์ลูกสาวในช่วงคริสต์มาสโดยไม่บอกกล่าว

แต่ละแม่ก็มาพร้อมปัญหาที่ขยายเป็นมุกฮาได้มากมาย แม่ของเอมี่จอมเวอร์วังจะจัดคริสต์มาสแบบอลังการที่บ้านของเอมี่ ในขณะที่เธออยากจัดคริสต์มาสแบบเล็ก ๆ นั่งกินอาหารเย็นกันเฉพาะครอบครัวและเพื่อนสนิท

ส่วนแม่ของกีกี้ที่กำลังโดดเดี่ยวเพราะเพิ่งเสียสามีหรือพ่อของกีกี้ไป ก็ตั้งใจจะใช้เวลาที่เหลือกับลูกสาวและมาเกาะติดเธอแจ ทำให้กีกี้รู้สึกว่าแม่เข้ามาอยู่ในชีวิตเธอมากเกินไปและขาดความเป็นส่วนตัว

ส่วนแม่ของคาร์ลาเป็นแม่ที่เป็นผีพนันและขี้เมาชอบมาไถเงินเธอ และรอบนี้ก็สัญญากับลูกสาวว่าจะเลิกเล่นพนันเด็ดขาดและหางานทำพอภาคนี้เป็นเรื่องราวของแม่ ๆ บรรดาลูก ๆ ก็เลยถูกลดทอนบทบาทไปแทบจะหายไปจากจอ แต่ไปเน้นกับปัญหาวุ่นวายที่มาจากบรรดาคุณยาย

 

 

รุ่นคุณแม่ได้ เชอรีล ไฮน์ , คริสติน บารันสกี มารับบท อ่านชื่อไปก็ไม่รู้จักหรอก แต่เห็นหน้าก็พอคุ้นล่ะ เพราะทั้งคู่ก็ผ่านงานบทสมทบกันมาเยอะ แต่ที่รู้จักกันแน่ก็ต้องซูซาน ซาแรนดอน ดาราคงกระพันดีกรี 1 ออสการ์มารับบทไอซิส แม่ของคาร์ลา ซูซาน ซาแรนดอน ตกลงมาร่วมงานก็เพราะ แคทธรีน ฮาน เขียนจดหมายด้วยตัวเองไปขอร้องให้ซูซานมารับบทเป็นแม่ของเธอ

เพราะรู้สึกชื่นชมเป็นการส่วนตัว ดูแล้วก็น่าทึ่งที่ว่า ซูซาน ในวัย 71 ยังหน้าเป๊ะหุ่นเป๊ะเหมือนเธอหยุดแก่ไว้แค่นี้มา 10 ปีได้แล้วนะ แล้วบทไอซิสเป็นแม่ของคาร์ลา ตัวเฮี้ยวที่สุดในกลุ่ม ไอซิสก็เลยต้องเฮี้ยวให้หนักกว่าลูกสาว ซูซานก็เล่นได้รั่วสุดจริง ๆ

รีวิว Bad Moms

ส่วนคริสติน บารันสกี เป็นคุณแม่ของเอมี่ ตัวเอกของเรื่อง เลยมีบทเยอะสุด เธอเป็นคุณแม่ไฮโซจอมเผด็จการที่พยายามจะเอาชนะลูกสาว คริสติน ดูเริ่ดเชิดหยิ่งดีบุคลิกดูเหมาะกับบทมาก ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

Bad Moms

 

ส่วนเชอรีล ไฮน์ คุณแม่ของกีกี้ก็ปล่อยมุกให้ฮาได้หลาย ๆ ครั้ง หนังวางคาแรกเตอร์ของ 3 คุณยายมาได้อย่างเด่นชัด และวางแผนการให้ทั้ง 3 สานต่อวีรกรรมของแก๊งคุณยายในภาค 3 ได้แน่นอน

แม้ภาคนี้จะยังคงมุกลามกเช่นเดิม แต่ด้วยเหตุที่ว่าภาคนี้ถูกวางให้เป็นหนังฉายรับช่วงเทศกาลคริสต์มาส ก็เลยต้องมีเรื่องราวของดราม่าระหว่างแม่ลูกเข้ามาประเด็นสำคัญ ก็เป็นเจตนาด้านดีของหนังที่สื่อความหมายง่าย ๆ เรื่องความรักของแม่และลูกเป็นภาษาสากลที่เข้าใจกันง่ายได้ทุกชาติทุกภาษาอยู่แล้ว ก็ลงท้ายด้วยฉากชวนซึ้งเล็ก ๆ

ได้เห็นแม่ลูกปรับความเข้าใจกันกอดกันลงเอยเป็นหนังฟีลกู๊ดตามแผนเป๊ะ แม้ว่าภาคนี้ใส่เรื่องราวครอบครัวเข้าไปมากขึ้นเพราะเจตนาจะขยายวงกว้างไปถึงคนดูรุ่นใหญ่ แต่นั่นก็ต้องแลกด้วยการลดลงของมุกฮาจากที่เคยปล่อยเต็มแม็กในภาคแรก

ซึ่งก็มีผลกับตัวเลขรายรับของหนังอย่างชัดเจน หนังถูกปล่อยฉายมาตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน ได้งบเพิ่มจากภาคแรกมานิดหน่อยเป็น 28 ล้านเหรียญ ฉายทั่วโลกมาแล้ว 2 เดือน ทำตัวเลขมาถึงวันนี้ที่ 125 ล้านเหรียญ ลดน้อยกว่าภาคแรกมาถึง 1 ใน 3 เชียวล่ะ

 

 

ก็ไม่น่าแปลกใจนะ เพราะคนมาดู Bad Moms ก็คาดหวังมุกลามกแบบภาคแรกมากกว่าจะอยากดูดราม่าซาบซึ้งในหนังแนวนี้ ถึงหนังจะเปลี่ยนแนวไปนิด มุกน้อยลงไปหน่อยแต่ว่าหลายมุกก็ยังหัวเราะเสียงดังได้อยู่นะครับ

เอมี มิตเชลล์ (มิลา คูนิส) พยายามทำทุกอย่าง ลูกๆ ของเธอ เจนและดีแลนมีปัญหาและไม่เห็นค่าเธอ เธอโยนสามีของเธอไมค์ที่นอกใจออนไลน์ เธอเป็นคนแก่ที่สุดในที่ทำงาน Dale Kipler เจ้านายของเธอและเพื่อนร่วมงานล้วนแต่เป็นคนหนุ่มสาวรุ่นมิลเลนเนียลที่ละเลยจรรยาบรรณในการทำงานของเธอ เธอมี Gwendolyn James (Christina Applegate)

ประธาน PTA มากพอแล้วจึงลาออก เธอเป็นเพื่อนกับแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไม่เหมาะสม Carla Dunkler (Kathryn Hahn) และ Kiki (Kristen Bell) ที่เรียนหนังสือจากโฮมสคูล เพื่อนใหม่สามคนกลายเป็นแม่ที่ไม่ดี

เป็นเรื่องสนุกที่ไม่เหมาะสมมากมายเมื่อผู้หญิงเป็นแม่ที่ไม่ดี มีแง่มุมของบทเรียนชีวิตที่บางครั้งก็ว่องไว ไม่มีอะไรตกราง แต่ช่วงเวลาที่แสนสนุกนั้นสนุกกว่า Kathryn Hahn

ยังคงเป็นผู้หญิงที่ตลกขบขันและเธอก็ยอดเยี่ยมที่นี่ Kristen Bell เล่นกับประเภทเล็กน้อย มิลา คูนิสเริ่มต้นด้วยปัญหาบางอย่าง อันที่จริง การเริ่มต้นของเธอทำให้ฉันนึกถึงหนังแย่ๆ ของ Sarah Jessica Parker แต่มันก็สนุกขึ้นค่อนข้างเร็ว นี่เป็นหนังที่ตลกดี

ความรู้สึกหลังดู

“Bad Moms” เป็นภาพยนตร์อเมริกัน 100 นาทีจากปี 2016 เขียนบทและกำกับโดยสก็อตต์ มัวร์และจอน ลูคัส ทั้งคู่ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในเรื่อง The Hangover ณ จุดนี้ และคุณสามารถพูดได้ว่างานของพวกเขาที่นี่เป็นงานรุ่นแม่ ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

Bad Moms

 

แต่ฉันต้องบอกว่าไม่ตลกจริงๆ ฉันอาจจะลำเอียงนิดหน่อยเพราะมีนักแสดงหลายคนในที่นี้ซึ่งฉันไม่ค่อยชอบฮาห์น เบลล์ และสมิธเท่าไหร่ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะบอกว่าระหว่างฮาห์นกับสมิธในแง่ของใครที่ทนไม่ได้มากที่สุด ในนี้. ฮาห์นน่าจะได้เปรียบเพราะเธอมีเวลาอยู่หน้าจอมากขึ้น แต่ JPS ก็เป็นผู้ขโมยซีนในเชิงลบเช่นกัน

คนที่ทำได้ค่อนข้างโอเคคือ Applegate แต่การเป็นแฟนตัวยงของ MwC ฉันก็คงจะลำเอียงเหมือนกัน และการที่เธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงในตอนท้ายและบอกศัตรูตัวฉกาจของเธอว่าชีวิตของเธอแย่แค่ไหนก็แย่อย่างน่าขันที่ในที่สุดเธอก็กลายเป็นเพื่อนกัน นี่เป็นหนังที่น่าประจบประแจงตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้หญิงมักบ่นว่าปรากฎตัวในภาพยนตร์อย่างไร

น่าแปลกที่บางคนเข้าใจผิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ พวกเขาก็ควรจะบ่นเหมือนกันสำหรับหนังเรื่องนี้ แต่ผู้ชายที่ถูกมองว่าเป็นคนพาล คนขี้โกง ฯลฯ หรือแน่นอนว่าคุณไรท์ก็ควรเช่นกัน

หนังเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับความเป็นจริง มันขาดความถูกต้องและเฉดสีที่น่าเชื่อตั้งแต่ต้นจนจบ และฉันรู้สึกเสียใจกับผู้ชมเหล่านั้นที่คิดว่าทั้งสามคนในที่นี้มีผู้หญิงที่น่าทึ่งจริงๆ แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องและการต่อสู้ดิ้นรน โอ้เดี๋ยวก่อนพวกนั้นทำให้พวกเขาเป็นมนุษย์เหรอ? ฉันทำได้แค่ส่ายหัวแค่นั้น ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร

 

Bad Moms

 

คูนิสเป็นศูนย์กลางของเรื่องทั้งหมด แต่ฮาห์นและเบลล์ก็มีเนื้อเรื่องที่ “ลึกซึ้ง” และ “ดราม่าทางอารมณ์” อย่างรวดเร็วเช่นกันซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ชายในชีวิตของพวกเขาซึ่งบางครั้งก็เป็นลูกชายของพวกเขาด้วย การพัฒนาตัวละครหลอกของประเภทที่เลวร้ายที่สุด

เรื่องตลกที่ไม่ดีเรื่องต่อไปในภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะตลกอย่างต่อเนื่อง บางครั้งยิ่งรู้น้อยก็ยิ่งรู้มาก ฉันหวังว่าหนังเรื่องนี้ควรจะดีกว่านี้ถ้าพูดตามตรง และฉันก็เปิดใจ แต่ฉันก็เห็นอย่างรวดเร็วว่านี่ไม่ใช่งานที่ดี

ก่อนที่จะตระหนักในท้ายที่สุดว่าเรื่องนี้แย่มากและเป็นคู่แข่งที่แย่ที่สุดในปี 2016 ตกตะลึงเมื่อเห็นว่าเทศกาลวันหยุดปี 2560 นี้พวกเขามีภาคต่อจริง ๆ ตัดสินจากภาพยนตร์เรื่องแรกที่นี่ ฉันไม่มีความสนใจที่จะดูเลย ฉันไม่รังเกียจคำหยาบคายหากมีความเฉลียวฉลาดติดอยู่ (เช่น South Park) แต่นี่ไม่ใช่กรณีอย่างแน่นอน

ทุกอย่างเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นี้ถือเป็นเรื่องปลอมและเพื่อประโยชน์ของโครงการนี้ โดยเฉพาะการแสดงส่วนใหญ่ คูนิสอาจจะไม่ใช่ แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรกับตัวละครของเธอเลย เธอไม่ได้แย่เหมือนผู้เล่นหลักคนอื่นๆ

การเขียนไม่ได้ช่วยอย่างแน่นอน ข้อแก้ตัวที่คาดเดาได้ยากสำหรับภาพยนตร์ และให้ฉันบอกกับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ชาวเยอรมันว่าที่นี่ เรามีภาพยนตร์อเมริกันที่เทียบเท่ากับคอมเมดี้ของชเวเฟอร์ เพื่อความบันเทิงที่ง่าย ผู้มีจิตใจเรียบง่าย ไม่แนะนำอย่างยิ่ง ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง