รีวิว Pee-wee’s Big Holiday
จะเล่าเรื่องราว เชื่อไหมครับว่าหนังว่าด้วยชายต๊องๆ คนหนึ่ง เดินทางครึ่งประเทศเพื่อตามหาจักรยานสุดรักของตัวเองน่ะ จะกลายเป็นหนังสนุกและแจ้งเกิดให้ผู้กำกับคนหนึ่งของวงการฮอลลีวู้ดได้ ดูได้ที่ ดูหนัง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ มันเป็นไปแล้วนี่หน่า และผู้กำกับที่ว่าก็คือ Tim Burton นั่นเอง ผมได้ดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกตอนมันออกวีดีโอน่ะครับ น่าจะประมาณปี 2541 พอเห็นน่ะแทบช็อคเลยครับ ไม่นึกเหมือนกันว่า CVD จะเอามาออก ซึ่งตัวกระผมเองนั้นก็ชื่นชอบพี่ Tim อยู่แล้ว และรอมานานครับที่จะได้ดูงานกำกับหนังใหญ่ชื้นแรกของพี่ท่าน…
ดูจบก็บอกได้เลยครับว่าชอบจริงๆ เนื้อหาง่ายมากๆ ครับ ตัวเอกชื่อว่า พีวี เฮอร์แมน (Paul Reubens) หนุ่มผอมกระหร่องที่ชอบทำท่าประหลาดๆ และหัวเราะแบบเพี้ยนๆ กิจวัตรประจำวันของเขาคือการขี่จักรยานคันโปรดท่องเที่ยวไปทั่วทั้งเมือง สำหรับเขาแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปว่าเจ้าจักรยานคู่ใจนี่…
แล้ววันหนึ่ง… จักรยานคันโปรดของพีวีก็หายไป เท่านั้นล่ะครับพีวีเป็นเจ้าเข้าองค์ลง ตามสืบทั่วเมือง ถึงขนาดเรื่องชาวเมืองมาประชุมเพื่อตามสืบหาจักรยาน แต่ก็ไม่มีใครช่วยเขาได้เลย
พอจนตรอก เขาก็จำต้องไปขอให้แม่หมอประจำเมืองทำนายให้ แม่หมอก็ทำนายส่งๆ ไปล่ะครับว่ามันถูกขโมยไปที่อลาโม เมืองซาน อันโตนิโอ้ รัฐเท็กซัส พีวีของเราก็ลงทุนทุบกระปุกเดินทางไปตามหาจักรยานสุดที่รักกลับคืนมา แล้วระหว่างทางเขาก็เจอกับคนมากมายครับ ทั้งคนดี คนร้าย แก๊งมอเตอร์ไซค์สุดเข้ม และผีที่สิงอยู่บนไฮเวย์ คอยหลอกหลอนคนที่ผ่านไป!
เนื้อเรื่องดูไม่มีอะไร แต่สนุกนะครับ ดูเพลินมากๆ หนังเต็มไปด้วยอารมณ์ขันเพี้ยนๆ แบบ Tim Burton ที่ถือเป็นลายเซ็นต์หนึ่งของเขาเลยทีเดียวล่ะครับ ขณะเดียวกันดารานำอย่าง Reubens ก็เล่นได้เพี้ยนกำลังดี ไม่เว่อร์เกินเหตุด้วย เป็นตัวละครที่คุณต้องน่ารักและรำคาญในเวลาเดียวกันแน่นอนครับ
นอกจากนี่เป็นงานกำกับแรกของพี่ Tim แล้ว พี่ Danny Elfman คอมโพเซอร์คนทำดนตรีก็เพิ่งมาจับงานหนังใหญ่เป็นครั้งแรกเหมือนกันครับ และในที่สุดพวกเขาก็คู่บุญกันไปจนถึงปัจจุบัน จังหวะเพลงกับเนื้อหาของหนังถือว่าเข้ากันได้ดีเลยทีเดียวล่ะครับ
รีวิว Pee-wee’s Big Holiday
ความสนุกของหนังก็อยู่ที่ความเพี้ยนของพีวี และน่าติดตามว่าเขาจะไปเจอกับคนประเภทไหน หรือเจอกับอะไรอีก และที่สำคัญคือจะได้จักรยานคืนมาหรือไม่ เพราะทิศทางที่เขาเดินทางไปกับทิศทางที่จักรยานอยู่น่ะมันคนละทางกันเลยครับอย่าลืมไปรับชมที่ ดูหนังฟรี
ยอมรับครับว่าพี่ Tim แกเก่ง ทำหนังเนื้อหาง่ายๆ ให้ออกมาสนุกได้ และเขายังแทรกมุมคิดไม่เหมือนใครของเขาลงไปในหนังด้วยนะครับ อย่างมุมมองที่เขามีต่อเด็กที่มีพ่อแม่รวยและเอาแต่ใจ หรือแม่หมอดูที่เอาแต่ทำนายมั่วไปเรื่อยๆ และที่ขาดไม่ได้คือ มุมมองแง่สวยงามที่เขามีต่อสิ่งที่คนอื่นกลัวครับ… อย่างผีไงล่ะครับ แทนที่จะนำเสนอแบบน่ากลัว แต่เขากลับนำเสนอในอีกสไตล์หนึ่ง อันนี้ต้องลองไปดูเองครับ ผมบอกได้ว่าชอบช่วงที่ผีโผล่มากเลยล่ะ มันดูเป็นหนังพี่ Tim ดีจริงๆ
ความรู้สึกหลังดู
“วันหยุดที่ยิ่งใหญ่ของพี่วี” เป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่สร้างขึ้นสำหรับ Netflix โดยเฉพาะและจะเข้าฉายในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากได้ดู ฉันคิดว่าถ้าคุณรักหนังเรื่องแรกของพอล รูเบนส์ เรื่อง “การผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของพี่วี” คุณจะรักภาพนี้เช่นกัน และถ้า “Pee-Wee’s Big Adventure” ไม่ใช่ความคิดที่สนุก คุณจะพบว่าการดูเรื่องนี้ยาก ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์
สำหรับฉัน ฉันสนุกกับมันและคิดว่ามันเป็นหนังที่น่ารักมาก…และไม่มากไปกว่านี้ แต่ในกรณีของฉัน ฉันคิดว่ามันเพียงพอแล้ว รูปแบบของหนังค่อนข้างจะเหมือนกับในภาพยนตร์เรื่องที่แล้ว…พี่วีออกจากเมืองเล็กๆ ของเขาและเดินทางข้ามอเมริกา ระหว่างทาง เขามีการผจญภัยที่หลากหลาย พบปะผู้คนที่น่ารัก และทำให้ชีวิตของทุกคนที่เขาพบสดใสขึ้น ทำไมเขาถึงออกจากเมืองของเขา? เพราะเขาเพิ่งได้พบกับดาราหนัง โจ แมงกานีลโล (“เมจิก ไมค์”) และทั้งคู่ก็สนิทสนมกันและกลายเป็นเพื่อนกันทันที…และโจเชิญพี่วีไปงานวันเกิดยักษ์ที่นิวยอร์ก
แต่พี่วีต้องเอาชนะความกลัวที่จะออกจากเมืองให้ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต…ซึ่งนั่นก็หมายความว่า พี่วีจำหนังภาคแรกไม่ได้เลย! การผลิต Apatow-Rubens นี้น่ารับชมและสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือสไตล์ที่ยอดเยี่ยม บ้านเกิดของ Pee-Wee มีความย้อนยุคในทุก ๆ ด้าน…เหมือนละครทีวีในปี 1950 ในชีวิตจริง ทุกคนน่ารัก รถยนต์ทุกคันล้วนเป็นรุ่น 50s ที่งดงาม และมีกลิ่นอายของความคิดถึงที่แข็งแกร่งมาก Pee-Wee คือ Pee-Wee … และถ้าคุณชอบ shtick ของเขาจากภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยสองเรื่องก่อนหน้าของเขา
(เขายังสร้าง Big Top Pee-Wee ที่โด่งดังน้อยกว่า) คุณจะสนุกกับสิ่งนี้เช่นกัน สิ่งเดียวที่ฉันไม่ชอบก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้มีความเสี่ยงน้อยมาก เป็นภาพยนตร์เรื่องแรก (และดีที่สุด) ของเขาอีกครั้งในหลาย ๆ ด้าน นอกจากนี้ยังมีซีเควนซ์ที่เกี่ยวข้องกับบอลลูนและอามิชที่ยาวเกินไปหน่อย แต่อย่างอื่นก็เป็นหนังที่ดีสำหรับครอบครัว พ่อแม่ที่ชอบพี่วีและลูกๆ ที่อดไม่ได้ที่จะชอบผู้ชายคนนี้ มันจะเปลี่ยนชีวิตคุณไหม? ไม่น้อย…แต่มันก็ดี สนุก และคุ้มค่าเวลาของคุณ
หนังพี่วีเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกะภาคก่อนๆ Pee-Wee (Paul Reubens) ซิกเนเจอร์ของเหตุการณ์เขาวงกตที่สร้างภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาและเกม Mousetrap ที่สนุกมาก Pee-Wee ไม่เคยออกจากเมือง แต่ได้พบกับคู่หูของเขาใน Joe Manganiello ที่เชิญเขาไปงานวันเกิดของเขาในนิวยอร์ค พี่วีเริ่มต้นการผจญภัยแบบวิบาก กับการผจญภัยสั้นๆ ที่ตลกขบขันแต่ไม่ขาดความตลกขบขัน เจสสิก้า โพห์ลีเล่นเป็นเอลวิราที่ดูเหี่ยวย่น ซึ่งพอล รูเบนส์เคยเดทด้วย ฉันไม่รู้ว่ามีข้อความอยู่ที่นั่นหรือไม่ แม้ว่าเธอจะคลำหาตัวเองก็ตาม หนังดีสำหรับแฟนพี่วี
การพบกันครั้งสำคัญกับคนแปลกหน้าลึกลับเป็นแรงบันดาลใจให้ Pee-wee Herman ไปเที่ยวพักผ่อนครั้งแรกในเรื่องราวมหากาพย์แห่งมิตรภาพและโชคชะตา ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง และไม่เคยไปถึงระดับของ “การผจญภัยครั้งใหญ่ของพี่วี” แต่ก็ยังเป็นหนังที่สนุกที่มีตัวละครและสถานการณ์ที่น่าสนใจมากมาย
หากภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร (บทวิจารณ์โดยทั่วไปเป็นไปในเชิงบวก) ฉันหวังว่าพวกเขาจะได้ภาพยนตร์เรื่องอื่นในเร็ว ๆ นี้ ด้วย Judd Apatow และ Paul Rust บนเรือ Pee-Wee กลับมาแล้ว! ฉันพบว่ามันน่าสนใจที่พวกเขารักษาปัจจัยคนดังไว้ค่อนข้างต่ำ ด้วยชื่อที่แนบ พวกเขาสามารถมีกระแสดารารับเชิญมากมายไม่รู้จบ
แต่มันเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่มากก็น้อย นักแสดงกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักจากใบหน้ามากกว่าชื่อ (หลายครั้งตลอดทั้งเรื่อง ฉันต้องมองหานักแสดงที่แตกต่างกันเพื่อสร้างความเชื่อมโยง เช่น ชาวนา บราวน์เป็นนักแสดงคนเดียวกับที่เล่นเป็นพ่อของเท็ดใน “บิลกับเท็ด”
Paul Reubens ชุบชีวิตการสร้างเอลฟิน Pee-wee Herman ให้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไป 28 ปี แต่โดยทั่วไปแล้วสาย Lightning ตลกก็ล้มเหลวอีกครั้ง ส่วนใหญ่เกิดจากความเฉื่อยของ Reubens ทั้งในฐานะนักเขียนร่วมและดารา เช่นเดียวกับการผลิตที่บวมจนทำให้ Pee – โลกของ wee เข้าสู่หนังสือการ์ตูนแฟนตาซียุค 50 (โลกที่ปลอดภัยและปลอดเชื้อจาก “The Archies”)
Joe Manganiello รับบทเป็นนักแสดงหนุ่มเจ้าชู้แต่อ่อนไหว ซึ่งได้พบกับ Pee-wee ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่ง Pee-wee ทำงานเป็นพ่อครัวสั่งอาหารระยะสั้น (!) พวกเขาผูกพันกับรูทเบียร์แคนดี้ (!) และแมงกาเนลโลช่วยเฮอร์แมนลืมปัญหาล่าสุดของเขา ดูเหมือนว่าวงดนตรีของพีวีจะเลิกรากันแล้ว พี่วีร้องเพลง? ในที่สุด
แต่ไม่มีอะไรน่าสนใจอีกแล้วในการเดินทางของฮีโร่ของเราไปยังนิวยอร์กซิตี้หลังจากที่พี่น้องเนื้อคู่ของเขาเชิญเด็กที่โตเกินไปมาที่งานเลี้ยงวันเกิดที่เต็มไปด้วยดาราของเขา ผู้ที่มีความสามารถหลายคนมีส่วนร่วมในการผลิต Netflix นี้ แต่การสนับสนุนเรื่องตลกส่วนใหญ่ก็ยืนหยัดโดยไม่มีอะไรฉลาดที่จะพูดไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟร
เป็นภาพยนตร์ที่ว่างเปล่าและมีบทสนทนาที่สั่นคลอนซึ่งเมื่อพี่วีพูดโต้กลับอย่างตลกขบขัน มันจะใช้เวลาสองสามวินาทีในการรับเรื่องตลก รูเบนส์สวมสูทสีเทาย้อนยุคและผูกโบว์สีแดงที่คุ้นเคย เขาตัดผมและแต่งหน้าได้ถูกต้อง แต่เขาก็ยังพยายามหาเสียงที่ตลกขบขันของพี่วี นี่คือพี่ฉวีผู้เฒ่าผู้ถูกต่อยด้วยความผิดหวังในชีวิต แทนที่จะต้อนรับคนนอกตัวการ์ตูนเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง Pee-wee Herman ได้กลายเป็นหนึ่งในพวกเราในที่สุด
ฉันไม่ได้มีความคาดหวังสูงสำหรับสิ่งนี้จริงๆ แต่ฉันพบว่าตัวเองสนุกกับมัน ตอนแรกฉันรู้สึกท้อแท้กับการแต่งหน้าหนักๆ ของ Paul Reubens เพื่อพยายามปกปิดอายุของเขา บวกกับความเป็นจริงที่น่าเศร้าที่ Reubens ไม่สามารถพากย์เสียง Pee Wee ที่โดดเด่นได้อีกต่อไป ดังนั้น ในช่วงสองสามนาทีแรกนี้ ฉันจึงสงสัยว่าฉันจะทำมันให้เสร็จได้ แต่ฉันก็ค่อยๆ มองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป
เพราะมันตลกและมีเสน่ห์ด้วยวิธีการซ้ำซากจำเจที่ทำให้นึกถึงหนังเก่าๆ และละครทีวี ไม่ใช่ทุกมุขที่ใช้ได้ผล แต่ฉันคิดว่าส่วนใหญ่อย่างน้อยก็ควรค่าแก่การหัวเราะคิกคัก มีมุขที่เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับบอลลูน ณ จุดหนึ่งที่ทำให้ฉันถูกเย็บแผล ในยุคที่การ์ตูนสแตนด์อัพทุกเรื่องใช้อารมณ์ขันเชิงสังเกตที่ซ้ำซาก
และภาพยนตร์ตลกทุกเรื่องดูเหมือนว่าจะอาศัยมุกตลก การได้เห็นบางสิ่งพิสูจน์ว่าอารมณ์ขัน “โรงเรียนเก่า” ยังคงใช้ได้ผลนั้นทำให้รู้สึกสดชื่น เมื่อคุณผ่านการแต่งหน้าและเสียงอันน่าขนลุกได้แล้ว มันจะเป็นหนังที่สนุก แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นการออกกำลังกายเพื่อความคิดถึงสำหรับพวกเราที่โตมากับการดู Pee Wee แต่ฉันไม่คิดว่านั่นเป็นแง่ลบ
หลังจากเงียบไปนานหลายปี นักแสดง Paul Reubens ได้นำตัวละคร Pee-wee Herman ของเขากลับมาสำหรับภาพยนตร์พิเศษของ Netflix เรื่องนี้ คุณอาจคิดว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาในการรักษาตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ของเขาให้พ้นจากไฟแก็ซ รูเบนส์จะคิดโครงเรื่องสำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่จะมีความเป็นต้นฉบับมากขึ้น แต่นั่นไม่ใช่กรณีจริงๆ
เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับภาพยนตร์เรื่อง “Pee-wee’s Big Adventure” ในปี 1985 ที่มีฉากและช่วงเวลาที่แต่ละฉากให้ความรู้สึกเดจาวูที่แข็งแกร่ง แม้แต่ชื่อเรื่องของหนังทั้งสองเรื่องก็ยังมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก! แต่ฉันเดาว่าสิ่งที่สำคัญจริงๆ คือหนังเรื่องใหม่นี้จะตลกหรือไม่ มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่รวดเร็ว ไม่น่าเบื่อ และมีบางช่วงเวลาที่น่าขบขันอย่างแท้จริงที่นี่และที่นั่น
บางส่วนเข้าใกล้เวทมนตร์ Pee-wee แบบเก่า แต่บ่อยครั้งที่มุขตลกรู้สึกเหมือนขาดอารมณ์ขันที่หลุดออกมาจากบทภาพยนตร์ปี 1985 ฉันคิดว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ตลกเท่าที่ควรก็คือการที่ผู้กำกับจอห์น ลีไม่ใช่ทิม เบอร์ตัน แม้ว่าตามความเป็นจริงแล้วเขากำลังทำงานด้วยงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด ฉันจะให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างไรก็ตาม: มันดีกว่า “บิ๊กท็อปพีวี”
สรุปเอาง่าย ๆ ให้เข้าใและยังเป็นหนังสนุกแบบเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูเพลินอีกด้วย สนุกกำลังดี ไม่น่าแปลกใจที่ทำเงินไป $40 ล้านได้ ถือว่าไม่น้อยนะครับ สำหรับหนังเล็กๆ ที่กำกับโดยผู้กำกับมือใหม่ในขณะนั้น ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง
