รีวิว สายลับจับบ้านเล็ก

เริ่มเล่าเรื่องภาพยนตร์เรื่องนี้ สายลับจับบ้านเล็ก เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ คมกฤษ ตรีวิมล ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของ จ๊อก นักสืบหนุ่มมือใหม่คนหนึ่งที่รับสืบเรื่องราวต่าง ๆ โดยเขา เปิดกิจการซ่อมโทรทัศน์ไว้บังหน้า ซึ่งเรื่องที่เขาต้องทำการสืบเรื่องล่าสุดก็เป็นเรื่องที่ทำให้เขาหนักใจและเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

ซึ่งอย่างนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ที่มารับบทเป็น จ๊อก นักสืบหนุ่มมือใหม่ ที่ยังอ่อนต่อประสบการณ์ แต่ก็มีจุดขายไม่เหมือนใครเพราะเขารับสืบบ้านเล็กนั้นเอง

คนต่อมาคือเฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ มารับบทเป็น แจ็ค เด็กในร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ที่เข้าใจมาโดยตลอดว่าจ๊อกเป็นนักสืบชื่อดังและทำเงินได้จากสืบมากมาย คนต่อมาคือปณิสรา พิมพ์ปรุ มารับบทเป็น ฤทัย เจ๊เจ้าของร้านคาราโอเกะที่ชอบมาแทะโลมจ๊อก เธอทำหน้าที่เป็นคนที่คอยช่วยเฝ้ายามเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน คนต่อมาคือจารุภัส ปัทมศิริ มารับบทเป็น คุณนายเสาวภา ผู้ว่าจ้างรายใหม่ที่เสนอเงินก้อนโตให้จ๊อก เพื่อตามจับพฤติกรรมการซุกเด็กของสามี

แล้วคนต่อมาคือปะกาศิต โบสุวรรณ มารับบทเป็น สารวัตรวศิน สามีของคุณนายเสาวภา ที่ไปติดพันพริตตี้ชื่อว่า น้องน้ำปั่น และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ มารับบทเป็น น้ำปั่น พริตตี้สาวสวยที่ดันแอบไปมีความสัมพันกับสามีชาวบ้าน โดยภาพยนตร์เรื่อง สายลับจับบ้านเล็ก เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2558

เรื่องยอ่ ภาพยนตร์เรื่อง สายลับจับบ้านเล็ก เปิดเรื่องราวมาที่จ๊อก ชายหนุ่มที่กำลังร้อนเงินเพราะก่อนหน้าได้ไปกู้เงินเพื่อเปิดร้านหมูกระทะพลังแสงอาทิตย์ แต่กิจการดันเจ๊ง เป็นเหตุให้โดนแก๊งทวงหนี้มาตามทวง

เขาจึงจำเป็นที่จะต้องผันตัวเองมาเป็นนักสืบบ้านเล็กหรือนักสืบชู้ โดยมี แจ๊ค เด็กร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ที่เข้าใจว่าจ๊อกเป็นนักสืบชื่อดัง กับ ฤทัย เจ๊ร้านคาราโอเกะ มาคอยมาช่วยเหลือและเป็นยามจำเป็นให้ วันหนึ่งมีคดีใหม่เข้ามาจาก คุณนายอรัญญา โดยเธอเสนอเงินก้อนโตให้จ๊อก เพื่อให้เขาช่วยตามจับพฤติกรรมของ สารวัตรวศิน สามีที่ไปติดพันพริตตี้สาวที่ชื่อ น้องน้ำปั่น

น้องน้ำปั่น ก็ดันแอบมีกิ๊กเป็น เสี่ยอดิสรณ์ เสี่ยเต็นท์รถรายใหญ่อยู่อีกคน เมื่อ คุณหญิงสุวิมล ภรรยาของเสี่ยอดิสรณ์จ้าง สุทิน นักสืบอีกคนเพื่อแบล็กเมล์น้ำปั่นอีกต่อหนึ่ง จ๊อกตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือน้องน้ำปั่น แล้วเรื่องราววุ่นๆจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามชมในภาพยนตร์เรื่อง สายลับจับบ้านเล็ก

เริ่มจาก “จ๊อก” “(ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์)” นักสืบกิ๊กก๊อกที่ดูเหมือนจะไม่เอาอ่าวเท่าไหร่ เพราะนอกงานที่เจ้าตัวทำจะแลดูหาความมั่นคงในชีวิตไม่ได้ เขายังรักที่จะคิดนู่นประดิษฐ์นี่ ซึ่งคนอื่นอาจจะมองว่าไร้สาระอยู่เป็นประจำ ถึงอย่างนั้น ผู้ชายอย่างจ๊อกก็ยังเรียกว่าน่านับถือ เพราะเขาซื่อสัตย์กับความชอบของตัวเอง ด้วยการทำในสิ่งที่เชื่อต่อไปไม่ใช่แค่สิ่งของ จ๊อกยังเชื่อมั่นในหัวใจตัวเอง มากกว่าจะเชื่อคำพิพากษาของสังคม จะมีผู้ชายสักกี่คนที่เป็นได้อย่างจ๊อก รักและจริงใจกับผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็น “เมียน้อย”?ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟร

 

 

เกี่ยวกับความในใจของนักเเสดง

พีค สวยต้องใจ เอส ผู้กำกับ สอบผ่านบทนางเอก สายลับจับบ้านเล็ก เอส-คมกฤษ ตรีวิมล ผู้กำกับเพื่อนสนิท เตรียมกำกับหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ “สายลับจับบ้านเล็ก” ค่าย จีทีเอช โดยคัดเลือกนางเอกมารับบท “น้ำปั่น” กว่า 100 คน กว่าจะมาลงตัวที่ พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ

เอส เผยว่า “กว่าจะได้นางเอกเรื่องนี้ ผมต้องใช้เวลาคัดเลือกกว่า 3 เดือน จากผู้หญิงทั่ววงการกว่า 100 คน ไม่ว่าจะมาจากนักแสดง นางแบบ นางเอกหน้าใหม่ เราแคสทั้งที่เป็นดารามืออาชีพ แต่ก็หายากมากกับบท น้ำปั่น เพราะตัวละครตัวนี้ ต้องมีรูปลักษณ์ที่เราเห็นแล้วเราต้องชอบเค้าเลย ถ้าเป็นเสี่ยเห็นก็ต้องคนนี้แหละที่อยากให้มาเป็นบ้านเล็ก

และตัวละครตัวนี้ต้องมีความคิดชั้นเดียว ไม่ใช่คนกร้านโลก ไม่มีความคิดซับซ้อน ไม่มีแผนอะไรในใจ ทุกอย่างที่น้ำปั่นทำลงไป เพราะคิดแค่มุมเดียว ผมอยากให้ดูใสๆ พอมาเจอ น้องพีค เค้าคือคนที่ใช่เลย ยิ่งตอนที่คัดเลือกเหลือ 2 คน แล้วมาเข้าฉากกับ ซันนี่ เอามาเล่นคู่กัน ว่าใครเข้ากับซันนี่ได้มากกว่า ปรากฏว่าพีคเหมาะสมมาก ซึ่งซันนี่ก็โอ.เค เพราะพีคเหมาะกับบทนี้มาก ที่สำคัญคือเราปรับลุคพีคแค่ให้ดูโตขึ้นเท่านั้น นอกนั้นคือตัวเค้าทั้งหมด และพีคเป็นเด็กที่ตั้งใจมาก ให้ทำอะไรก็ทำ ให้เล่นอะไรก็ได้โดยไม่มีข้อแม้เลยครับ น้องน่ารักจริงๆ

ซันนี่ เขิน พีค โดนจ้องตาใจละลาย เข้าฉาก สายลับจับบ้านเล็ก ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ พระเอกคู่บุญ เอส-คมกฤษ ตรีวิมล ในหนัง “สายลับจับบ้านเล็ก” ค่าย จีทีเอช เกิดอาการเขินหน้าแดงเมื่อถูกนางเอกน้องใหม่ พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ แกล้งสบตา

ซันนี่ เผยว่า “ผมเพิ่งได้ร่วมงานกับพีคเป็นครั้งแรก ทำให้รู้ว่าพีคเป็นเด็กน่ารักมาก มีความตั้งใจในการทำงานสูงแต่ก็ชอบแกล้ง ชอบอำ อย่างเข้าฉากกุ๊กกิ๊กด้วยกัน ยอมรับว่ามีเขินบ้าง ก็แหมเวลามีสาวๆ ที่ไหนมาจ้องตาเรา ก็ต้องเขินเป็นธรรมดาแหละครับ แต่นี่เป็นพีค ที่ชอบแกล้งผมอยู่แล้วมานั่งมองตาผมผมก็ต้องเขินซิครับ แต่พอเข้าฉากผมต้องเป็นจ๊อก

 

รีวิว สายลับจับบ้านเล็ก

 

แล้วพีคเป็นน้ำปั่น เราจะเขินไม่ได้เพราะตัวละครในเรื่องไม่เขินเราก็ต้องเล่นให้ได้ และในเรื่องผมต้องเข้าฉากกับพีคตลอด ตอนหลังเริ่มจับทางได้ เวลาถูกพีคแกล้งก็จะไม่เขิน ยิ่งรู้จักกันมากขึ้นจะรู้ว่าพีคเป็นเด็กที่ตลกมากบุคลิกก็ขำเสียงสูงปรี๊ด เวลามากองถ่าย เสียงจะมาก่อนตัว นอกจากมีฉากกุ๊กกิ๊กแล้ว ในเรื่องนี้ผมเล่นเป็นนักสืบไปถ่ายรูปเป้าหมาย จึงต้องปลอมตัวเป็นหลายๆ อย่าง ทั้งพนักงานส่งพิซซ่า, อาบังขายผ้า ฯลฯ เป็นหนังที่สนุกมาก ไม่ซ้ำกับภาพไข่ย้อยในเพื่อนสนิทด้วยครับ

โอปอล์ สนุกสนานร่วมงาน ซันนี่-แจ็ค โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ นักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรง เปิดใจสนุกสนานได้ร่วมงานกับผู้กำกับเพื่อนสนิท เอส-คมกฤษ ตรีวิมล ในหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ เรื่องล่าสุด “สายลับจับบ้านเล็ก” ค่าย จีทีเอช

โอปอล์ เผยว่า “โอปอล์ดีใจที่ได้กลับมาร่วมงานกับพี่เอสและซันนี่อีกครั้งหลังจากหนังเพื่อนสนิท ที่พวกเราสนิทกันมาก ตอนนั้นบอกพี่เอสว่าถ้ามีหนังเรื่องใหม่อย่าลืมพวกเรานะ แล้วพอพี่เอสได้ทำหนังเรื่องใหม่ ก็มีบทติดต่อมาให้โอปอล์เล่นทันที เป็นบทฤทัย ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกที่ตัวละครอายุเท่าปอล์จริงๆ เพราะทุกเรื่องที่ผ่านมาบทที่ได้ในเรื่องจะแก่กว่าเราตลอด

และเรื่องนี้ยังได้เล่นกับ แจ็ค-แฟนฉัน ซึ่งพอได้ร่วมงานกันสนุกมาก แจ็คเป็นเด็กที่ตั้งใจทำงานมากๆ บางวันมากองถ่ายเราก็อยากมีอารมณ์ชิวๆ แต่พอเจอความตั้งใจของแจ็คที่ทุ่มเทกับงานมาก มันทำให้เราต้องแอ็คทีฟ เต็มที่ไปด้วย และซันนี่กับแจ็คจะชอบมากดดันปอล์ เวลาปอล์เข้าฉากก็จะมานั่งไขว่ห้างอยู่หน้าจอมอนิเตอร์แล้วบอกว่าทำให้ดีนะ เพราะแจ็คเล่นแล้วได้มุกไป 1 ดอก ส่วนซันนี่ก็รอดตัว เหลือแต่เราก็เลยกดดัน แต่พอตอนหลังเราเลิกกดดันกันเอง หันมาเล่นกันเป็นทีมเวิร์ค คือทั้ง 3 คนช่วยกันให้แต่ละซีนผ่านพ้นไปได้ เป็นกองถ่ายที่สนุกมาก ปกติคนเราย่อมมีเหนื่อยบางวันไม่อยากตื่นมาทำงาน แต่หนังเรื่องนี้ปอล์อยากตื่นมาทำงานทุกวัน เป็นหนังอีกเรื่องที่ปอล์ชอบมากค่ะ”

รีวิว สายลับจับบ้านเล็ก

ทั้งนี้ องค์ประกอบที่ว่ามาอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้คนดูหลงรัก “จ๊อก” ได้ หากนักแสดงไม่ได้ชื่อ “ซันนี่” ผู้ไม่เชื่อในการ “เล่นใหญ่” หากศรัทธาในการแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า “แจ๊ค” “(เฉลิมพล ทิฑัมพรธีรวงศ์)” หนุ่มน้อยวัยคะนองที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักสืบ แต่นั่นก็ไม่น่าสนใจเท่ากับ การที่แจ๊ครักที่จะพูดคำว่า “ไอ้สัตว์,ไอ้.. ฯลฯไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

โดยไม่สนใจสังคมว่าจะประณามว่าหยาบช้าสักแค่ไหน (เพราะแจ๊คไม่รู้ว่ามีคนอื่นฟังอยู่-แต่ผู้กำกับฯและคนเขียนบทรู้?) ซึ่งน่าแปลกที่คำ “ไอ้สัตว์” ของแจ๊ค กลับทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นเยอะ เพราะมันทำให้คนทั้งโรงหัวเราะอย่างไม่ลืมหูลืมตา แจ๊คไม่ได้ด่า เขาแค่คะนองไปบ้าง เขา(แจ๊ค ผู้กำกับฯและคนเขียนบท) แค่อยากให้เราขำ และมันก็ได้ผล

แต่ถ้าผู้กำกับฯคนไหนให้ตัวละครของตัวเองพูดคำนี้ แล้วตลกฝืดเหลือเกิน โปรดจงหยุดการกระทำของท่านเถิด เพราะการทำให้คนดูหัวเราะไม่ออก (ทั้งๆ ที่ดูรู้ว่าตรงนี้กะฮา) นั้น ร้ายกาจกว่าการสบถด่าออกมาตรงๆ เสียอีก “ฤทัย” “(โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ)” สาวเจ้าของร้านคาราโอเกะ (ซึ่งทั้งเรื่อง ก็เห็นมีแต่เจ้าหล่อนและผองเพื่อนที่ร้องอยู่นั่น หามีลูกค้าสักคนไม่) ฤทัยอาจไม่น่าหลงรักขนาดนี้

ถ้านักแสดงไม่ใช่โอปอล์ ที่ขโมยซีนมาแล้วจากหนังทุกเรื่อง แม้ว่าในเรื่องนี้ โอปอล์จะทำไม่สำเร็จ เพราะ”จ็อก” ที่แสดงโดยซันนี่ฮากว่าเยอะก็ตาม อนึ่ง เชื่อว่าถ้าเรื่องนี้โอปอล์เป็นนางเอก สองคนนี้อาจจะกินกันไม่ลงก็ได้ ว่าแต่มันจะกลายเป็นหนังบ้าอะไรกันล่ะ ถ้าพระเอกนางเอกมัวแต่จะมาฮาแตกกันทั้งเรื่อง? ฉะนั้น

การที่โอปอล์กลับไปอยู่ในที่ของตัวเอง น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว ตามด้วย “เจมส์ บอนด์” ซึ่งรับบทโดย “ริชาร์ด” นักแสดงผู้จะมาแย่งตำแหน่ง “เล่นทุกเรื่อง” จาก “โก๊ะตี๋ อารามบอย” ในไม่ช้า เพราะนอกจาก “มะหมา 4 ขาครับ” ตามด้วยเรื่องนี้ ริชาร์ดยังมี “ครอบครัวตัวดำ” อีกเรื่องที่จะได้ร่วมอวดความสามารถ แรกเริ่มเราอาจไม่เข้าใจว่าน้องหมาตัวนี้มาทำอะไรในหนัง เพราะไม่มีแก พวกพี่ๆ เขาก็อยู่กันได้ แต่แล้วคนดูก็จะเข้าใจได้ในที่สุดว่ามันสำคัญกับเรื่องอย่างไร ฉะนั้น ถึงบางคนจะใจแข็งเป็นหินจนรักสุนัขแสนรู้ตัวนี้ไม่ลง

แต่อย่างน้อยคนเขียนบทก็ต้องหลงรักมันมาก เพราะถ้าไม่มีมัน ฉัน (คนเขียน) จะหาทางลงได้อย่างไร “สุทิน” “(นิมิต ลักษมีพงศ์)” นักสืบจอมโหดที่ควรจะถูกคนดูเกลียด แต่หนังก็ทำให้เขาเป็นตัวละครที่มีด้านมืดด้านสว่าง ด้วยการให้สุทินเป็นคนรักสุนัขสุดหัวใจ ราวกับจะตอกย้ำความเชื่อที่ว่าคนที่คุณเห็นว่าเลว เอาเข้าจริง เขายังมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่อาจเห็น สุทินอาจยังไม่ชัดพอ ต้อง “น้ำปั่น” “(พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ)” สิ กรณีตัวอย่างของจริง น้ำปั่นเป็นเมียน้อย ที่ทำให้ใครหลายคนนึกถึงตัวเอง

 

รีวิว สายลับจับบ้านเล็ก

 

โดยเฉพาะคนที่ฝันอยากมีบ้าน น้ำปั่นอยากมีบ้านสวยๆ ซึ่งใครหลายคนก็เป็นอย่างนั้น คอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เวลาได้เห็นบ้านสวยๆ ในหนังสือ ออกเล่มใหม่ก็ไปหามาดูอีก ทั้งๆที่ให้ตายยังไงก็ไม่มีปัญญาซื้อหรอก น้ำปั่นเองก็ไม่สามารถ เธอทำได้แค่ซื้อหนังสือแต่งบ้านมานั่งฝัน ซื้อโมเดลมานั่งตกแต่งเล่นๆ แต่น้ำปั่นอาจแตกต่างจากบางคน ตรงที่เธอไม่ยอมฝันอย่างเดียว

แต่จะทำให้เป็นจริงให้ได้ ทว่าหนทางที่เธอเลือกเดิน กลับไม่ใช่ทางที่เหมาะสม เพราะน้ำปั่นเลือกที่จะเป็น “บ้านเล็ก” ของเสี่ยกระเป๋าหนัก ก่อนจะมีบ้านหลังใหญ่เป็นของตัวเอง ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังเป็นตัวละครที่คนดูหลงรักได้ เพราะแม้จะเคยทำผิดยังไง ที่สุดแล้ว “บ้านเล็ก” คนนี้ ก็มีหัวใจไม่ต่างจากคนอื่นเลย คนสุดท้าย “คุณ” ซึ่งแสดงโดยคุณนั่นแหละ คุณอาจจะเป็นคนที่ดูไม่มีอนาคตในสายตาคนอื่น

ความรู้สึกหลังดู

ความประทับใจของเรื่องนี้ คือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งสนุกทั้งฮากันเลย จากเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนชวนติดตาม และเหล่านักแสดงมืออาชีพที่ถ่ายทอดความเป็นตัวละครนั้นๆออกมาได้เป็นอย่างดี ต้องดูนะคะกับภาพยนตร์เรื่อง สายลับจับบ้านเล็ก รับรองไม่ผิดหวังค่ะ ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

เรื่องนางเอกน่ารักคงไม่ต้องพูดถึง ใจละลายเลอะโรงหนังไปเรียบร้อย คิดดูสิ ผู้ชายทั้งโรงเอาแต่มองน้องอย่างไม่วางตา ยามที่น้องเขาโผล่ออกมาเลยอะ ถามตัวเองดู ว่าจริงหรือเปล่า

ซันนี่ในเรื่องแสดงออกมาให้เห็นว่า เขาไม่ได้เป็นแค่ผู้ชายเฉิ่มๆ อย่างที่เห็นใน “เพื่อนสนิท” แต่มันเพี้ยนและกวนตีนกว่าที่เราเคยเห็นเป็นไหนๆ โอปอล์และแจ็คแสดงกันได้เข้าขา เป็นตัวชูรสอย่างดี แต่ให้งงว่า แจ็คเนี่ยมันรุ่นเดียวกับโอปอล์เหรอฟะ!

เป็นหนังที่รวมคนจากหนังเรื่องต่างๆ มาอยู่ในเรื่องเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ปิ๊ง อดิสรณ์ คนเขียนบท ผู้กำกับหมากเตะฯ ที่คราวนี้มาเป็นมาเฟียซะงั้น เอ๋และนุ่น จากเพื่อนสนิท ก็มา หนูหิ่น ก็ยังมากะเขาด้วย ไม่พอ ยังมีเซอร์ไพรส์ โอปอล์แต่งตัวคล้ายใคร ก็คนนั้นแหละมา ช่างหามุกมาเล่นกะหนังตัวเองซะจริง

ในหนังยังลูกเล่นอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นชื่อหมู่บ้านที่น้ำปั่นฝันอยากได้ ชื่อร้านบะหมี่ข้างทาง ก็แว้บๆ ว่าชื่อมันแปลกๆ อาจมีอีก ขอเชิญไปจับผิดเอาในโรง เป็นหนังที่ตลกได้น่ารัก แม้จะมีภาษาหยาบคายบ้างแต่รู้สึกได้ว่า มันแนบสนิทกับตัวหนัง ไม่ได้หยาบแล้วโดดออกมาเหมือนเรื่องก่อนที่ผมไปดู เรื่องนี้ เราขำกลิ้งกันได้ตลอดเรื่อง จนรู้สึกไปได้ว่า “หนังมันจบเร็วเกินไปหรือเปล่าวะ”

ตอนจบ อย่างที่บางคนว่าไว้ กำลังจะอินกับซีนนั้นอยู่เลย ตัดฉับซะงั้น โหย น้ำตากำลังเอ่อออกมาละ ดันตัดซะได้ หมดกัน ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียวเว็บรีวิวหนัง