รีวิว What Happened To Mr. Cha?

รีวิว What Happened To Mr. Cha?

จะมาเเนะนำหนังออกเเนวตลก What Happened to Mr Cha? ชาอินพโย สุภาพบุรุษสุดขั้ว หนังตลกสร้างจากเรื่องสมมุติ แต่อิงกับเรื่องจริงของดาราเกาหลีดังในอดีตชาอินพโย เมื่อหมดยุคดาราดังแล้วแต่เขายังไม่รู้ตัว จนเกิดเหตุร้ายที่กลายมาเป็นสถานการณ์บังคับให้เขาต้องรู้สึกตัวดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

และ นี่เป็นหนังที่สร้างขึ้นอ้างอิงจากตัวตนจริงนักแสดงชาวเกาหลีใต้ ชาอินพโย (Cha In-pyo) ที่เกิด 14 ตุลาคม 2510 อายุปัจจุบัน 54 ปี เป็นดารารุ่นเก่าที่เคยโด่งดังมากในอดีต โด่งดังถึงขั้นคนในยุคนั้นเกิดอาการคลั่งไคล้ฟีเว่อร์ทำท่าประจำตัวส่ายนิ้วชี้ไปมาแบบเท่ๆ ของเขากัน ซึ่งถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ตามหนังหรือซีรีส์เกาหลี หรือคนรุ่นหลังจะไม่รู้จักก็ไม่แปลกใจ

เพราะเรื่องนี้จริงๆ แล้วก็ทำมาล้อเลียนเสียดสีวงการดาราด้วยกันเอง ซึ่งประเทศไหนๆ ก็คงมีซุปตาร์แบบนี้กันทั้งนั้นแหละ เพราะเมื่อขึ้นถึงจุดสูงสุดของวงการแล้ว ก็ไม่อยากยอมรับว่าต้องตกมาจุดต่ำสุดได้เช่นกัน และตัวเรื่องเองก็มีอธิบายความเป็นมาของเขาให้ได้เห็นกัน นี่จึงเป็นหนังล้อเลียนดาราที่แม้คนดูไม่รู้จักก็เข้าใจเรื่องราวและสนุกกับความบ้าของเรื่องราวได้เป็นอย่างดี

จัดอยู่ในกลุ่มหนังตลกสถานการณ์ที่หยิบเอาประเด็นช่วงชีวิตที่แปรเปลี่ยนไป จากคนดังในอดีตที่มีแฟนคลับคลั่งไคล้ มีภาพจำของตัวเอง (ด้วยท่าประจำตัวชี้นิ้วไปมาแบบเท่ๆ) จนเรียกได้ว่าชาอินพโยคือซุปเปอร์สตาร์ในยุคนั้นที่โด่งดังจนถึงขีดสุด ตัดกลับมาในช่วงเวลาปัจจุบัน (ซึ่งหนังก็เริ่มยั่วล้อจิกกัดวงการบันเทิงตรงจุดนี้) ที่เผยให้เห็นชีวิตของชาอินพโยที่ยังคงรับงานในวงการบันเทิง แต่ก็ดูเหมือนกระแสความนิยมของเขาจะไม่ได้เปรี้ยงเหมือนเก่าก่อน

หนังก็เขียนบทมาให้ชาอินพโยในช่วงเวลาปัจจุบันต้องเผชิญหน้ากับจุดต่ำสุดของอาชีพการทำงาน แม้เขาจะยังคงยึดถือวิถีปฏิบัติในการทำงานกองถ่ายว่าจะต้องจริงจัง รักษาคาแรกเตอร์ที่เป็นตัวเอง ต้องดูดีและเนียบทั้งภายนอกและภายใน

แต่ดูเหมือนว่างานถ่ายแบบเสื้อผ้าล่าสุดที่ต้องการความเป็นธรรมชาติๆ ดูสบายๆ เขากลับนำเสนอภาพความสบายที่ไม่ได้ตอบโจทย์กับแบรนด์สินค้า จนผู้กำกับเกิดอาการปวดกะบาล เพราะนักแสดงไม่สามารถนำเสนอภาพที่ต้องการออกมาได้

คือภาพสะท้อนของคนยุค Baby Boommer ที่ชัดเจนที่สุด ลักษณะเฉพาะของคนยุคนี้จะเป็นคนที่จริงจัง ทุ่มเทชีวิตกับการทำงาน ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ พ่วงกับชื่อเสียงที่ติดตัวเขามายิ่งกลายเป็นคนที่เรื่องมากและดูน่ารำคาญในสายตาของคนร่วมงานยุคปัจจุบัน โชคยังดีที่เขายังมี อารัมเป็นผู้จัดการประจำตัวที่อยู่กับเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไร เป็นทุกอย่างกระทั่งคอสตูม คนจัดคิว ยันคนขับรถส่วนตัว! ที่ไม่รู้ว่าเขาทนอยู่หรืออยู่ทนกันแน่

ซึ่งในตัวหนังใช้เวลาช่วงต้นสั้นๆ แค่ 10 นาทีเพื่อปูให้คนดูรู้จักชาอินพโยแบบคร่าวๆ ทั้งจากงานหนังในอดีตกับฉากการถ่ายแบบปัจจุบันที่แสดงตัวตนของเขาออกมาว่าเป็นคนเนี๊ยบ รักษาภาพลักษณ์ดูดีทั้งภายนอกและภายในจิตใจที่เจ้าตัวย้ำเสมอว่า “จริงใจ” กับงานที่ทำ แม้จะผิดพลาดบ้าง แต่ทุ่มเทจริงใจให้กับมันก็พอ ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟร

 

 

ซึ่งมันก็เลยกลายเป็นอาการล้นๆ เกินปกติไปบ้างกับคนนอกที่มองมาที่เขา แต่เจ้าตัวก็ยืนยันมั่นใจว่าแนวทางที่ตัวเองเชื่อและพยายามรักษามาตลอดหลายสิบปีในวงการคือสิ่งที่ถูกต้อง ทำให้ยังมีงานมีกินมีใช้อยู่ โดยมี “อารัม” เป็นผู้จัดการประจำตัวมานาน แต่เจ้าตัวก็ยังไม่วายถูกตำหนิจากนิสัยเนี๊ยบดูดีไปหมดของชาอินพโยอยู่ตลอดเวลา

แต่เขาก็ติดคำพูดขอโทษจนเป็นนิสัย โดยลึกๆ อยู่ข้างในเก็บงำเรื่องปัญหาของเจ้านายไว้อยู่ตลอด จนเมื่อเจ้านายดันพลาดซวยไปติดในซากอาคารที่ถล่มลงมากับน้องหมาที่ตัวเองพาไปเดินเล่น แล้วพยายามให้เขาช่วยโดยไม่แจ้งตำรวจหรือกู้ภัย เหตุเพราะเปลือยกายอยู่เลยกลัวเสียภาพลักษณ์ถ้าสื่อเอาไปลง ซึ่งทำไปทำมากลายเป็นเรื่องซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ จนอารัมเองก็ไม่ไหวจะเคลียร์กับเจ้านายที่ไม่รู้ปัญหาของตัวเองแบบที่เห็น

แล้วหนังแทบทั้งเรื่อง 80% คือฉากติดในซากของชาอินพโย ที่พยายามหาทางออกไม่ให้ตัวเองเสียภาพลักษณ์บ้าๆ แบบที่ตัวเองคิด ซึ่งนี่เป็นงานเขียนบทที่โชว์กึ๋นเอามากๆ เพราะแค่ฉากเดียวของเรื่องแช่กันอยู่แต่ที่กองซากนี้ตัวเรื่องก็มีซีนตลกให้เล่าไปได้เรื่อยๆ ซึ่งเป็นการยิงมุกติดกันเป็นชุดแทบไม่มีพักหายใจเลย แรกๆ อาจจะไม่ขำ

แต่การันตีเลยว่าเจอยิงซ้ำต่อเนื่องกันขนาดนี้ไม่มีใครรอดไม่หัวเราะได้แน่นอนครับ แถมยังหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคนดูเริ่มอินเข้าใจกับเลเวลความบ้าบอของชาอินพโย และเหตุการณ์ที่ตัวเรื่องผูกให้เขาต้องเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิดแต่ละอย่างที่ยิ่งซ้ำเติมให้อุบัติเหตุครั้งนี้กลายเป็นหายนะทำลายภาพลักษณ์ของเขาได้มากกว่าที่จินตนาการไว้ซะอีก ขอไม่สปอยล์มุกเพราะมันคือเซอไพรซ์ฮาๆ ทั้งนั้น แม้จะเขียนบทง่ายๆ แนวเอาเรื่องบังเอิญมาชนกันทั้งหมดก็ตามที

รีวิว What Happened To Mr. Cha?

และถึง ไม่ใช่แค่จะมีแต่ซีนตลก แต่เรื่องก็ยังคงหัวใจของเรื่องที่จะเล่าไว้เหนียวแน่นตั้งแต่แรกคือ ซึ่งทุกคนรู้ แต่เขาไม่รู้ และไม่พยายามยอมรับว่าอายุมากแล้ว ไม่มีใครสนใจหรือให้ค่ากับเขาในแบบอดีต อย่าลืมไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

แม้จะมีงานมาเรื่อยๆ แต่ก็เป็นงานแบบตัวแถม ซึ่งเขาเองก็ดันไม่เข้าใจนึกว่าเป็นตัวหลัก ซึ่งหัวใจของเรื่องนี้เป็นส่วนที่ทำให้หนังตลกเรื่องนี้แม้มีฉากเล่นกันอยู่ฉากเดียว แต่กลับมีเรื่องราวลึกซึ้งจริงจังแทรกอยู่อย่างลงตัว และก็ย้อนเอาสิ่งที่พระเอกยึดถือมาตลอดมาสอนตัวเองได้ดีอีกครั้ง เป็นการคลายปมจากสิ่งที่มีอยู่แล้วได้ดีเลย

แต่ปัญหาของเรื่องก็ “อาจจะ” อยู่ที่ตรงจุดการค้นพบสัจธรรมของชีวิตในตอนท้ายเรื่อง เมื่อหนังพยายามกระแทกแดกดันชาอินพโยไม่หยุด โดยไม่มีการเปิดโอกาสให้เขาได้ดีอะไรเลยจากการค้นพบครั้งนี้ ตัวเรื่องซ้ำเติมชาอินพโยไปจนจบ

ถึงกับมีซีนตัวจริงของเรื่อง ที่เหมือนจำลองการมารับงานเล่นหนังครั้งนี้ด้วยความต้องการ คัมแบ็คหรือคืนชีพ จริงๆ แม้จะมองว่าเป็นการล้อเลียนเสียดสีตัวเองสนุกๆ แต่อารมณ์ของเรื่องช่วงท้ายกลายเป็นหนังที่จบแบบง่ายๆ ไม่มีพลิกหรือทำให้เรื่องดูมีอะไรต่อยอดไปจากนั้นได้อีก เหมือนอยากจะจบก็จบดื้อๆ ไม่เคลียร์กับปัญหาที่ค้างคาไว้หลายอย่างๆ จนเกินไป

จนกระทั่งวันหนึ่งหลังจากที่ชาอินพโยตัดสินใจไปเดินเล่นและตัวเลอะโคลน เขาจึงแอบๆเข้าไปอาบน้ำในโรงยิมแห่งหนึ่ง โดยที่เขาไม่รู้ว่าตึกแห่งนี้ไม่สมบูรณ์และพร้อมถล่มลงมาทุกเมื่อ แล้วก็ไม่วายตึกดังกล่าวก็เกิดถล่มลงมาจริงๆส่งผลให้ชาอินพโยติดอยู่ใต้ซากตึก แต่แทนที่ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะจบลงง่ายๆด้วยการเรียกหน่วยกู้ภัยมาช่วย แต่ด้วยสภาพที่เขาแก้ผ้าเปลือยกายอาบน้ำทำให้เขาห่วงภาพลักษณ์มากกว่าชีวิต เรื่องราวจึงเริ่มบานปลายและซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ

เอาเข้าจริงคนดูจะสนุกไปกับ What Happened To Mr. Cha? ได้ถ้าหากคุณมองว่าสถานการณ์ในหนังเป็นเรื่องตลก แต่มองในอีกมุมหนึ่งตัวละครของชาอิพโยก็จัดได้ว่างี่เง่าและน่ารำคาญในเชิงระบบวิธีคิดเอามากๆ ดังนั้นถ้าคุณจูนกับตัวละครนี้ติดตั้งแต่แรกก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าผ่านมาสักพักแล้วรู้สึกทำไมเราต้องเสียเวลาดู คุณก็จะปิดหนังเรื่องนี้ทันที!

แต่ก็ โดยรวมงานนี้ก็เป็นหนัง Netflix แท้ๆ ของเกาหลีที่บันเทิงมาก มอบเสียงหัวเราะให้กับคนดูได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน แถมยังแอบทึ่งที่เล่นกันอยู่ฉากเดียวยาวถึง 1 ชั่วโมงครึ่งได้อย่างลื่นไหลไม่น่าเบื่อเลย ก็ไม่แปลกใจที่ชาอินพโยเองยอมรับงานแสดงที่ล้อเลียนตัวเองสุดกู่ได้ขนาดนี้ครับ

ความรู้สึกหลังดู

มันเป็นความโง่เขลาเย็น ที่มีช่วงเวลาที่ดีผ่านไป ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

การแสดงและภาพยนตร์อื่นๆ ทำได้ดีกว่าในการดำเนินการตามแนวคิดนี้… แนวทางหลักสำหรับการวิเคราะห์ตนเองของเขาคือความโลดโผน ซึ่งฉันหวังว่าผลลัพธ์ที่ไม่ดีจะเกิดขึ้น มันก็จะทำให้มันสนุกสนานขึ้นเล็กน้อย

ฉันคิดว่ามันฉลาดที่ภรรยาให้ยืมเสียงของเธอกับโครงการนี้เท่านั้น มันมีบางช่วงเวลาที่ตลก แต่การที่มันมาสู่สถานการณ์นั้นทำให้ฉันต้องออกไป ฉันเข้าใจดีว่าภาพลักษณ์นั้นมีความหมายทุกอย่างสำหรับคนดังเกาหลี แต่การที่จะมองมันให้มากขนาดนี้ แม้แต่ในมุมตลก (แย่) ก็รู้สึกไร้สาระ

แรกฉันดูมันโดยบังเอิญ จากนั้นฉันกับพี่สาวก็ดู จากนั้นลูกชายที่โตแล้วของฉันและฉันดู เราทุกคนหัวเราะเกือบต่อเนื่อง การแก่ชราอย่างสง่างามไม่ใช่การปิกนิก

หนัง Netflix แท้ๆ ของเกาหลีที่มีความบันเทิงอยู่เต็มเปี่ยม และมอบเสียงหัวเราะให้กับคนดูได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน แถมยังแอบทึ่งกับบทที่เล่นกันอยู่ฉากเดียวยาวถึง 1 ชั่วโมงครึ่งได้อย่างลื่นไหลไม่น่าเบื่อเลย โดยที่ยังมีเรื่องราวปรัชญาของชีวิตดาราผ่านวงการแสดงแทรกไว้อยู่อย่างลงตัว ถึงไม่รู้จักชาอินพโย ก็ดูสนุกได้แน่นอนครับ

และเป็นหนังที่เราอยากให้ทุกคนได้เปิดใจลองมาติดตามให้มากขึ้น จากที่เกิดเป็นกระแสมาแล้ว ทำให้คนแห่เข้ามาดูเพิ่มขึ้นเรื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ แล้วท่านจะพบกับความสนุกแบบฉุดไม่อยู่กันเลย

เป็นภาพยนตร์ที่แฝงข้อคิด ไว้มากมาย ส่วนใหญ่สอนในเรื่องทัศนคติเเละการวางตัวที่บอกว่าเป็น Message ที่ดีมาก โดยเฉพาะสำหรับดารา เป็นการเล่นประเด็นตลกร้าย เป็นตลกที่ Over เล่นใหญ่ไว้ก่อน ถ้าใครเก็ทมุกก็คือจะฮา 55555 มีกลิ่นความอินดี้ใส่เข้าไปด้วย นำเอาอดีตซีนดังของชาอินพโย มาใช้ในความตลกนี้ด้วย สำหรับใครที่ไม่รู้จักชาอินพโย แอดว่าคงจะไม่อินเเน่ๆ เรารู้สึกว่าเดินเรื่องได้สนุกต้นเเต่แผ่วตั้งเเต่ตอนกลางจนจบ บางช่วงก็แอบน่ารำคาญ

เมื่อได้ลองดู เรื่องนี้ ก็รู้สึกว่าหนังได้สร้างเพื่อคารวะ บุคคลที่เคยโด่งดัง ซึ่งทำออกมาได้เพลิดเพลินกำลังดี แน่นอนว่าหนังมีความล้อเลียนชาอินพโย ให้เขาดูเหมือนจะเป็นตัวตลก แต่ในขณะเดียวกันเราก็ได้เห็นอีกมุมของเขา ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่ไม่รู้จักนักแสดงคนนี้ก็สามารถดูหนังเรื่องนี้แล้วอินกับมันไปได้ง่ายๆ มุกตลกที่ใส่เข้ามาก็มีความสร้างสรรค์และน่ารักดี

เป็นภาพยนตร์ที่สอนเราว่าชื่อเสียงนั้นไม่หยั่งยืน อย่ายึดติดให้มาก ไม่มีอะไรสำคัญเท่าความจริงใจ ความจริงใจในที่นี้ก็คือการเป็นตัวเราตัวตนจริงๆ ถ้าเราจริงใจกับคนอื่นสักวัน วันใดวันนึงก็มีคนให้ความสนใจให้ความรักเรากลับมาเเน่นอน

เห็นใจคนที่อยู่ข้างๆตัวเองบ้าง อย่าคิดเองเออเองว่าเขาไม่เป็นไร พูดอะไรให้คิดให้ดีๆบางครั้งความสนิทอาจจะทำให้เลยขอบเขต ให้กำลังใจกันบ้างเพราะเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาต้องเจอมาหนักหนาขนาดไหน

เอาเป็นว่าหนังเรื่องนี้ มุกตลกที่ยิงเข้ามาไม่หยุดต่อยอดกันไปเรื่อยๆ ภายในฉากหลักของเรื่องฉากเดียวจนจบ! ปรัชญาและสัจธรรมของชีวิตดาราที่ไม่มีใครหนีพ้น แต่จะยอมรับได้เมื่อไหร่เท่านั้น เอาชีวิตจริงของดารังในอดีตชาอินพโยมาล้อเลียนเสียดสีด้วยตัวเอง ตัวละครน้อยนิด แต่ขยันยิงมุกกันทุกคน ช่วงคลี่คลายปมสุดท้ายกลับไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นอีก

ซึ่งต้อง ใช้ความกล้าหาญแม้อาจจะเป็นแนวมาโซคิสม์ในการมีบทบาทในบางสิ่งบางอย่างเช่นเดียวกับเมตา เกิดอะไรขึ้นกับนายจ๋า? กลายเป็น แต่ Cha In-Pyo ขึ้นอยู่กับมัน เขาจับได้ว่าการเล่นเวอร์ชันนี้อาจจะดูโอหังกว่านี้ของตัวเอง แต่ก็ยังคงใช้เสน่ห์ที่เป็นธรรมชาติและเป็นจริงของเขาเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งสำหรับภาพยนตร์เวอร์ชันนี้และตัวตนที่น่ารังเกียจของเขาเอง

ด้วยเหตุนี้ นาย. พ่อ? มีความสนุกสนานมากมายผ่านชัยชนะในอดีตของ Cha – ภาพเก่า ๆ ของเขาในฐานะนักเต้นหัวใจเป็นหมอทีวีผู้กล้าหาญในฐานะศูนย์รวมของแบรนโดใน ป่าหนึ่ง พาดผ่านแฮนด์รถจักรยานยนต์ของเขาอย่างไม่เป็นทางการ ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มซบเซาเล็กน้อยในช่วงกลางขณะที่ดาววางแผนที่จะออกจากซากปรักหักพังและผู้จัดการของเขาก็พยายามหาทางแก้ปัญหาอย่างสิ้นหวังซึ่งถูกขัดขวางโดยภาพล้อเลียนในวงกว้างของคนขี้ขลาดในท้องถิ่น แต่ยิ่ง Cha

อยู่ในซากปรักหักพังนานเท่าไหร่และยิ่งเขาเข้าใกล้ความเพ้อเจ้อมากเท่าไหร่ความเป็นจริงของเขาก็เลื่อนลอย เห็นชะลอยเทียบกับทุ่งดวงดาวที่ยังคงห่อหุ้มด้วยปูนซีเมนต์ เขาเผชิญหน้ากับผู้จัดการของเขาที่ลอยอยู่บนก้อนหินและยังมีการแสดงออกที่แตกต่างกันของตัวเขาเอง มันเหมือนกับอะไรบางอย่างจาก Marvel Cinematic Universe

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกาแลคซีสีดำขนาดใหญ่เช่น Loki ทำธุรกิจสกปรกกับ Chitauri เพียง แต่เล่นเพื่อความขบขันเท่านั้น เมื่อ Cha เผชิญหน้ากับความเป็นจริงครั้งใหม่ของเขาอย่างแท้จริง – วงการบันเทิงนั้นอาจกีดกันเขา แต่ต้องมีใครตายก่อนจึงจะฟื้นคืนชีพ – เกิดอะไรขึ้นกับนายจ๋า? พบวิธีการห่อหุ้มทั้งหมดที่ตรงกับ Cha ทั้งสองเวอร์ชันในนิยายและในความเป็นจริง

จนทำให้ดูจบแบบง่ายๆ ว่างเปล่าไปหน่อย ถ้าไม่อินกับชาอินพโยที่เล่นเป็นตัวเองซ้อนในเรื่องก็อาจจะไม่สนุกเลยก็ได้ ตัวเรื่องเหมือนจะมีกำลังใจให้ตัวชาอินพโย ให้คนดูเอาใจช่วยจากเคราะห์กรรม แต่กลับไม่มีเลย ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง