รีวิว JUMANJI

ในอีกหนึ่งส่วนของ หนังที่ต้องฉวยโอกาสน้ำขึ้นให้รีบตักของจริง เพราะผู้สร้างเองก็ไม่น่าจะคาดคิดว่าหนัง Jumanji: Welcome to the Jungle (2017) ที่สานต่อจากหนังแฟนตาซีปี 1995 Jumanji จะสามารถฮิตได้ระเบิดระเบ้อเพียงนี้ รายได้ทั่วโลก 962 ล้านเหรียญ อีกนิดเดียวจะแตะพันล้านเหรียญแล้วเชียว หนังภาคต่อก็เลยถูกเข็นตามหลังออกมาภายใน 2 ปีดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

หนังเพิ่งเปิดกล้องเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เอ๊ง แล้วก็ปิดกล้องเมื่อพฤษภาคม จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนหลังการถ่ายทำแบบเร่งด่วนเพื่อให้ทันออกฉายธันวาคมนี้ บ้านเราฉายชนกับ Star Wars : Rise of the Jedi แต่ที่อเมริกาได้ฉายก่อนสัปดาห์นึง ก่อนที่สตาร์วอร์สจะมาแชร์โรงฉาย

แล้ว ภาคนี้ได้ทีมงานเดิมกลับมากันพร้อมหน้าทั้งหน้ากล้องและหลังกล้อง มีเพิ่มเติมหน่อยก็ที่ เจค คาสดาน ผู้กำกับลงไปร่วมเขียนบทเองด้วยในภาคนี้ ทีมงานน่าจะสนุกกับการเลือกหยิบจุดเด่นที่คนดูชอบจากภาคแรกมาใส่ในภาคนี้ได้ครบถ้วน ทั้งเรื่องความสามารถพิเศษ และจุดอ่อนของแต่ละคาแรกเตอร์ในเกม และมีการอ้างอิงถึงเหตุการณ์เด่น ๆ

ในภาคก่อนอยู่บ่อยครั้ง บางมุกก็อิงจากเหตุการณ์ในภาคที่แล้วอีกด้วย ถ้าใครไม่เคยดูภาคที่แล้วความสนุกจะหายไปเยอะเชียวล่ะ และอีกหลาย ๆ สีสันที่เพิ่มเติมเข้ามาในภาคนี้ ทั้งตัวละครใหม่ ๆ ฉากใหม่ ๆ ที่ภาคนี้ไม่อยู่ในป่าแล้ว แต่พาไปตะลุยทะเลทราย และพาไปปีนภูเขาหิมะ

ทำให้หนังต้องเพิ่มงบประมาณมาใช้ในงานซีจีอีกมาก โดยเฉพาะฉากฝูงลิงโจมตี และฉากนกกระจอกเทศวิ่งไล่ ซึ่งทั้งสองฉากเป็นฉากที่สนุกตื่นเต้นของภาคนี้เลยล่ะ ทำให้งบประมาณของภาคนี้โดดไปเป็น 125 ล้านเหรียญ ภาคที่แล้ว 90 ล้านเหรียญ

รีวิว JUMANJI

 

ซึ่ง สองรายหลักที่ถูกเพิ่มเข้ามาแล้วถูกใช้เป็นองค์ประกอบหลักในภาคนี้คือ แดนนี เดอวิโต และ แดนนี โกลเวอร์ สองนักแสดงอาวุโสจากยุค 80s หลาย ๆ คนน่าจะจำแดนนี เดอวิโต ได้จากบท เพนกวิน ตัวร้ายจากหนังแบทแมน Batman Returns ปี 1992 และได้ประกบคู่กับ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ใน Twins หนังคอมมีดี้ปี 1988

ส่วน แดนนี โกลเวอร์ ก็มีบทบาทจดจำคือ จ่าเมอร์ทัฟ จากแฟรนไชส์ Lethal Weapon ที่ได้ประกบคู่กับ เมล กิ๊บสัน ทั้งสองรายมาในสภาพคุณตาสูงวัยที่เดินกระย่องกระแย่ง ทั้งคู่ได้เปิดตัวในช่วงต้นเรื่องแพร้บนึง แดนนี เดอวิโต มาในบท เอ็ดดี้ คุณตาของสเปนเซอร์ ตัวเอกจากภาคก่อน

รีวิว JUMANJI

ส่วน แดนนี โกลเวอร์ มาในบท ไมโล เพื่อนเก่าแก่ของเอ็ดดี้ ที่มีเรื่องราวหมางใจกันในอดีต ทั้งคู่บังเอิญโดนดูดไปร่วมผจญภัยในเกม Jumanji รอบใหม่นี้ ซึ่งระหว่างที่หนังเดินหน้าไปก็ค่อย ๆ เผยเหตุหมางใจของเพื่อนเก่าเพื่อนแก่คู่นี้ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

การที่ได้สองรุ่นใหญ่นี้มาเป็นแม่แบบก็นับว่าเป็นสีสันใหม่ของภาคนี้ เพราะเราได้เห็น ดเวย์น จอห์นสัน ที่ต้องเลียนแบบบุคลิกของ แดนนี เดอวิโต ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าดเวย์นดูพยายามดี แต่ที่ฮากว่า เควิน ฮาร์ต ที่ต้องเลียนแบบบุคลิกของ แดนนี โกลเวอร์ ที่พลิกบทบาทจากรายที่พูดมากเสียงแหลม ๆ มาเป็นคนพูดช้า ๆ เนิบ ๆ แล้วพอนำไปใช้ในฉากคับขันที่ทุกคนต้องคอยฟังไมโลค่อย ๆ เอ่ยแต่ละคำก็ชวนลุ้นและฮาดี

อควาฟินา เป็นคาแรกเตอร์ใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าในภาคนี้ในบท “หมิง ตีนแมว” ที่เธอต้องเจอโจทย์ยากด้วยการแสดงเลียนหลาย ๆ คาแรกเตอร์ต้นแบบ เพราะอีกสีสันหนึ่งที่เติมเข้ามาในภาคนี้ คือคาแรกเตอร์ในเกมสามารถสับเปลี่ยนตัวตนกันได้ บรรดานักแสดงแต่ละคนก็เลยต้องเปลี่ยนบุคลิกกันสนุกสนาน แล้วก็เพิ่มช่องให้สอดแทรกมุกฮาได้มากขึ้น

กระนั้น รายใหม่ในภาคนี้ที่หลายคนคุ้นหน้ากันดีก็คือ รอรี แม็กเคน ที่รู้จักกันดีในบท เดอะ ฮาวนด์ จาก Game Of Thrones ก็ถูกใส่เข้ามาในบท “ไอ้เคราโหด” ตัวร้ายของภาคนี้ แต่ Jumanji คือหนังแฟนตาซี-คอมมีดี้ นี่นะ บรรดาตัวร้ายในหนังก็เลยไม่อยู่ในสถานะที่น่ากังวลกับเหล่าฝ่ายดีเท่าใดนัก ลดสถานะมาเป็นตัวประกอบที่ทำให้เรื่องราวเดินหน้าไปได้แค่นั้น

แต่อารมณ์ในภาคนี้ที่ผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัด คือสัดส่วนด้านดราม่าของหนังที่กินพื้นที่ในเรื่องราวพอควร ทั้งดราม่าระหว่างเพื่อนรักรุ่นดึก เอ็ดดี้กับไมโล ที่ทำได้ซึ้งเล็กน้อย เพราะเป็นการเปิดใจกันผ่านภาพลักษณ์ของคาแรกเตอร์ในเกม ที่้ต้องพึ่งจินตนาการของผู้ชมพอควร และดราม่าระหว่างรุ่นเยาว์ของ สเปนเซอร์และมาร์ธา ที่เป็นฉากเดียวในหนังที่ชวนตะขิดตะขวงใจ ทำมั้ยต้องมาเคลียร์ปัญหาใจกันระหว่างที่ไต่หน้าผาอยู่ด้วยนะ

 

รีวิว JUMANJI

 

สรุป จุดขายจากภาคก่อนหน้ามาครบ เพิ่มเติมสีสันใหม่ ๆ อีกมาก ดูได้เพลิดเพลินตลอด 2 ชั่วโมง ได้ทั้งลุ้นและเสียงหัวเราะ และได้ดูภาพซีจีอลังการ ฉากหนีฝูงลิงบนสะพานแขวนเป็นฉากที่สนุกสุดแล้วในภาคนี้ แต่ถ้าชั่งน้ำหนักรวมแล้วความฮาน้อยกว่าภาคแรก แต่ใครที่ได้ดูภาคก่อนแล้ว ภาคนี้ก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง หนังมีฉากหลังเครดิตจบแบบไม่ต้องนั่งรอนะครับ เป็นเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงไปภาคต่อไป

ความรู้สึกหลังดู

จะยอมรับว่าไม่หวังอะไรมาก โฆษณาไม่ได้ขายให้ฉันหมด กังวลว่าจะสนุกหรือกลายเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และไม่แน่ใจเกี่ยวกับนักแสดงทั้งหมด เห็นว่าเขาเป็นคนที่ต้องการดูหนังปี 2017 ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งได้เห็นส่วนแบ่งที่ยุติธรรมและชอบภาพยนตร์ที่มุ่งเป้าไปที่ความสนุกสนานแบบหลบหนี ผู้รักสถานที่ตั้งของ Jumanjiไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

และชื่นชอบภาพยนตร์ของโรบิน วิลเลียมส์ ‘Jumanji: Welcome to the Jungle’ กลายเป็นสิ่งที่ดีกว่าและสนุกกว่าที่คาดไว้มาก มันอาจจะไม่ใช่ผลงานชิ้นเอกหรือยิ่งใหญ่ แต่เห็นได้ชัดว่ามันพยายามอย่างหนักที่จะเป็นนักหลบหนีที่สนุกสนานและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ฉันชอบหนังภาคก่อนๆ มากกว่า แต่นอกเหนือจากชื่อเรื่องและหลักการพื้นฐาน ‘Jumanji: Welcome to the Jungle’

สำหรับฉันแล้ว ดูเหมือนจะเป็นคนละเรื่องและควรยืนหยัดด้วยตัวของมันเอง เห็นได้ชัดเจนว่าเหตุใดจึงไม่ดึงดูดและไม่ดึงดูด (แม้ว่าโดยส่วนใหญ่จะเห็นแง่บวกมากกว่าแง่ลบ) บ้างก็ตาม ไม่สนใจ 20 นาทีแรกหรือประมาณนั้นในโลกแห่งความเป็นจริง มันไม่ได้มีโมเมนตัมมากมายในการแสดงครั้งแรกที่เพียงแค่ตั้งค่าสิ่งต่าง ๆ และใช้เวลานานเกินไปในการทำเช่นนั้น

มีบางครั้งที่น่าอึดอัดใจในการเขียนและการแสดงก็สบายและน่าสนใจมากขึ้นเมื่อเราไปถึง Jumanji การแสดงส่วนใหญ่ทำได้ดีเมื่อหนังเริ่มฉาย แต่สำหรับฉัน นิค โจนาส เป็นคนสุภาพมากและในขณะที่เงียบกว่าปกติคือ เควิน ฮาร์ต บางครั้งก็เสียเปรียบ (แม้ว่าในจุดอื่นๆ เขาก็น่าขบขัน) เสียงปากดังก้องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ให้เป็นรสชาติที่ได้มามาก

 

 

อย่างไรก็ตาม ‘Jumanji: Welcome to the Jungle’ ประสบความสำเร็จอย่างสูงโดยมีเป้าหมายในการหลบหนีอย่างสนุกสนาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาสองชั่วโมง แต่เมื่อเราอยู่ใน Jumanji พวกเขาบินผ่านไป แม้ว่าเรื่องราวจะสามารถคาดเดาได้อย่างมากและผลลัพธ์ก็ไม่น่าแปลกใจ พลังงานที่มีชีวิตชีวา ความตื่นเต้นที่น่าตื่นเต้น การกระทำที่น่าตื่นเต้น และการกัดเล็บอย่างเหมาะสม แต่ไม่รู้สึกถึงอันตรายอย่างเข้มข้นมากเกินกว่าจะชดเชยได้

เดียวกับสคริปต์ที่มีไหวพริบ บทนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและหัวใจที่น่าประหลาดใจ และถึงแม้จะใช้คำหยาบคายจากฮาร์ต มันก็ไม่เคยหยาบหรือหยาบเกินไป และวิชวลเอฟเฟกต์แบบเก่ง Jumanji มีการเรนเดอร์อย่างมีสีสันและส่วนใหญ่ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำอย่างสวยงามและมากกว่าการกำกับที่มีความสามารถ ดนตรีไพเราะน่าฟังและตอนจบก็อบอุ่นและสะเทือนใจอย่างน่าประหลาดไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟร

 

 

ซึ่งใครๆ ก็คาดไม่ถึง แต่ก็ไม่ถึงกับจุกจนเกินไป มีแม้กระทั่งการยกย่อง/แสดงความเคารพของ Robin Williams/Alan Parrish ที่ดี ซึ่งควรค่าแก่การมองหาหากสังเกตเป็นพิเศษ ดเวย์น จอห์นสันเต็มไปด้วยความจริงจังและมีเสน่ห์ ในแง่ของสไตล์การแสดง มันเป็นพื้นที่ที่คุ้นเคยมากสำหรับจอห์นสัน แต่เขาทำได้ดี

และนั่นคือทั้งหมดที่สำคัญ คาเรน กิลเลนมากกว่าที่จะยึดตัวเองกับนักแสดงนำคนอื่นๆ ด้วยความหล่อและมีเสน่ห์มาก (ฉากเจ้าชู้/เต้นรำของเธอหลังจากได้รับการสอนให้แสดงเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของภาพยนตร์เรื่องนี้) Bobby Cannavale เป็นวายร้ายที่น่าเกรงขามอย่างเหมาะสม หากใช้งานน้อยเกินไป เห็นด้วยอย่างยิ่งกับทุกคนที่บอกว่าแจ็ค

แบล็คขโมยรายการ เขามีบทและช่วงเวลาที่สนุกที่สุด (ซึ่งมีมากมาย) และอาจเป็นการแสดงที่ดีที่สุดของเขาตั้งแต่ ‘School of Rock’ การโต้ตอบของตัวละคร ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นหนักมาก เป็นประกายจริงๆ สรุปว่าหนังสนุกและดีอย่างน่าประหลาดใจถ้าไม่ใช่หนังที่ยอดเยี่ยม 7/10 เบธานี ค็อกซ์

สรุป การให้คาแรกเตอร์ในเกมต้องเลียนท่าทางของผู้เล่นตัวจริง เป็นมุกฮาเด็ดของเรื่อง เพิ่มตัวละครใหม่ ๆ ทำให้ภาคนี้มีสีสันเพิ่มขึ้นมาก ฉากนกกระจอกเทศ ฉากลิงแอฟริกา ขายงานซีจีอลังการมาก เลือกเก็บทีเด็ดจากภาคที่แล้วไว้ได้ครบ มุกฮาแรง ๆ น้อยกว่าภาคแรก การพยายามบิลท์อารมณ์ดราม่าในหนังคอมมีดี้ แล้วไม่ติด ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง