รีวิว The Hangover 3

เอาเป็นว่า นี่ก็ถือว่าเป็นภาคสุดท้ายปิดตำนาน The Hangover แล้วนะครับ เท่าที่ดูสองภาคแรกมา ก็พอจะจับใจความได้ว่าที่เมาเละจนไม่ได้สติกเพราะว่ามันมีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากเหล้า นั่นก็คือยาอีนั่นเอง และภาคนี้ก็ทำเซอร์ไพรส์ผมด้วยการดำเนินเรื่องโดยไม่เกี่ยวข้องกับความเมาเลย ดูได้ที่ ดูหนัง

 

ZACH GALIFIANAKIS as Alan in Warner Bros. Pictures’ and Legendary Pictures’ comedy “THE HANGOVER PART III,” a Warner Bros. Pictures release.

การกลับมาของเหล่า เดอะวูฟแพค ที่หลังจากภาคที่แล้วมาป่วนกรุงเทพซะอ่วม ภาคนี้เลยกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของเรื่องคือลาสเวกัสอีกครั้งหนึ่ง… หนังเปิดเรื่องที่เรือนจำคลองเปรม กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเหมือนน้ำพริกถ้วยเก่า

แต่เป็นถ้วยเก่าที่เหมือนจะจืดชืดลงไป ไม่แซ่บ เผ็ดร้อนและถึงใจกว่าเดิมเท่าไหร่นัก การกลับมาปิดท้ายเรื่องราวเเสบสันก็ทำได้ไม่ถึงใจเท่าที่ควร การดำเนินเรื่องไปๆ มาๆ เหมือนอยากจะใส่อะไรก็ใส่ได้ตามใจชอบ ทำให้อรรถรสในการชมมันด้อยลงไป

อย่างที่บอกว่าของเก่าเมื่อนำกลับมาทำเรื่อยๆ ซ้ำๆ มันย่อมหมดมุข หมดรสชาติ ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้หยุดลงที่ภาค 3 เพราะถ้ามีภาค 4 5 6 รสชาติความสดใหม่ของหนังเรื่องนี้ จะลดทอนลงไปอย่างมาก

ตัวหนังไม่ได้ถึงกับแย่ ไม่ได้หมดมุข และไม่ได้ตามหหาเพื่อนที่หายตัวไป แต่กลับตามหาคนเพื่อมาช่วยเหลือเพือนมากว่า อีกอย่างหนึ่ง ภาคนี้น่าจะไม่ควรใช้คำว่า Hangover เลย เพราะเรื่องนี้ไม่มีการเมา มีต่การตามหาเท่านั้นเอง

แต่จอมขโมยซีนและทำให้หนังสนุกขึ้นมาทันตา นั้นก็คือ Melissa McCarthy สาวร่างอ้วนอ๋วบอั๋น ที่เคยสร้างความประทับจิตจาก Bridesmaids สมแล้วที่เคยเข้าชิงนักกแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ ซึ่งออกมาไม่กี่ฉาก ก็ทำให้มีสีสันและประทับใจได้ไม่ยาก

The Hangover Part 3 คือน้ำพริกถ้วยเก่าที่เอามาทำใหม่ ที่หมดรสชาติและความสดใหม่ แต่คงไว้ซึ่งความห่ามและบ้าบิ่น ตามคอนเสปของหนังครับ

หนังเล่าถึงหนึ่งในสมาชิกแก๊งค์เมาปลิ้น ซึ่งคราวนี้เพราะเขาถูกมาเฟียจับตัวไปเป็นตัวประกัน เพื่อบีบบังคับให้ทั้ง 3 คนคือฟิล (Bradley Cooper) สตู(Ed Helms)และอลัน(Zach Galifianakis) ไปทำภารกิจบางอย่างเพื่อแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของดัค นำมาซึ่งเหตุการณ์วายป่วงปนหายนะซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์หรือของมึนเมาใด ๆ ทั้งสิ้น

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ คือภาพยนตร์ภาคที่สามของตระกูลหนังเมาปลิ้น และแฮงค์โอเวอร์ซึ่งในภาคนี้หนังได้รับคำวิจารณ์ในเชิงลบค่อนข้างสูง เนื่องจากมีการดำเนินเรื่องและการกัดจิกมีความแดกดันเพศที่สาม คนผิวสีและคนเอเชีย ใครเป็นแฟนคลับของแฮงค์โอเวอร์ภาคก่อนหน้านี้ ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร

 

ZACH GALIFIANAKIS as Alan in Warner Bros. Pictures’ and Legendary Pictures’ comedy “THE HANGOVER PART III,” a Warner Bros. Pictures release.

 

หรือเคยชมภาพยนตร์เรื่องนี้มาก่อนในสองภาคแรกก็จะรู้สึกได้เลยว่า นี่มันไม่ใช่แห่งโอเวอร์จริง ๆ เพราะฉะนั้นภาพจำของคนที่ชื่นชอบแฮงค์โอเวอร์ในสองภาคก่อนอาจจะต้องรู้สึกว่าผิดหวัง เพราะบอกได้เพียงคำเดียวว่ามันไม่ใช่ พล็อตเรื่องของแฮงค์โอเวอร์คือมันต้องกินเหล้าเมาจนไม่สามารถทำอะไรได้เมื่อตื่นขึ้นมาสิ

อาจจะเป็นการนำเสนอแบบใหม่ ๆ โดยที่ผลลัพธ์ในภาค1 2 และ 3 เหมือนกันก็คือความวายป่วง เพียงแต่สองภาคแรกสาเหตุอาจจะมาจากสุราแต่ภาคนี้จะไม่เกี่ยวกับการกินเหล้าอีกต่อไป

ถึงแม้ว่านี่จะเป็นจุดประสงค์ในการนำเสนอแบบใหม่จริง ๆ แต่มันก็ยังไม่ตอบโจทย์อยู่ดีครับ ที่จริงอาจจะหามุขใหม่ในการไปหาที่กินเหล้าแล้วทำเนื้อเรื่องให้เหมือนกับสองภาคแรกก็ได้ แต่หนังกลับฉีกแนวไปขนาดนี้ก็เลยทำให้หลายคนค่อนข้างผิดหวัง

และเมื่อไม่มีการเมาเกิดขึ้นตามพล็อตเรื่องทำให้หนังกลายเป็นAction Thirller คือต่อสู้และสืบสวนสอบสวนปนตลกเข้ามาด้วย ประเด็นของการเล่าเรื่องนั้น ไม่มีช่องว่างของคำว่าความจำสูญหายในระหว่างความเมาเหมือน 2 ภาคแรก

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ให้เป็นสีสันแห่งเช่นความซ่าและความแสบของพวกเขาเลยเบาบางลงไปพอสมคว รและด้วยเหตุนี้ผู้กำกับก็ได้พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงและทดแทนด้วยสิ่งใหม่นั้นคือการต่อสู้และหักเหลี่ยมกันระหว่างสามหนุ่มแล้วมาเฟีย แต่ไม่ว่าดูอย่างไรก็ค่อนข้างออกทะเล

คะแนนเนื้อเรื่อง 7/10 ความตั้งใจในการดูภาพยนตร์เรื่องนี้คือความวายป่วงและพฤติกรรมในช่วงที่พวกเขากำลังเมาไม่ได้สติ แต่หนังพยายามนำเสนอความวายป่วงที่อาจจะเกิดขึ้นได้แม้ว่าจะไม่ต้องดื่มสุราก็ตาม แต่สิ่งที่ลดน้อยลงไปคือความแสบซ่าของพวกนักแสดงนำก็เลยรู้สึกผิดหวังกับพักนี้นิดหน่อย

รีวิว The Hangover 3

จริงๆเราต้องกราบขอบคุณท็อด ฟิลลิป ผู้กำกับของเรื่องนะครับ ที่ยกภาพลักษณ์คุกคลองเปรม ณ สยามประเทศ ในฉากเปิดเรื่องให้คนทั้งโลกอุปโลกน์กันไปได้ไหนต่อไหนว่า เรือนจำบ้านเราโอ๋อ๋าและสะอาดแค่ไหน ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

ไหนจะระบบท่อระบายน้ำที่ใหญ่ แบบที่ท่านผู้ว่าคุณชาย กทม.เคยลั่นไว้เป็นแม่นมั่นว่าอุโมงค์ระบายน้ำจะก่อสร้างสำเร็จจริงๆ แถมระบบระบายน้ำก็มีการจัดสรรทิศทางได้เยี่ยมยอดเสียเหลือเกิน เพราะคุกคลองเปรมที่มีท่อระบายน้ำนั้น มีทางออกไปสู่ทะเลอันดามัน!!!!!

นั่นเป็นแค่ฉากเปิดเรื่องที่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเราดูดีเกินจริงไปหลายขุมจริงๆ แต่เอ๊ะเดี๋ยวก่อน อีตาผู้กำกับมันทำรีเสิร์ชอะไรผิดหรือเปล่าว่า จริงๆคุกกลางทะเลนั่นน่าจะชื่อเกาะตะรุเตาที่เลิกใช้ไปนานแล้วเหมือนเกาะอัลคาทราซบ้านแกนั่นแหละ

หลังจากที่หนังภาคแรกทำไว้ดีมาก จนหนังภาคสองเดินตามความสำเร็จแบบทุกกระเบียดนิ้ว มาภาคนี้หนังเลยเลือกจะฉีกรูปรอยไปบ้าง แต่ทุกอย่างก็ยังมีเส้นเรื่องในการทวงคืน “เพื่อนรัก” แบบเดิม ซึ่งเอาเข้าจริงๆมันก็เล่าเรื่องไปได้เรื่อยๆ

ยังตลกบ้างแป๊กบ้าง ส่วนตัวขโมยซีนจริงๆก็คืออลัน (แซค กาลิฟานาคิส) และมิสเตอร์เชา(เคน จียุง) แม้มันจะเป็นตัวละครที่เน้นความ “เยอะ” เข้าไว้ก่อน แต่รวมแล้วเราว่าหลายมุกที่มาจากสองตัวละครนี้ยังเรียกเสียงฮาได้ไม่เลว บางฉากอาจจะออกแนวโง่ ทึ่ม ไม่เม็คเซนส์ไปบ้าง แต่เอาจริงๆ เราว่าไอ้ตอนที่คนเราแตกตื่นมันคงจะคุมสติกันไม่ค่อยอยู่จริงๆกระมัง

มีส่วนหนึ่งที่ค่อนข้างประทับใจมากคือภาคนี้มันนำเสนอความรักของคนที่รูปลักษณ์ไม่เอาถ่านและดูโลว์ในสายตาคนกระแสหลักพอสมควร ปกติเรามักจะอยากเห็นตัวละครหนุ่มหล่อสาวสวยครองรักกันในตอนท้าย

แต่ในขณะที่ Hangover เลือกจะพูดถึงความรักของคนที่คลิ๊กกันเพราะความ “ต่ำตม” บางอย่างที่พวกเขาจูนกันติด ซึ่งหาได้ยากยิ่งนักในตลาดวัฒนธรรมป๊อปที่ทุกคนเลือกจะเป็นคนหน้าตาดี แต่ “บล๊อก” เดียวกันหมด

ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้
แม้จะไม่ต้องกินเหล้าก็สามารถเจอเหตุการณ์วุ่นวายได้ เหมือนในเรื่องที่มีหนึ่งในแก๊งค์โดนมาเฟสจับตัวไป เลยทำให้อีกสามคนต้องไปทำภารกิจและมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาถนัด ความเพี้ยนความบ้าของพวกเขาจึงถูกนำมาใช้ทดแทนจากภาคที่แล้ว

ความพยายามในการหาจุดยืนของอลัน แน่นอนว่าเค้าเป็นเพียงคนเดียวที่ยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝาเหมือนกับเพื่อนคนอื่น ๆ ที่แต่งงานและมีอาชีพมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบแล้ว ซึ่งถ้าใครได้เคยดูภาพเก่า ๆ

ก็จะรู้ว่าเขานี่แหละคือคนที่แสบสันต์และเป็นตัวประหลาดมากที่สุด เพราะภาคนี้เพื่อนเพื่อนของเขาเป็นฝั่งเป็นฝากันหมดแล้ว ก็เลยเหลือแต่เขาได้เคว้งคว้างอยู่คนเดียว และสิ่งที่เขาทำคือพยายามที่จะหาจุดยืนของตัวเองให้ได้ นำไปสู่ความคิดและแนวทางใหม่ ๆ

ความรู้สึกหลังดู

เมาค้างตอนที่ 3 (2013) 1/2 (จาก 4) ผู้ชาย ถ้าคุณคิดว่าสิ่งต่าง ๆ จะไม่เลวร้ายไปกว่า THE HANGOVER PART II น่าเสียดายที่คุณคิดผิด The Wolf Pack กลับมาแล้ว และคราวนี้พวกอันธพาล (John Goodman) ไล่ตามพวกเขาเพราะนาย Chow (Ken Jeong) ขโมยทองคำไปสี่สิบสองล้าน ฉันจะไม่เสียเวลาเขียนทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่เกี่ยวกับพล็อตเรื่องไซแนปส์เพราะเหตุใดฉันจึงควร ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

(L-r) ED HELMS as Stu, HEATHER GRAHAM as Jade, ZACH GALIFIANAKIS as Alan and BRADLEY COOPER as Phil in Warner Bros. Pictures’ and Legendary Pictures’ comedy “THE HANGOVER PART III,” a Warner Bros. Pictures release.

เห็นได้ชัดว่าผู้กำกับและนักเขียนทอดด์ ฟิลลิปส์ พร้อมด้วยดาราดัง แบรดลีย์ คูเปอร์, เอ็ด เฮล์มส์ และแซค กาลิเฟียนาคิส ทำสิ่งนี้เพื่อเงินหรือพวกเขามีสัญญาบางอย่างที่ทำให้พวกเขาต้องทำอย่างนั้น ขณะดูสิ่งนี้ก็ค่อนข้างเศร้าเพราะไม่มีเสียงหัวเราะใดๆ แต่ที่แย่กว่านั้นคือ ดูเหมือนว่ากลุ่มไม่พยายามจะตลก นี่เป็นคอเมดี้ที่ขี้เกียจที่สุดเรื่องหนึ่งที่ฉันเคยเห็นอย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะทีมผู้สร้างไม่แม้แต่จะลองหัวเราะ และสิ่งที่หัวเราะนั้นมักจะเป็นเพียงการขยิบตาให้กับภาพแรก เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากที่ได้เห็นซีรีส์นี้ล่มสลายหลังจากภาพยนตร์เรื่องแรกที่ฉลาด แต่คำโบราณที่ว่าภาคต่อมักจะจบลงได้ไม่ดีนั้นเป็นความจริงอย่างแน่นอน Cooper, Helms และ Galifianakis เหมาะกับบทบาทของพวกเขาได้ดี แต่ที่นี่ไม่มีพลังงานเหลือเฟือ

บางทีถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าบทภาพยนตร์ไม่สดใส จองเก่งในขนาดที่เล็ก แต่การใส่เขาเข้าไปมากในเรื่องนี้ทำให้ตัวละครของเขาน่ารำคาญ Goodman ทำได้ดีในส่วนของเขา

แต่น่าเศร้าที่เขาไม่ได้รับมอบหมายให้ทำมากนัก ซึ่งก็เช่นเดียวกันสำหรับ Mike Epps และ Heather Graham THE HANGOVER PART III อ้างว่าเป็นตอนจบในซีรีส์มหากาพย์ของภาพยนตร์และขออธิษฐานให้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ หนังแย่ๆ ก็เกิดขึ้นได้บางครั้งแม้ว่าทุกคนจะมีใจจดจ่อกับโปรเจ็กต์ก็ตาม ไม่มีหลักฐานว่ามีคนสนใจอย่างอื่นนอกจากเงิน

ส่วนที่สองพิสูจน์แล้วว่าผู้คนจะปรากฏตัวไม่ว่าจะแย่แค่ไหน และทีมผู้สร้างก็ขี้เกียจมากขึ้นด้วยการนำเสนอสิ่งที่แย่กว่านั้น

Zach Galifianakis ตอนนี้น่ารำคาญสุดๆ เมื่อสิ่งนี้เริ่มต้น เรากำลังหัวเราะเยาะเขา แต่ตอนนี้เขาเหนื่อย พวกเขาจำเป็นต้องลดระดับการแสดงตลกของเขาจากคนใจร้ายให้เป็นแค่ความโง่เขลาธรรมดาๆ ฉันรู้ว่าท็อดด์ ฟิลลิปส์กำลังเก็บมันไว้เพื่อให้อลันเติบโตในหนังเรื่องนี้ แต่มันก็เริ่มที่จะสายเกินไป ดูเหมือนว่า Bradley Cooper และ Ed Helms จะเคลื่อนไหว เราคิดถึงการสักใบหน้า

 

รีวิว The Hangover 3
ZACH GALIFIANAKIS as Alan in Warner Bros. Pictures’ and Legendary Pictures’ comedy “THE HANGOVER PART III,” a Warner Bros. Pictures release.

พวกเขาจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อแทนที่มัน เคนจองกำลังทำอะไรที่จริงจัง สองคนแรกเขาเป็นคนเลวที่น่ารัก ตั้งแต่วินาทีแรกที่เป็นชายเปลือยในรถบรรทุก เราคิดว่าเขาไม่สามารถทำอะไรเสียหายได้มากนัก

แต่ในนี้เขาสร้างความเสียหายให้กับกลุ่มอย่างแท้จริง John Goodman กำลังสร้างตัวละครใหม่ Marshall เขาเป็นคนเลวคนใหม่ที่ต้องการจับนายโจวที่ขโมยทองของเขา ดังนั้นเขาจึงลักพาตัวดั๊กเพื่อบังคับให้กลุ่มจับนายโจวแทนเขา มันค่อนข้างจริงจังและไม่ตลกเลย เป็นเรื่องดีที่ในที่สุดอลันก็เติบโตขึ้น และจัดการกับมิสเตอร์เชา

เป็นเรื่องตลก เมื่อ Hangover 2 ออกมา ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์มัน เพราะมันเหมือนๆ กันมากกว่า โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นการรีเมคของภาค 1 แม้ว่าฉันจะยังสงสัยว่าทำไม “สิ่งเลวร้ายมาก”

จึงไม่ทำธุรกิจมากเท่ากับภาพยนตร์เหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาลองทำอะไรที่แตกต่างออกไป และผู้คนต่างก็โกรธแค้น เพราะมันไม่ใช่การรีแฮชของภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ จริงๆแล้วมันพยายามที่จะบอกเล่าเรื่องราว ไม่ต้องกังวลว่ายังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้หนังรู้สึกเหมือนเมาค้าง

เช่นเดียวกับ “แพ็ค” ของเราที่พยายามค้นหา/ค้นหาบางสิ่ง ตัวละครที่ถูกลืมก็มีชะตากรรมที่คล้ายคลึงกันแต่มีความบิดเบี้ยว และอย่าคิดว่าไม่มีอาการเมาค้างก็จะไม่เมาค้าง! คุณจะได้สิ่งนั้นในตอนท้ายของหนัง ดังนั้นในขณะที่ผู้คนร้องไห้ จริงๆ แล้วสิ่งนี้ดีกว่าครั้งที่สอง ฉันหวังว่า “Hangover 3” จะเป็นการรีเมค 1 และ 2 เมื่ออลัน (แซค กาลิเฟียนาคิส)

พูดว่า “ฉันจะไม่มีวันเปลี่ยน” ใครที่บ่นว่า “เมาค้าง2” เยอะเหมือนเดิม…ขอระวังอะไร ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องแรกเพื่อพล็อตเรื่องและอารมณ์ขัน สามคนของเราต้องจับ Leslie Chow (Ken Jeong)

รีวิว The Hangover 3
(L-r) ED HELMS as Stu, BRADLEY COOPER as Phil and ZACH GALIFIANAKIS as Alan in Warner Bros. Pictures’ and Legendary Pictures’ comedy “THE HANGOVER PART III,” a Warner Bros. Pictures release.

ไม่เช่นนั้น Doug (Justin Bartha) จะถูกฆ่าโดยหัวหน้าอาชญากร Marshall (John Goodman) Goodman ฟื้นสายกระโถนที่โด่งดังของเขาจากฉาก “Branded” ของ “The Big Lebowski”

ซึ่งอาจไม่มีใครสังเกตเห็นในบรรดา F-bombs 100 ตัวที่ทิ้งในภาพยนตร์ พล็อตเรื่องน่าเบื่อเมื่อเทียบกับอีกสองคุณสมบัติ ภาพยนตร์เรื่องนี้อาศัยการนำเสนอมุกตลกยอดนิยมจากแซค กาลิเฟียนาคิส ซึ่งรวมเอาอารมณ์ขันมืดมนที่แปลกประหลาด

หากปราศจากสิ่งนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะพังทลาย ใช้เนื้อเพลงร็อคคลาสสิกในภาพยนตร์ได้ดี คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง: F-bombs ที่มากเกินไป ไม่มีเซ็กส์ ภาพเปลือยสั้นๆ

ภาพยนตร์ภาคสุดท้ายในชุดแฮงค์โอเวอร์ ซึ่งมีเนื้อหาในการนำเสนอที่ค่อนข้างแปลกและแตกต่างไปจากสองภาคแรก ทำให้รู้สึกเสียอรรถรสพอสมควร เพราะสิ่งที่เป็นจุดประสงค์ในการชมภาพยนตร์เรื่องนี้จริง ๆ คือการดูความวายป่วงจากความเมาของพวกเขาทั้งสาม ถือว่าดูจบแล้วก็ผ่านไปครับ ไม่ดูซ้ำต่อ ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง