รีวิว Tucker and Dale vs Evil
พอได้ยินชื่อแล้ว Tucker and Dale vs. Evil มานานครับ เขาว่ากันว่าหนังสนุก แต่ก็ยังไม่เคยลองสักที เพิ่งได้ดูก็เมื่อไม่นานนี้แหละครับ และผลก็คือ ผมชอบกับเขาด้วยแฮะ ดูได้ที่ ดูหนัง
นี่คือหนังฮาสยองที่น่ารักมากๆ อีกเรื่องครับ ดูแล้วโดนจริงๆ อารมณ์มันชวนให้นึกถึง Shaun of the Dead เลยล่ะ ที่โดยพล็อตแล้วมันคือหนังสยองนะ มีฉากการตายโหดๆ เลือดสาด แขนขาด หัวหลุดเพียบ แต่ภาพที่ออกมามันเต็มไปด้วยความขำน่ะครับ จังหวะยิ่งมุกฮาก็มาได้เรื่อยๆ จริง
เป็นหนังที่ตอบโจทย์สำหรับคนกลัวสาวๆ ได้อย่างดีเป็นหนังแนวกวนบาทามากๆ หนังเรื่องนี้มีมุขที่กวนมากๆ อยู่หลายๆ อย่าง plot เรื่องสนุกมากถึงแม้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแต่หนังแสดงออกมาได้เด่นมากคะแนนจาก imdb นั้นได้ไปถึง 7.6 คะแนนเป็นหนังที่ค่อนข้างสนุกสนานพอตัวบวกกับแนวสยองขวัญสั่นประสาทมาพร้อมกับความฮาบ้าคลั่งและโรคจิตสุดๆ นี่เป็นหนังเกรด B+ ที่ผมคิดว่าโครตสนุกมุขฟายๆ เยอะมากแต่การแสดงและ plot เรื่องเล่นเอาฮาและยิ้มได้ตลอด
และขณะเดียวกันคือเนื้อเรื่องมันยังมีเหตุมีผลอีกต่างหากนะ คือไม่ได้เขียนพล็อตแบบไก่กาเอาฉากมาชนฉากแบบหนังฮาล้อเลียนทั่วไป แต่พล็อตน่ะมันถือว่าจริงจัง มีทิศทาง และทำออกมาได้น่าติดตามมากมายทีเดียว
เรื่องของ เรื่องมันเริ่มที่คู่ซี้นายทัคเกอร์ (Alan Tudyk) และเดล (Tyler Labine) ที่ไปซื้อบ้านพักตากอากาศในป่าเอาไว้ กะว่าจะใช้พักผ่อนเปลี่ยนที่นอนยามวันหยุด แล้วทีนี้ก็มีกลุ่มวัยรุ่นแวะไปพักไปเฮ้วแถวนั้นพอดี และด้วยความเข้าใจผิดทั้งหลาย ส่งผลให้พวกวัยรุ่นคิดว่าทัคเกอร์และเดลเนี่ย เป็นฆาตกรสุดโหดที่จับตัวเพื่อนของพวกเขาไป นั่นล่ะครับคือจุดเริ่มของความฮา โหด และวายป่วงของหนังเรื่องนี้
เริ่มต้นเรื่องของหนังเรื่องนี้มีนักศึกษากลุ่มนึงมาหาที่เที่ยวกลางป่าเพื่อมากลางเต้นท์นอนตามประสาวัยรุ่น แต่เค้าได้ไปพบกับชายคนนึงซึ่งเป็นไอหนุ่มบ้านนอกตรงร้านสะดวกซื้อตามชนบทซึ่งท่าทีของชายคนนั้นมองกลุ่มวัยรุ่นนี้แปลกๆ จนกระทั่งวัยรุ่นกลุ่มนั้นไปกลางเต้นท์ในป่าแล้วเพื่อนของเธอได้หายไปทั้งกลุ่มตามหาและทราบว่ามีชายบ้านนอก 2 คนเอาตัวเธอไป
ทั้งหมดเลยตามหาและจะเอาคืนแต่มันไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะ ทุกคนต่างคิดไปเองทั้งหมด นี่ไม่ได้สปอยล์นะครับต้นเรื่องถ้าดูมันจะบอกเลย แล้วความฮาบังเกิดเมื่อคนดีถูกเข้าใจผิดว่าเป็นฆาตกร อะไรจะเกิดขึ้นความฮา ความบ้า ความสยอง ไมหยุดแค่นี้ แน่ๆ เป็นหนังที่มีมุขควายๆ แต่ฮาชิพหายจริงๆ ครับ หลังดูจบให้ข้อคิดว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือความคิดของเรานั้นเอง
สนุกครับ สนุกอย่างแรง ผมชอบมากเลย อย่างแรกคืออย่างที่บอกครับว่าพล็อตมันมีทิศทาง มันไม่ได้ไร้สาระเลย แต่มันมีเหตุผล คือจริงๆ ก็มีเว่อร์บ้างล่ะครับ แต่โดยรวมก็คือมันมีทิศทาง ไม่ได้นึกจะเกิดอะไรก็เกิดแบบไร้ที่มา ซึ่งอะไรเหล่านี้ทำให้มันน่าติดตามครับ เพราะพอเรื่องมันมีเหตุผลแบบนี้แล้ว มันก็เลยเกิดความลุ้น ความตื่นเต้น หรือถึงเกิดความรู้สึกเห็นใจบางตัวละครตามมา ประมาณว่าไม่อยากให้พวกเขาต้องเจอเรื่องบ้าๆ หรือเรื่องเลวร้ายน่ะครับ
ที่ชอบอย่างต่อมาคือการแสดงที่โคตรยอดของ Labine ในบทเดล หนุ่มอ้วนขี้อายที่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนจิตใจงามมากๆ ครับ นิสัยน่ารัก เรียกได้ว่าเป็นพระเอกแบบเต็มตัวเลยล่ะ แต่หน้าตาพี่แกอาจออกแนวไม่หล่อบ้าง อันเป็นหนึ่งในสาเหตุของเรื่องวุ่นๆ ทั้งหลายในหนัง ซึ่ง Labine สวมบทนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม จนเราอดไม่ได้ที่จะสงสารในชะตากรรมของพี่แกในหลายวาระ แต่ขณะเดียวกันก็อดขำไม่ได้ด้วยน่ะครับ เพราะบางทีพี่แกก็เอ่อเกินเหตุ จนเรื่องมันวุ่นแล้ววุ่นอีก
รีวิว Tucker and Dale vs Evil
ในขณะที่ Tudyk คอหนังจะคุ้นหน้าเขามากกว่า เพราะเขาเคยแสดงหนังอย่าง Patch Adams, Serenity และ Knocked Up ซึ่งสำหรับเรื่องนี้พี่แกก็ออกแนวสมทบเหมือนเดิมครับ แต่ก็เป็นตัวเสริมที่พอเหมาะนะ หลายๆ ตอนเลยล่ะที่พี่แกเสริมความฮาหรือไม่ก็เสริมความลุ้นให้กับหนังได้ ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี
และคนที่ลืมไม่ได้คือ Katrina Bowden ในบท อัลลิสัน สาวน้อยที่ถือว่ามีสติที่สุดในเรื่องแล้วล่ะ (ไม่นับความเอ๋อในบางช่วงนะ 555) เธอคนนี้ก็สวย น่ารัก และที่ผมชอบมากๆ คือเธอทำให้ผมเชื่อนะ ว่าเธอน่ะไว้ใจเดล คือประมาณว่าเธอเกิดอุบัติเหตุ แล้วเดลก็ช่วยเธอมา ซึ่งตอนแรกๆ เธอก็กลัวเดล แต่ด้วยความน่ารักของเดลก็ทำให้เธอวางใจในตัวเขาขึ้นมา ซึ่งฉากที่เดลกับอัลลิสันร่วมจอกันเนี่ย มันอุดมไปด้วยการแสดงดีๆ ของ Labine และ Bowden จริงๆ มันเป็นอะไรที่เป็นธรรมชาติมากๆ (และออกมาน่ารักมากๆ ด้วยครับ)
ไม่บ่อยนะที่หนังสยองจะเอามายำกับหนังฮาได้แบบลงตัว และไม่บ่อยอีกเหมือนกันที่ดาราในหนังสยองหรือหนังฮาจะสามารถแสดงได้อย่างลื่นไหลไปกับบทได้แบบพอเหมาะขนาดนี้
กับหนังเรื่องนี้ ทำได้อย่างยอดเยี่ยมครับ อันนี้ชมผู้กำกับ Eli Craig เลย เขาคุมหนังได้พอเหมาะจริงๆ จนไม่แปลกใจเลยที่เขาถูกตามตัวไปกำกับ Zombieland ภาคซีรี่ส์ (แต่น่าเสียดายที่เรื่องนั้นไม่เข้าเป้า เขาก็เลยยังไม่มีผลงานอื่นๆ ตามมาอีก)
ดาราเจ้าอื่นๆ ก็ลื่นไปกับหนังครับ เรียกว่าเข้าขากันหมด ส่วนฉากการตายนั้น บอกตรงๆ ว่าตอนดูนี่ผมนึกถึง Happy Tree Friends ขึ้นมาเลยนะ คือลีลาการตายของแต่ละคนมันใช่อ้ะ มันตายอันเนื่องมาจากความซวย อารมณ์มันเป๊ะเลยจริงๆ ดังนั้นผมเชื่อว่าใครชอบ Happy Tree Friends ก็น่าจะโปรดหนังเรื่องนี้ล่ะครับ มันตายโหดกันจริงๆ (แต่ก็ตายชวนขำไปในตัวด้วยเหมือนกัน)
ประหลาดใจที่คนในสตูดิโอที่ทำสิ่งนี้ไม่รู้ว่าจะทำการตลาดอย่างไรและแท้จริงแล้ววางชั้นวางไว้หลายปีแล้ว มันน่าจะทำได้ดีมากในโรงภาพยนตร์ เพราะมันเป็นหนังเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สร้างมาอย่างพิเศษและแหวกแนวมาก เป็นการล้อเลียนของหนังสแลชเชอร์และทำให้ผู้ชมหลงใหลได้ตลอด
ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยกลุ่มเด็กวิทยาลัยที่น่ารำคาญมุ่งหน้าออกเดินทางไปตั้งแคมป์ในป่า ในไม่ช้าพวกเขาก็เห็นชาวบ้านบ้านนอกบางคนที่เด็กๆ เชื่อว่าตัวเองอาจเป็นแค่ฆาตกรอย่างที่คุณเห็นในภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์หรือ “Deliverance” อย่างไรก็ตาม ทัคเกอร์และเดล 2 คนในท้องที่นี้ เป็นคนที่อ่อนหวานและสงบเสงี่ยมแม้ว่าพวกเขาจะหน้าตาดีก็ตาม แต่ทุกครั้งที่พวกเขาปรากฏตัว คนงี่เง่าจะคิดว่าทั้งคู่เป็นฆาตกรและพวกเขาแสดงปฏิกิริยาเกินจริง ค่อนข้างตลก แต่ความสนุกยังมาไม่ถึง ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร
ต่อมาเมื่อทั้งคู่ออกไปตกปลาตอนกลางคืน พวกเด็กโง่ที่ตั้งแคมป์อยู่ใกล้ ๆ จะไปว่ายน้ำ เมื่อคนใดคนหนึ่งเห็นทั้งสองคน เธอถือว่าพวกเขามาเพื่อฆ่าเธอ และเธอก็ตกลงไปในน้ำ – ศีรษะของเธอกระแทกระหว่างทางลงไปที่น้ำ เธอจะจมน้ำ แต่ Dale กระโดดลงไปในน้ำและช่วยชีวิตเธอ แต่เพื่อนของเธอคิดว่าทั้งคู่ได้ฆ่าอัลลิสันและพวกเขาก็วิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว โดยไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร พวกเขาจึงพาเธอกลับไปที่กระท่อม และ Dale ก็ทำแพนเค้กให้ ไม่เป็นไรมากใช่มั้ย? ผิด!! คนหนุ่มสาวงี่เง่าคิดว่าอัลลิสันตายแล้วและพวกเขาตัดสินใจที่จะโจมตี – และเหตุการณ์ที่ยาวนานและบ้าคลั่งก็เกิดขึ้นเพื่อโน้มน้าวให้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเดลและทักเกอร์เป็นฆาตกรต่อเนื่อง! ยังมีอีก….แต่ไม่อยากสปอยล์ความสนุกแบบป่วยๆ
แนวคิดเรื่องพล็อตสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้หนังมีความยาว 20-30 นาที ฉันสงสัยว่าพวกเขาจะรักษามันไว้ 90 นาทีได้อย่างไร แต่พวกเขาทำได้ ยังไง? สิ่งสำคัญคือพวกเขาทำให้ Dale และ Tucker (โดยเฉพาะ Dale) เป็นที่ชื่นชอบและซับซ้อน อันที่จริง ฉันรับประกันได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องโปรดของลัทธิ เพราะมันมีอะไรให้ทำมากมาย การแสดง การเขียน และการกำกับที่ยอดเยี่ยม ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นคนเหล่านี้เพิ่มเติม หนังดีอะไรอย่างนี้
แม้ว่าจะไม่ทำให้คุณประหลาดใจ แต่นี่เป็นภาพยนตร์ที่นองเลือดมาก ภรรยาของฉันและฉันหัวเราะเยาะเลือดและคราบเลือด และคุณก็คงจะเช่นกัน แต่ฉันจะไม่ให้เด็กเห็นอันนี้แน่นอน
นอกจากนี้ ในฉากที่มีคนบ้ายิงปืนพก สังเกตว่าปืนยิงกระสุน 10-12 นัดโดยไม่ต้องบรรจุกระสุนอย่างไร ฉันไม่คิดว่านี่เป็นความผิดพลาด มากกว่าแค่เรื่องตลกวงใน เพราะปืนกระบอกนี้คงหมดกระสุนไปนานแล้ว
ความรู้สึกหลังดู
หนังตลกแนวสยองขวัญเรื่องนี้กำลังค่อยๆ เข้าฉาย แต่การบอกต่อแบบปากต่อปากที่รุนแรงได้ทำให้กระแสคลั่งไคล้ติดตามมากขึ้นแล้ว Rednecks Dale (Tyler Labine) และ Tucker (Alan Tudyk) เดินทางไปประเทศเพื่อทำงานบ้านฤดูร้อนของพวกเขาเมื่อพวกเขาเจอกลุ่มเด็กวิทยาลัย หลังจากที่คนเสื้อแดงช่วยชีวิตหนึ่งในนั้นจากการจมน้ำ คนอื่นๆ ในกลุ่มคิดว่าพวกเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์
และในไม่ช้าทั้งสองฝ่ายก็กำลังต่อสู้กัน ดูเหมือนว่าทุกๆ ปี หนังสยองขวัญ 1-2 เรื่องจะสร้างชื่อเสียงให้แข็งแกร่งขึ้น แต่บ่อยครั้งที่ฉันไม่รู้สึกผิดหวัง ฉันไม่แน่ใจว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น แต่บ่อยครั้งมากที่ภาพยนตร์ราคาประหยัดประเภทนี้ได้รับการโฆษณาทุกประเภทและมักจะไม่เป็นไปตามนั้น ทัคเกอร์ แอนด์ เดล VS. ความชั่วร้ายเป็นข้อยกเว้น เพราะมันให้เสียงหัวเราะได้เยอะจริง ๆ และเล่นกับแนวสยองขวัญได้ค่อนข้างดี จากที่กล่าวมา ฉันยังคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีข้อบกพร่องอยู่บ้างและแน่นอนว่าไม่ใช่ผลงานชิ้นเอกที่บางคนสร้างขึ้นมา จุดแข็งประการหนึ่งคือบทภาพยนตร์ที่ฉลาดพอที่จะรู้วิธีสร้างความสนุกสนานให้กับแนวเพลงด้วยการตั้งค่าสิ่งที่คุ้นเคยซึ่งแฟน ๆ จะหยิบขึ้นมา
แค่ลองดูซีเควนซ์สุดฮาที่ทัคเกอร์ใช้เลื่อยไฟฟ้าบนท่อนซุงแล้วชนกับรังผึ้ง เขาเริ่มเหวี่ยงเลื่อยยนต์เหมือนคนบ้า ala Leatherface และเรื่องตลกนี้ได้ผลจริง ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่สุดมันจะจบลงอย่างไรสำหรับวัยรุ่นคนหนึ่ง ซีเควนซ์ที่ยอดเยี่ยมอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวข้องกับเดลและทักเกอร์โดยคิดว่าวัยรุ่นเหล่านี้อยู่ในชมรมฆ่าตัวตายและคนเสื้อแดงสองคนได้ขัดจังหวะพวกเขา
อารมณ์ขันจำนวนมากเป็นแบบที่เหนือชั้นและในที่นี้มีลำดับการตายที่นองเลือดอยู่บ้าง การเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่สิ่งนี้นำไปสู่สิ่งสีแดงมากมายรวมถึงวิญญาณที่น่าสงสารคนหนึ่งที่วิ่งเข้าไปในเครื่องย่อยไม้ แฟน ๆ ของภาพยนตร์อย่าง DEAD ALIVE จะทราบถึงประเภทของอารมณ์ขันที่ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอแม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะต่ำกว่าที่ Peter Jackson คลาสสิกหลายเท่าก็ตาม
ทั้ง Labine และ Tudyk ต่างก็มีบทบาทที่ดีมาก ประเภทคอแดงทั้งหมดทำมาจนตาย แต่ฉันคิดว่านักแสดงสองคนจัดการส่วนของพวกเขาได้ค่อนข้างดีและจัดการให้พวกเขาได้ค่อนข้างใหม่ แคทรีนา โบว์เดน รับบทเป็นสาวมหาลัยคนหนึ่งที่ลงเอยด้วยคนหัวแดง และเธอก็ค่อนข้างดีด้วย มีปัญหาหลายประการกับภาพยนตร์เรื่องนี้รวมถึงเรื่องตลกหลายเรื่องที่อยู่บนใบหน้าของพวกเขา ปัญหาอีกประการหนึ่งคือแม้เพียง 88 นาที ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังดูยาวเกินไป จากที่กล่าวมา แฟน ๆ ของประเภทนี้ยังคงต้องการตรวจสอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแสดงที่แข็งแกร่ง อารมณ์ขันที่ป่วยและเลือด
ทัคเกอร์ แอนด์ เดล VS. EVIL เป็นหนังสยองขวัญแนวตลกที่มีส่วนหักมุม: อันที่จริงแล้วคนร้ายเป็นคนดี และในทางกลับกัน สิ่งที่เริ่มต้นจากการเป็นหนังสยองขวัญ ‘บ้านนอก’ แบบมาตรฐาน ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นที่พักผ่อนหย่อนใจพบว่าตัวเองอยู่ในความเมตตาของฆาตกรใจดำสองคนในป่าดงดิบ ในไม่ช้าก็กลายเป็นการล้อเลียนแนวสยองขวัญโดยรวม
จุดพลิกผันคือคนเสื้อแดงเป็นคนดี และการสังหารนองเลือดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งเป็นผลมาจากอุบัติเหตุและความโชคร้ายธรรมดาๆ สมมติฐานนี้ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีคุณค่าที่แปลกใหม่ แต่น่าเสียดายที่มันมุ่งเป้าไปที่ตัวหารร่วมที่ต่ำที่สุดเป็นส่วนใหญ่ และอารมณ์ขันก็ชัดเจนและคาดเดาได้
มันยุติธรรมที่จะบอกว่างานเขียนนั้นดีกว่าทิศทางที่นี่ เพราะมีอักขระบางตัวที่เขียนขึ้นท่ามกลางความโกลาหลและการทำลายล้างทั้งหมด การแสดงของ Tyler Labine และ Alan Tudyk นั้นเหมาะสมทั้งคู่ เนื่องจากพวกเขาสร้างการแสดงคู่ที่ดีซึ่งนำพาพวกเขาไปสู่ส่วนอื่นๆ ของภาพยนตร์ การตายเป็นเรื่องวิเศษมากและงบประมาณที่ต่ำก็ปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ แต่ถ้าคุณกำลังมองหาบางอย่างที่แตกต่างออกไป คุณอาจจะชอบสิ่งนี้
สรุปว่าชอบเลยครับ ใครชอบหนังสยองแบบขำๆ ล่ะก็ เรื่องนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด สนุกจริงอะไรจริ หนังเรื่องนี้สนุกมากๆ ครับผมเป็นหนังที่เฉลย plot เรื่องแต่ฮาได้ตลอด หนังที่มีแต่ความบังเอิญและการคิดไปเองที่หนังทำออกมาได้ดีมากๆ ได้ทั้งอารมณ์สยองและบ้า ถ้าใครชอบแนวสยองปนฮาแบบ Scary หรือหนังฆาตกรโหดๆ ฮาๆ อันนี้เลยครับสนุกมากจริง ไม่ไร้สาระด้วย หนังเรื่องนี้ยังสอนอีกว่าอย่ามองคนที่ภายนอก ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง
