รีวิว เมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ

หนังเรื่องนี้ทำให้รู้ ตั้งแต่เห็นเทรลเลอร์ครั้งแรกในโรง ก็เดาไว้เลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีทางที่ผมจะดูและน่าจะเป็นความล้มเหลวต่อเนื่องของจีทีเฮชต่อจากฟรีแลนซ์ ซึ่งหลายๆคนก็พูดในทางเดียวกันดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

ตอนแรกที่เห็นโปสเตอร์หน้าหนัง เมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ ความรู้สึกคือ หนังดูติ๊งต๊อง ไม่ค่อยน่าดูสักเท่าไหร่ และดูขายเฉพาะกลุ่ม พูดตรงๆ ก็คือมันดูไม่แพงเอาเสียเลย และน่าจะเป็นหนังแนวเน้นขายดารามากกว่า แต่พอ GTH ปล่อยตัวอย่างเต็มๆ และคลิปฐานันดรออกมาให้ดู เออ ปรากฏว่าข้างในมันดูมีอะไรและน่าสนใจกว่าที่คิด

ป๋อง (แบงค์-ธิติ) แบ่งนักเรียนในโรงเรียนเป็นฐานันดรต่างๆ คือ คนทั่วไป, อันธพาล, เด็กเนิร์ด, นักกีฬา, คนหน้าตาดี, และนักกิจกรรมตัวท็อป โดยจัดตัวเองเป็นบุคคลผู้ไม่มีฐานันดร ไร้ตัวตน ไม่มีคนสนใจ แต่คนไม่มีศักดิ์อย่างป๋องก็ดันไปแอบชอบมิ้ง (ฟรัง-นรีกุล) นักกิจกรรมตัวท็อป ว่าที่ประธานสีคนต่อไป ทั้งที่เธอไม่เคยเหลียวแลเขาเลย

จนวันนึงป๋องได้รู้จักกับเมย์ไหน (ปันปัน-สุทัตตา) ผู้หญิงเก็บตัว ไม่เข้าสังคม และไม่มีฐานันดรเช่นเดียวกับเขาป๋องล่วงรู้ความลับของเมย์ไหนว่าเธอแอบชอบพี่เฟม (ต่อ-ธนภพ) สุดฮอต ผู้เป็นทั้งนักกีฬา หน้าตาดี และประธานสี แล้วป๋องยังรู้อีกว่า เมย์ไหนเลือกที่จะไร้ตัวตนเพราะเธออยู่กับใครไม่ค่อยได้ ร่างกายของเธอจะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาเหมือนปลาไหลไฟฟ้าทุกทีที่เหนื่อย ตื่นเต้น หรือตกใจ

ทั้งสองตกลงเป็นเพื่อนกัน รักษาความลับของกันและกัน ค่อยๆ สนิทกัน และช่วยกันจีบมิ้ง-เฟมตัวท็อปของโรงเรียนอย่างลับๆ

ส่วนตัวมองจากเทรลเลอร์ว่าโปรดักชั่นอยู่ในระดับฉายทีวีไม่ใช่ฉายโรง นักแสดงเอามาจากทีวีซีรีย์ฮอร์โมนก็ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ แถมคนไทยยังชอบมองว่าดาราทีวีเคยดูฟรีได้จะไปเสียตังค์ดูโรงทำไมไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟร

 

 

ไม่ได้คลั่งไคล้ปันปันเป็นพิเศษ เช่นเดียวกันกับนักแสดงที่เหลือตั้งแต่หลักยันตัวประกอบ คิดว่าแคสติ้งได้น่าเบื่อมาก เนื้อหาโคตรสูตรสำเร็จดูตัวอย่างก็มองไปเห็นฉากจบละ ไอ้ญี่ปุ่นสไตล์ เพลงแนวอนิเมะ นี่ไม่มีกระเทือนต่อมไร้ท่อใดๆในตัวผม

ซึ่ง แต่พอหนังออกฉายรอบสื่อ พวกรีวิวหลายค่ายหลายคนก็ออกมาบอกว่าหนังสนุกกว่าที่คิดมาก (เอ่ะ เริ่มลังเล) ลองหาข้อมูลเพิ่มอ้าว ผู้กำกับหนังซัคซี้ดด้วยนี่นา ก็น่าจะวางใจได้ระดับหนึ่ง (ซึ่งถ้าบอกว่าจากคนสร้าง ATM หรือไอฟายฯ ไรพวกนี้ไม่มีทางได้ตังค์ผมจริงๆ เพราะไม่ถูกโฉลกกับตลกโฉ่งฉ่าง) ก็คิดว่าน่าจะลองไปดูในโรงดู (และเลือกดูแบบถูกที่สุดที่จะหาได้ 555)

ถ้าให้พูดกันตรงๆ ไม่นับอนิเมชั่น โปรดักชั่นรวมๆผมไม่รู้สึกว่าอยู่เกรดหนังโรง เป็นไปตามที่คาดไว้แต่เดิม ภาพธรรมดา เอฟเฟกธรรมดา องค์ประกอบศิลป์ธรรมดา น่าจะระดับซีรี่ย์ฮอร์โมนนั่นล่ะ คือดีกว่าทีวีทั่วไปมาหน่อย

แต่ก็ไม่ได้ดูพิเศษอะไร (หนังน่าจะใช้ทุนน้อยมากดูจากทรัพยากรเอามาจากภายในบริษัทหมด ฉากเน้นอยู่ไม่กี่ที่ สปอนเซอร์สนับสนุนก็น่าจะคุมทุนได้หมดอยู่แล้ว เจ๊งก็ไม่เจ็บ)

แล้วที่เด็ดสะระตี่จริงๆ คือการเล่าเรื่อง ยอมใจกับผู้สร้างว่าเล่าเรื่องได้สนุก ทั้งที่โคตรสูตรสำเร็จ โคตรเดาได้ เดาง่าย จังหวะจะโคนดี เอาอยู่ โดยเฉพาะพวกจังหวะเว่อๆแบบญี่ปุ่น และอนิเมชั่นสอดประสานลงตัวกับคนแสดงไม่รู้สึกขัดแย้งเป็นส่วนเกิน หนังยังพุดประเด้นความรักวัยเรียนได้น่ารักสมวัย อมยิ้มได้ตลอดตามธรรมชาติหนังค่ายนี้

รีวิว เมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ

ในส่วนของ นักแสดงหลักเล่นกันเต็มที่ ตามมาตรฐาน ไม่ห่วงสวยห่วงหล่อนัก ถือว่าดี แต่ตัวประกอบจัดว่าเป็นสีสันตัวจริงของเรื่องก็ต้องชื่นชม โดยเฉพาะพวกโนเนม ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

ซึ่งทั้งหมด ทั้งมวลมาชั่งน้ำหนักดู คิดว่าดูในโรงก็ไม่เสียดายอะไรเลย ค่อนข้างพอใจ แต่ก็ไม่ได้ขนาดจะอวยกระเซ้าให้ใครไปดูเป็นพิเศษ (ถ้าจะกระเซ้าคงบอกว่าถ้ามีโอกาสจะเป็นดีวีดีก็ได้ (ไม่ต้องรีบก็ได้) แต่ก็อยากให้ลองดู หนังสนุก โดยไม่จำเป็นต้องดูในโรง เพราะภาพเสียงอะไรที่ต้องพึ่งศักยภาพโรงมันไม่ได้มีมากขนาดนั้น)

ในส่วนข้อเสียนั้น สุดๆของหนัง น่าจะเป็นการตลาดของจีทีเฮช รวมถึงการวางโปรแกรมไว้เป็นหนังกู้ศรัทธาจากฟรีแลนซ์ซึ่งควรทิ้งเวลาไปอีกสักหน่อย รวมถึงการทำหน้าหนังให้ดูเด็กน้อยลงกว่านี้(โดยเฉพาะชื่อ ที่กะกินเด็กม.ต้นไม่สนกลุ่มคนที่เหลือเลย) และควรโชว์จังหวะมุกที่ทำงานจริงๆของหนัง แทนที่จะเอาพวกมุกดาดๆมาใส่ในตัวอย่าง ซึ่งรวมถึงงานภาพที่ต้องอัพสเกลขึ้นไปให้สมหนังโรงด้วย ก็น่าจะดีกว่านี้

เนื่องจากไปดูหนังเรื่องนี้ก็รอบสองแล้ว เลยคันปากอยากจะรีวิว.. ในตอนแรกเห็นทรีลเลอร์แล้วคิดว่าแป้กแน่ๆ มุขก็ธรรมดา เลยตัดสินใจว่าขอบาย
แต่ว่าบังเอิญได้รับตั๋วฟรีไปดูรอบสื่อ เลยกะว่าลองดูไหนๆก็ดูฟรี ปรากฎว่า ในตอนแรกของหนังมีการไทด์อินสินค้าอย่างเนียนๆไปได้อีก โดยเปรียบเทียบกับการแบ่งฐานันดรต่างๆในโรงเรียน

เรื่องเปิดมาว่า ป๋อง เป็นอย่างที่เห็นกันในทรีลเลอร์คือ ไร้ตัวตน ไม่ขึ้นสแตนยังไม่มีใครรู้ แอบชอบมิ้ง ตัวท็อปของโรงเรียน ป๋องได้แต่แอบมองมิ้งเงียบๆจากมุมของตัวเอง มโนเอามิ้งมาวาดรูปเป็นเล่มๆ ซึ่งหนังเล่ามาถึงจุดนี้ก็แบบโห มันจริงๆนะสำหรับคนไร้ตัวตน

จนหนังสือที่ป๋องวาดไปถึงมือมิ้ง สุดท้ายมิ้งไม่อยากเข้าใกล้ป๋อง ป๋องโกรธตามหาคนที่เอาหนังสือไปให้มิ้ง ว่าคือใคร จนป๋องได้รู้จักกับเมย์ไหน แล้วก็สุดท้ายกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วก็ช่วยซึ่งกันและกัน ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเมย์ไหนกับพี่เฟมกำลังค่อยๆเคือบหน้า ความสัมพันธ์ของป๋องกับมิ้งยิ่งแย่ลง สุดท้ายก็ตามแบบหนังรัก “เพอร์เฟคแค่ไหน ก็แพ้ใกล้ชิด” จำได้ว่าตอนจบนี่คนกรี้ดกันลั่นโรงง คือฟินจริงๆ

ข้อคิดของเรื่องนี้ : สมัยนี้มีคนมากมายที่อยากทำอะไรที่เปลี่ยนแปลงสิ่งเดิมๆ แต่แค่ขาดความมั่นใจ จนสุดท้ายต้องมานั่งเสียใจว่า ทำไมเราไม่ทำตั้งแต่แรก หนังเรื่องนี้อาจเป็นแรงผลักดันให้คุณกล้าทำในสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้น การแสดงของนักแสดงหลักทั้ง 4 คนดีมากๆ โดยเฉพาะแบงค์ ไม่คิดว่าจะแสดงดีขนาดนี้ คนอื่นๆก็เล่นดีมากๆ มุขมีไม่ขาด

ข้อติก็มี คือ ไม่ค่อยเน้นเรื่องฐานันดรในช่วงหลังๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หนังน่าเบื่อเท่าไหร่ รักหนังเรื่องนี้มากๆ อยากชวนไปปดูจริงๆ

ความรู้สึกหลังดู

ฉันสะดุดกับหนังตลกโรแมนติกของไทยปี 2017 เรื่อง “May nai fai rang frer” (aka “May Who?”) ในปี 2564 และใช่ ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่าเพราะเป็นหนังไทยและชอบดูหนังเอเชียมาก และยังไม่เคยดู เลยหาเวลานั่งดู May Who? ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

และฉันต้องยอมรับว่าฉันสนุกมากกว่าและประหลาดใจอย่างแท้จริงกับความเพลิดเพลินและความบันเทิงที่ “อาจใคร” กลายเป็น นักเขียนชญานพ บุญประกอบ, นัฐพล บุญประกอบ, วสุธร ปิยรมณ์ และ ทศพล ทิพย์ทินกร ได้สร้างสรรค์เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ที่รวมเอาองค์ประกอบของแนวต่างๆ เช่น แฟนตาซี โรแมนติก และคอมมาดี้ไว้อย่างลงตัว

เป็นเรื่องราวที่เขียนได้ดีและมีตัวละครที่น่าสนใจ และผู้กำกับชญานพ บุญประกอบ ก็นำหนังเรื่องนี้มาสู่จอได้อย่างน่าพอใจอย่างแน่นอน มีความตลกขบขันในหนังอยู่พอสมควร แต่เป็นเรื่องราวจากใจจริงที่ขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ ควบคู่ไปกับการแสดงดีๆ

จากนักแสดงและนักแสดง ต้องยอมรับว่าประทับใจในการแสดงของสุทัศน์ อุดมศิลป์ (แสดงเป็นเมย์-นัย) เป็นพิเศษ เพราะเธอแบกรับหนังเรื่องนี้จริงๆ ด้วยการแสดงของเธอในฐานะเด็กสาวที่กระฉับกระเฉง

หากคุณมีโอกาสได้นั่งดู “May Who” ฉันขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณทำเช่นนั้น เพราะฉันรู้สึกประหลาดใจที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องสนุกจริงๆ ตอนแรกฉันคาดหวังแค่เรื่องตลกวัยรุ่นเรื่องใหม่ แต่ “ขอใคร” เป็นมากกว่านั้น ฉันกำลังให้คะแนน ” May Who?” สมควรได้รับเจ็ดในสิบดาว

ฉันเห็นตัวอย่าง May Who? ระหว่างการฉายภาพยนตร์เรื่อง Our Times และไม่มีทางที่ฉันจะมองเห็นอะไรที่โง่เขลาได้ขนาดนี้ แต่ฉันพูดเร็วเกินไป คิดว่ามันคงจะสนุกถ้าได้จับมันกับแม่ของฉัน…

 

รีวิว เมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ

 

พงษ์เป็นเด็กไฮสคูลที่อยู่ในกลุ่มคนนอกโรงเรียนไฮสคูลที่รู้จักกันในชื่อ “ล่องหน” และสนุกกับการปล่อยให้จินตนาการของเขาโลดแล่นด้วยการวาดภาพการ์ตูน May-Who เป็นหนึ่งใน “Invisibles” และมีความลับพิเศษ: ความสามารถในการปล่อยกระแสไฟฟ้าเช่นขดลวดเทสลา เมื่อใดก็ตามที่หัวใจของเธอเต้นเร็วกว่า 120 ครั้งต่อนาที ร่างกายของเธอก็ปล่อยประจุไฟฟ้าอันทรงพลังออกมา

พงษ์บังเอิญรู้เรื่องนี้และสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับเพื่อแลกกับการช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้เอาชนะการเลิกราในโรงเรียนมัธยมของตน เรื่องย่อไม่เหมือนกับ Our Times เหรอ? แก่นของมันอาจจะเหมือนกัน แต่ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องมีความแตกต่างกันในแง่ของการดำเนินการ มีทางเดียวเท่านั้นที่จะดู May Who?

คุณต้องทิ้งสมองไว้ที่ประตู ความคาดหวังของฉันต่ำและแปลกใจที่ rom-com วัยรุ่นนี้ให้บริการในช่วงเวลาที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง บางครั้งมันเกือบจะวิ่งกลับบ้าน แต่ช่วงเวลาที่ไร้สาระอย่างจริงจังจะติดตามและนำจิตวิญญาณออกไป น่าเสียดายจริงๆ… มันน่าจะไว้ใจเราให้เข้าใจว่าพลังชาร์จไฟฟ้าเป็นเพียงอุปมาอุปไมยพฤติกรรมทางสังคมของวัยรุ่น

แต่ผู้กำกับก็ตัดสินใจที่จะรีดนมด้วยตัวอักษร ยังมีบางช่วงเวลาที่อบอุ่นและฉันก็ชอบฉากแอนิเมชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Roger Rabbit ในตอนท้าย ฉันชอบตัวละครของพงษ์และเมย์ด้วยเพราะพวกเขาทำให้ฉันนึกถึงฉัน – เข้าสังคมงุ่มง่ามและไม่เผชิญหน้า สำหรับฉันการรักใครสักคนจากระยะไกลนั้นดีเท่าที่ควร

 

รีวิว เมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ

 

มีบางอย่างที่ต้องพูดเกี่ยวกับการชมภาพยนตร์กับฝูงชนที่เหมาะสม ฉันถูกห้อมล้อมไปด้วยเด็กสาววัยรุ่น และเสียงหัวเราะที่เป็นธรรมชาติและเต็มอิ่มของพวกเธอทำให้ฉันยอมรับเรื่องราวอุกอาจได้อย่างง่ายดาย บางครั้งการดูหนังผ่านสายตาวัยรุ่นก็เป็นเรื่องที่ดี

สรุป หนังดูสนุกผิดความคาดหมาย ดูได้ทั้งเด็กผู้ใหญ่(ไม่มั่นใจคนแก่ว่าจะถูกจริตกับจังหวะของเรื่องมั้ยนะ) ไม่น่าเสียดายตังค์ แต่คิดว่าแค่ดีวีดีก็ได้อยู่นะ ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง