รีวิว Hot Fuzz

เรามาดูหนังฝั่งประเทศอังกฤษกันบ้างนะคะ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เว็บ IMDB ให้คะแนนอยู่ที่ 7.8 ในเว็บมะเขือเน่า นักวิจารณ์ให้ 91 %  ถือว่าไม่น้อยนะคะ ชื่อเรื่องว่า Hot Fuzz  หนังเรื่องนี้นำแสดงโดยนักแสดงสัญชาติอังกฤษ ไซมอน เพกก์ (Simon Pegg)  ซึ่งเราจะคุ้นหน้าจากบทสกอตต์ มอนโกเมอรี่ต้นกลเรือยานยูเอสเอส เอนเทอร์ไพรซ์ ในเรื่องสตาร์เทรค ไงจำได้มั้ยคะ สำหรับในเรื่องนี้จัดอยู่ในประเภทหนังแอคชั่น คอเมดี้ ที่มีกลิ่นอายของทริลเลอร์สืบสวนเล็ก ๆ นักแสดงนำในเรื่องคือไซมอน เพกก์ รับบทเป็นตำรวจหนุ่มไฟแรงความสามารถล้นเหลือและเก่งโคตร ชื่อว่า นิโคลัส แองเจิล ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

หนังเรื่องที่สองในซีรีย์คอนเน็ตโต้ของผู้กำกับเอ็ดการ์ ไรท์ ขอบอกก่อนว่าเราชอบเรื่องแรกมากกว่าเรื่องนี้เลยให้ประมาณสี่ดาวครึ่ง ด้วยความที่เราไม่ค่อยชอบเนื้อเรื่องและเซตอัพของฉากเท่าไหร่ เรื่องเกี่ยวกับนายตำรวจสองคนที่ตามสืบเหตุการณ์ฆาตกรรมในเมืองแห่งหนึ่ง โดยมีการตายขึ้นอย่างประหลาดและเป็นปริศนาทำให้พวกเขาต้องตามล่าฆาตกรที่แท้จริงเพื่อนำพาความสงบสุขกลับมาสู่เมืองนี้อีกครั้ง

จ่านิโคลัส แองเจล (Simon Pegg) คือตำรวจที่เก่งและเจ๋งที่สุดในลอนดอน ผลงานปราบปรามอาชญากรรมของเขาทำให้เพื่อนร่วมงานดูจ๋อยกันเป็นแถวๆ ผลก็คือเขาถูกย้ายไปแซนด์ฟอร์ด เมืองบ้านนอกแสนสงบที่ดูเหมือนจะไม่เหมาะกับคนมีฝีมือเช่นเขา ที่นี่นิโคลาสต้องทำงานคู่กับแดนนี่ นายตำรวจสุดทึ่มผู้บ้าหนังแอ็คชั่นจนเข้าเส้นเลือด ซึ่งแดนนี่ฝังใจว่านิโคลาสจะต้องเป็นตำรวจแบดบอยพันธุ์ระห่ำจากเมืองใหญ่ที่จะทำให้เขาได้ตะลุยกับเหล่าร้าย ฝ่าระเบิดและห่ากระสุน การทำตัวเหมือนเด็กของแดนนี่สร้างความรำคาญให้กับนิโคลาสเป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งเกิดคดีสำคัญคดีหนึ่งที่ทำให้ทั้งคู่ต้องลุยนรกไปด้วยกัน ในที่สุดก็พบว่าพวกเขานี่แหละคือทีมที่เข้าขากันที่สุด

โดยส่วนตัวเราไม่ชอบโปรดักชั่นดีไซน์มาก เราไม่ถูกกับภาพแนวนี้ ภาพของหนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกเราในแบบหนังเกรดบีซึ่งไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ รวมถึงเนื้อเรื่องและการแสดงที่ไม่ถูกใจเราอย่างยิ่ง แต่พอมองโดยรวมแล้วหนังให้ความบันเทิงได้ดีอย่างมาก รวมถึงมุกตลกหรืออะไรหลายๆอย่างของเรื่องก็ทำให้เราชอบมากได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงรวมไว้ทั้งสิ่งที่เราชอบมากและไม่ชอบมาก

​ไซมอน เพกก์ และนิค ฟรอสต์พลิกบทบาทไปเลย ถึงจะอยู่ในหนังไตรภาคเดียวกันแต่ตัวละครมีนิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง จากเรื่องก่อนที่ตัวของไซมอนปวกเปียกดูไร้ความสามารถ มาเรื่องนี้บทจริงจัง จริงจังชิบในทุกสิ่ง5555 ซึ่งมันให้อิมเมจตัวละครตำรวจได้ดีนะ เพราะมันทำให้เราแบบติดตามไปกับตัวละคร

ฉากในเรื่องมีหลายฉากที่เราชอบมาก ตั้งแต่ต้นๆจนมาเรื่อยๆเรียกได้ว่าเราชอบมากๆเลยแหละ แต่ในช่วงเฉลยท้ายเรื่องเรารู้สึกว่าเห้อ ไปได้แค่นี้เองเหรอ แล้วเราไม่ถูกใจตอนเฉลยอย่างยิ่งทำให้รู้สึกเฉยไปกับหนังเรื่องนี้ไปเลย นิโคลัส แองเจล (Simon Pegg) สุดยอดนายตำรวจแห่งเมืองลอนดอน ผู้มุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน และขอบอกว่าพี่แกเอาอยู่ทุกคดี โดยมีอัตราการจับกุมผู้รายสูงกว่าตำรวจคนอื่นๆถึง 400%! จนเป็นที่หมั่นไส้ของเพื่อร่วมงานมากมาย เพราะความ “เก่งเกินไป” นั่นเอง เป็นผลให้นิโคลัสต้องกระเด็นไปเป็นจ่าที่แซนด์ฟอร์ด ซึ่งเป็นหมู่บ้านภูธรอันเงียบสงบติดอันดับเมืองน่าอยู่ตลอดกาลอีกต่างหาก และเป็นที่ที่เขามิอาจเเสดงพรสวรรค์ออกมาได้เลยเเม้เเต่น้อย… ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร

แต่ถึงกระนั้นเพชรก็ยังเป็นเพชรอยู่วันยังค่ำ ถึงแม้จะเป็นหมู่บ้านที่ปลอดอาชญากรรม แต่นิโคลัสก็เริ่มสงสัยในความไม่ชอบมาพากลของหมู่บ้านนี้ จึงได้ชักชวนนายตำรวจผู้เป็นดังภาพสะท้อนสิ่งที่ตรงกันข้ามกับตัวเองอย่าง แดนนี่ บัตเตอร์แมน

(Nick Frost) ให้ร่วมสืบหาความจริงในความสงบจอมปลอม ว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ Simon Pegg รับบท นิโคลัส แองเจล การันตีเลยว่าพี่แกสามารถนำได้ทุกบทจริงๆ ไม่ว่าจะบุ๋นหรือบู๊ทำได้ดีมากๆ ขอชื่นชมจริงๆ Nick Frost รับบท แดนนี่ บัตเตอร์แมน , นิค ทำได้ดีกับคาแรคเตอร์อันน่ารำคาญมากๆตัวนี้ เหมือนแสดงเป็นตัวเองป่าว5555แอบสงสัย ตัวละครอื่นๆก็ดีครับโดยเฉพาะชาวเมืองนี่ดูดีทุกคน ยกเว้นพวกแก๊งตำรวจที่ค่อนข้างจะน่ารำคาญซะมากกว่า
สิ่งที่ผมชอบคือการล่อหลอกคนดูให้สับสนไปพร้อมๆกับตัวนิโคลัสไปด้วย และทุกข้อสงสัยของนิโคลัสสงสัย ก็มักจะเหมือนกับที่คนดูกำลังเดาตัวคนร้ายอยู่อีกต่างหาก และหนังก็หักมุมซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่เกรงใจคนดูอย่างเราๆเลย ซึ่งนับว่าวางบทออกมาได้ยอดเยี่ยม และขอบอกว่าใครเดาตอนจบของเรื่องออกในครั้งแรกที่ดู ผมว่าคุณไม่ธรรมดาจริงๆนะ…

แต่ถึงกระนั้นในบทพูดบางตัวละครผมก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน โดยเฉพาะเหล่าแก๊งตำรวจในเมืองแซนด์ฟอร์ดที่บางทีมันก็น่ารำคาญเกินไปในความแถนะ ถ้าจะขี้เกียจกันขนาดนี้ลาออกกันเลยมั้ย!

หนังเรื่องนี้นำเสนอมุมมองต่อหนังคู่หูตำรวจของ Edgar Wright ซึ่งจะเห็นได้ว่าหนังมีฉากคารวะรุ่นพี่ในหลายๆเรื่อง อีกทั้งยังมีอารมณ์คอมเมดี้และแอ็คชั่นแบบจัดเต็ม ซึ่งต้องขอบอกว่าการดีไซด์ฉากต่อสู้ท้ายเรื่องทำออกมาได้สุดติ่งมากๆครับ
เเละด้วยความที่ตัวหนังใช้การไล่ระดับความพีคของเนื้อหาไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่แปลกที่จะทำให้ในช่วงแรกอาจจะเนือยๆนิดหน่อย และก็มีบางจังหวะในช่วงกลางเรื่องที่ดูเหมือนจะเริ่มเข้มข้นแล้ว ตัวหนังดันกลับมาเนือยๆอีกครั้ง ทำให้อารมณ์ขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย

รีวิว Hot Fuzz

ต่อไปนี้จะเป็นสตอรี่ไลน์ + สปอยนิด ๆ หน่อย ๆ นะคะ ในเรื่องนิโคลัสเป็นตำรวจนครบาลกรุงลอนดอนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของกรม ทำสถิติระงับสะสางอาชญากรรมในเมืองจนได้รับชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ด้วยผลงานทำให้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นจ่า แต่ด้วยความที่มีบุคลิกจริงจังขยันทำงานแต่ไร้มนุษยสัมพันธ์ ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

จึงทำให้เพื่อนร่วมงานไม่ชอบขี้หน้าแต่ฮีก็หาได้แคร์ค่ะ เมื่อได้เลื่อนตำแหน่งแทนที่จะมีเพื่อนร่วมดีใจด้วยดันทำให้เป็นที่อิจฉาของเพื่อนร่วมงานซ่ะงั้น  จึงทำให้โดยเด้งไปอยู่ในเมืองชนบทเล็ก ๆ ของ แซนฟอร์ด แต่หัวหน้างานให้เหตุผลว่าไปรับมอบงานที่ได้ตำแหน่งสำคัญขึ้น ณ ที่แห่งนี้เองคือที่เกิดเรื่องราวในเรื่องค่ะ มันคือเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งเมืองนี้เคยได้รับรางวัลเมืองน่าอยู่แห่งปี

นิโคลัสแองเมื่อย้ายมาอยู่ที่เมืองเล็ก ๆ แบบนี้ก็แสนจะหงุดหงิดอยู่แล้ว ยิ่งมาอยู่ในเมืองที่สงบสุขอย่างเวอร์ ทำให้เค้ายิ่งว่างงานยิ่งทำให้นิโคลัสเบื่อหนักเข้าไปอีก อีกทั้งต้องมาผจญกับตำรวจที่เป็นเพื่อนร่วมงานในโรงพักของเมืองที่แสนจะขี้เกียจก็เพราะเมืองมันสงบไงก็เลยทำให้ว่างงาน และตำรวจในเมืองนี้ก็ทำงานกันแบบเช้าชามเย็นชามไม่กระตือรือร้นทำให้ยิ่งไร้ความสามารถ วัน ๆ ไม่อยู่ร้านเหล้าก็เอาแต่มาโรงพักมาทำงานเพื่อรอเวลาเลิกงานเท่านั้น

ในเมืองนี้นิโคลัสที่มีบุคลิกไร้มนุษยสัมพันธ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งทำให้เป็นเหมือนคนประหลาดในสายตาเพื่อนร่วมงาน แต่ก็มีตำรวจเพื่อนในโรงพักคนหนึ่งชือบัตแมน เป็นลูกชายของสารวัตรโรงพักในเมืองนี้แหละ ตำรวจคนนี้ก็ได้กลายเป็นคู่หูกับนิโคลัส เค้าเคยได้ยินชื่อเสียงของนิโคลัสมาก่อนทำให้ชื่นชมในตัวนิโคลัสมาก เมื่อมีโอกาสก็เกาะติดหนึบไปไหนไปด้วยซึ่งทำให้นิโคลัสยิ่งหงุดหงิดไปอีก

อยู่มาวันหนึ่งเมืองสงบสุขแห่งนี้ได้เกิดคดีคนตายอย่างปริศนาขึ้นมา นิโคลัสเข้าไปดูในที่เกิดเหตุด้วยประสบการณ์ก็ฟันธงได้เลยว่านี้เป็นการฆาตกรรม แต่ยังไม่ทันได้ไขคดีก็เกิดเรื่องราวที่น่าสะพรึงตามมาอีกหลายครั้ง ทำให้การไขคดียิ่งดูเหมือนจะไม่มีความคืบหน้าขึ้นไปอีก ยังคงมีคนถูกทำร้าย มีคนตายเพิ่มขึ้น  เบาะแสต่าง ๆ ก็เลือนลางไม่ชัดเจน ปริศนามากมายชี้บ่งว่าคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นนั้นมีเงื่อนงำไม่ธรรมดา แถมนิโคลัสยังโดนลอบฆ่าแต่รอดมาได้

ในเมืองเล็ก ๆ ที่ได้รับรางวัลว่าเป็นเมืองน่าอยู่แห่งปีที่แสนจะสงบสุขไม่เคยมีเหตุการณ์ร้ายแรงมานานมากแล้ว แต่เมื่อนิโคลัสย้ายมาประจำในเมืองแห่งนี้ก็เกิดคดีร้ายแรงตามมาไม่หยุด เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใครเป็นคนบงการใครอยู่เบื้องหลัง นายตำรวจฝีมือดีและมีชื่อเสียงจากลอนดอนจะสามารถไขคดีและลากอาชญากรผู้กระทำผิดออกมาได้หรือไม่

 

รีวิว Hot Fuzz

 

หนังเรื่องนี้มีครบทุกรสชาติไม่ว่าจะเป็นลุ้นระทึก ความมันส์บู๊แอคชั่นแบบล้างผลาญสะใจคนดู แถมยังมีเรื่องของการสืบสวนสอบสวนที่มีการหักมุมแม้ไม่ถึงกับเงิบแต่ทำเอาเราเฮ้ยจริงดิไปอยู่เหมือนกัน   ในเรื่องของจังหวะการนำเสนอจะมีเรื่องราวฉากบู๊แอคชั่นผสมกับฉากสืบสวน+จังหวะการปล่อยมุขตลกที่มันสมูทลื่นไหลมาก การดำเนินเรื่องค่อย ๆ ไต่ระดับอารมณ์คนดูจากหนังตลกไปเป็นหนังสืบสวนจนถึงหนังแอคชั่นบู๊ล้างผลาญ

ซึ่งหนังทำออกมาได้ดีจริง ๆ ส่วนในเรื่องมุขตลกมีรูปแบบการปล่อยมุขที่ต้องนึกก่อนสองถึงสามแก๊กถึงจะเก็ตซึ่งมุขตลกแบบนี้เป็นมุขเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์แบบอังกฤษสไตล์นั้นแหละค่ะครั้งแรกที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหนังตลกร้ายเรื่องหนึ่งแต่ไม่ใช่เลยค่ะเรื่องนี้เป็นหนังที่มีความพอดีในบทตลกที่เราดูแล้วสามารถฮาก๊ากไปกับหนังโดยที่ไม่ต้องมานั่งฮาแบบอึน ๆ งง ๆ จะตลกดีหรือจะหดหู่ดีเหมือนพวกหนังตลกร้ายทั่วไปเพราะปิดจบหนังด้วยความอบอุ่นและมิตรภาพซึ่งมันดีต่อใจคนดูในช่วงเครียด ๆ แบบนี้เนอะ  คะแนนเต็ม 8.5/10  เป็นอีกเรื่องที่แนะนำเลยนะคะเรื่องนี้

ความรู้สึกหลังดู

เมื่อ HOT FUZZ ออกมา ฉันได้ยินคำวิจารณ์ที่ไม่ค่อยดีนักและคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้คุณภาพเท่ากับ SHAUN OF THE DEAD (ซึ่งแสดงโดยนักแสดงและผู้กำกับคนเดียวกัน) การลดลงหลังจากบล็อกบัสเตอร์ไม่ใช่เรื่องแปลก (แค่ถามนักร้อง Cris Cross หรือกลุ่มบอสตัน) และฉันก็ถือว่านี่เป็นกรณีอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ฉันคิดผิดมาก HOT FUZZ ไม่เพียงเป็นภาพยนตร์ที่ดีมากเท่านั้น แต่ฉันชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากกว่า SHAUN OF THE DEAD เพราะมันทำให้ฉันหัวเราะได้มากขึ้น และฉันก็ชอบหนังที่ชาญฉลาดนี้อย่างทั่วถึง ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

ไม่เหมือนกับหนังหลายๆ เรื่อง จริงๆ แล้วฉันชอบเรื่องราวเบื้องหลังตอนที่หนังเริ่มอย่างน้อยพอๆ กับเรื่องที่เหลือของหนัง การได้เห็นว่าตำรวจหัวร้อนคนนี้ถูกลงโทษเพราะงานตำรวจที่เฉียบแหลมของเขาอย่างไร จึงเป็นคำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับระบบราชการ ฉันยังสนุกกับการเห็น Sgt. แองเจิลเริ่มลงมือทำเมื่อมาถึงเมืองเล็กๆ เพื่อทำงานใหม่ที่ได้รับมอบหมาย ฉันเดาจากการโปรโมตว่าแองเจิลเป็นคนงี่เง่าที่กระตือรือร้นเกินไป แต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นเขาเป็นเพียงตำรวจที่ยอดเยี่ยมที่อาศัยอยู่ในโลกของคนงี่เง่า! การเทียบเคียงนี้มักจะเป็นเรื่องตลกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาทำการจับกุมเมื่อเมาแล้วขับเป็นครั้งแรก

สำหรับส่วนที่เหลือของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ยังค่อนข้างสนุก แม้ว่าสำหรับฉันในช่วงสามสิบนาทีที่แล้วจะผิดหวังเล็กน้อย ตอนนี้คนส่วนใหญ่อาจจะชอบฉากแอ็กชันที่เหนือชั้นและมันเป็นเรื่องล้อเลียนที่น่ารักในภาพยนตร์เรื่อง “บัดดี้ตำรวจ” แต่ฉันคิดว่าฉันสนุกกับช่วงเวลาที่งี่เง่าและเงียบกว่าในภาพยนตร์มากกว่านี้อีกหน่อย ฉากเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีเสน่ห์เหล่านี้ทำให้ฉันนึกถึงเมืองมากมายจากซีรีส์ BBC ที่ยอดเยี่ยมเรื่อง “The Vicar of Dibley”

ข้อเสียอย่างเดียวที่ฉันจะสังเกตได้คือสไตล์ภาพยนตร์และความรุนแรง เท่าที่สไตล์ดำเนินไป บางครั้งการแก้ไขที่ขาดๆ หายๆ และ “สุดฮิป” ก็ดูเหมือนจะเกินความจำเป็น หลายคนอาจชอบ – ฉันคิดว่ามันแค่พยายามมากเกินไปไปหน่อย ส่วนความรุนแรงนั้น ผู้ใหญ่ก็ใช้ได้ แต่เนื่องจากฉันเป็นครูในโรงเรียน ฉันกังวลเล็กน้อยที่ได้ยินว่ามีเด็กเล็กๆ หลายคนไปดูมัน สำหรับวัยรุ่นที่มีอายุมากกว่า มันเป็นหนังที่ดี แต่สำหรับเด็กอายุ 10 หรือ 12 ขวบที่ดูหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่น่าเศร้า พ่อแม่อยู่ไหน แล้วทำไมไม่ฝึกสามัญสำนึกสักหน่อย! นี่เป็นภาพยนตร์เรท R เพราะมันรุนแรงมาก ไม่ใช่แบบที่เด็ก ๆ ควรดู

ฉันสามารถพูดได้มากกว่านี้อีกมาก แต่บอกตรงๆ ว่ามีบทวิจารณ์ถึง 12,305,308,028 รายการสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ และเนื่องจากฉันไม่ต้องการที่จะเปิดเผยสปอยล์ใดๆ ฉันจะสรุปมันให้จบ โดยรวมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้มีจินตนาการสูง สนุก เขียนได้ดีมาก และมีส่วนร่วม แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ดึงดูดผู้ที่เกลียดชังภาพยนตร์แอ็กชัน (และจริงๆ แล้วฉันไม่ใช่คนที่ชอบหนังแนวนี้) แต่คนอื่นๆ ส่วนใหญ่จะสนุกกับการดูมัน นอกจากนี้ หากคุณรับชม โปรดสังเกตการตัดต่อและตัวเลือกเพลงที่ยอดเยี่ยมตลอดทั้งเรื่อง

พวกนักวิจารณ์ทีวีและหนังสือพิมพ์คิดอะไรอยู่? นี่เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่ง!

 

รีวิว Hot Fuzz

 

ฉันจะยอมรับกับคุณว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นอย่างช้าๆ และตอนจบก็เหนือกว่ามาก บวกกับการฆาตกรรมที่โหดเหี้ยมอย่างไร้ยางอาย แต่ Hot Fuzz เป็นหนังตลกที่สนุกสนาน แปลกใหม่ และท้าทายอย่างมหาศาล มันสนุกอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นจนจบ และทั้งหมดนี้ได้รับความช่วยเหลือจากบทภาพยนตร์ที่สังเกตได้อย่างชัดเจน ถัดจากจังหวะการ์ตูนที่ไร้ที่ติและการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Simon Pegg ที่รับบทเป็นตำรวจที่กระตือรือร้น

นักแสดงสมทบทำได้ยอดเยี่ยมพอๆ กับนิค ฟรอสต์ที่เป็นคนโดดเด่น และจิม บรอดเบนท์ก็ยอดเยี่ยมเช่นเคย แพดดี้ โคซิดีนและราฟ สปอลล์เฮฮาเหมือนแอนดี้ทั้งสอง และทิโมธี ดาลตันคือเซอร์ไพรส์ที่น่ายินดีในฐานะไซม่อน สกินเนอร์ และขโมยทุกฉากที่เขาอยู่

การทำงานของกล้องนั้นมืดมนและครุ่นคิดมาก และมีการแสดงความเคารพอย่างชาญฉลาดสำหรับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ในประเภทเดียวกัน กว่าสองชั่วโมงเล็กน้อย หนังอาจจะยาวไปหน่อย แต่หนังก็ดำเนินไปอย่างไม่หยุดยั้ง ดังนั้นมันจึงไม่สำคัญ เนื้อเรื่องค่อนข้างแปลกใหม่และกล้าหาญ เกี่ยวกับ Nick Angel ที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่ง Sandford ทิศทางของ Edgar Wright นั้นแข็งแกร่งตลอดและมีสไตล์ที่ผิดปรกติอย่างเหมาะสม โดยรวมแล้วเป็นหนังที่น่ารัก กล้าหาญ และสนุกสนานมาก 8.5/10 เบธานี ค็อกซ์

สรุปแล้วเรื่องนี้สนุก ตลก เผลอๆหลายคนน่าจะชอบมากกว่า Shaun of the Dead อีก เราก็อยากให้หลายคนได้ดูหนังของเอ็ดการ์ ไรท์กัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เล่นในสหรัฐอเมริกามากนัก และฉันถือว่าตัวเองโชคดีที่ฉันอยู่ใกล้ชายแดนแคนาดาพอที่จะรับอัญมณีเหล่านี้ออกอากาศจาก CBC เป็นครั้งคราว โชคดีที่ CBC เป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจเคเบิลของฉัน อยากให้ลองได้ไปดูกันค่ะ ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง