รีวิว Johnny English
เนื้อเรื่อง เมื่อระบบความมั่นคงถูกแฮ็คจนสายลับในเอ็มไอเซเว่นถูกเปิดโปง นายกหญิงแห่งเกาะอังกฤษ (เอ็มมา ธอมป์สัน) ก็จำใจในระดับกล้ำกลืนฝืนทนเรียกตัว จอห์นนี อิงลิช (โรแวน แอตคินสัน) สายลับเพียงหนึ่งเดียวที่ยังไม่ถูกเปิดโปงมาสืบหาอาชญากรไซเบอร์ก่อนที่โลกจะถูกครอบงำด้วยบิ๊กดาต้าในมือของทรชน โดยมี โอฟีเลีย (โอลกา คูริเลนโก) สายลับสาวสุดร้อนแรงที่ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรูคอยเป็นหอกข้างแคร่ในปฏิบัติการที่สายลับแห่งโลกอนาล็อคต้องต่อกรกับวายร้ายยุคใหม่โดยมีอินเตอร์เน็ตและความมั่นคงเป็นเดิมพัน ดูได้ที่ ดูหนัง
การกลับมาของสายลับ จอห์นนี่ อิงลิช เป็นครั้งที่ 3 ทิ้งห่างจาก Johnny English Reborn (2011) ภาคที่แล้วเพียง 7 ปีเท่านั้น แต่หนังยังคงมาในสูตรเดิมทั้งพล็อตที่่ต้องเริ่มจาก จอห์นนี่ อิงลิช คือสายลับที่ไม่มีใครต้องการแต่กลับกลายเป็นความหวังเดียวของอังกฤษที่คอยแต่จะสร้างปัญหาปวดหัวให้ทางการก่อนจะแก้ไขสถานการณ์ให้โลกสงบสุขได้แบบฟลุ๊คๆ
ซึ่งโดยโครงเรื่องแล้วก็แทบไม่ต่างจากทั้ง 2 ภาคที่ผ่านมาที่เป็นการเล่นตลกท่าทางกึ่งวันแมนโชว์ของ โรแวน แอตคินสัน ที่เน้นเอาความเปิ่นความเฟอะฟะเกินจะเป็นสายลับได้มาสร้างเสียงหัวเราะให้คนดูได้หายคิดถึง มิสเตอร์บีน ซึ่งโรแวนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง หลายมุกที่เหมือนจะไม่รอดพอได้จังหวะการเล่นตลกท่าทาง (comedy of manner) อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาช่วยไว้ก็ทำให้คนดูได้ก๊ากดังๆได้หลายครืนอยู่นะ
ซึ่งแต่สิ่งที่ภาคนี้ดูจะเน้นเป็นพิเศษคือการให้จอห์นนี่ อิงลิชเป็นตัวแทนสายลับฉบับอนาล็อคผู้ปฏิเสธสมาร์ตโฟนเพราะไม่อยากถูกติดตาม ขับรถแอสตัน มาร์ติน ที่ซดน้ำมันเป็นว่าเล่นแทนรถไฮบริดหรือการเรียกหาแต่แกตเจ็ตสุดล้ำที่เป็นทั้งอาวุธและเครื่องมือเสริมบารมี ซึ่งไม่ต้องเป็นคอหนังระดับฮาร์ดคอร์ก็คงพอเดาออกว่านี่คือภาพจำมาจากหนังสายลับสุดดังอย่าง
เจมส์ บอนด์ โดยเฉพาะยุคอนาล็อคในสมัยฌอน คอนเนอรี หรือ โรเจอร์ มัวร์ รับบทพยัคฆ์ร้ายเจ้าเสน่ห์ในยุคที่ยังไม่มีสมาร์ตโฟนเครื่องเดียวทำได้ทุกอย่างเหมือนทุกวันนี้ ที่ทำให้เกิดแกตเจ็ตเท่ๆมากมายให้คนดูได้บริหารจินตนาการกันมากกว่าแค่จะกลายเป็นหนังขายของ SONY เหมือนหนังเจมส์ บอนด์ยุคหลัง ประหนึ่งจะบอกว่าความล้าสมัยคือความดีงามอย่างหนึ่งของคนอังกฤษอย่าไปตามโลกมันมากนักเลย ให้ภาพนอสทัลเจีย (Nostalgia) รำลึกอดีตอันหอมหวานของหนังสายลับกันแบบโต้งๆเลยทีเดียว
รีวิว Johnny English
และยิ่งไปกว่านั้นบทหนังเองยังมองเทคโนโลยีในแง่ร้ายแบบสุดขั้วจริงๆอย่างตัวผู้ร้ายเองก็แทบถอดแบบมาจาก มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก และใช้เทคโนโลยีบิ๊กดาต้าเป็นอาวุธสำคัญแทนที่นิวเคลียร์ในยุคสงครามเย็น และวางเดิมพันเป็นเสถียรภาพในการใช้อินเตอร์เน็ตของคนทั่วโลกก็ยิ่งให้ภาพเทคโนโลยีแบบดิสโทเปียชัดเจนมาก และยิ่งมีฉากที่ จอห์นนี อิงลิช ต้องมาใช้ VR ในการฝึกบุกรังผู้ร้ายแต่กลายเป็นการสร้างความวินาศให้ทางการไปเสียอีกเป็นการยืนยันอุดมการณ์ของหนังอย่างหนักแน่นอย่าลืมไปรับชมที่ ดูหนังฟรี
และที่นอกจากนี้ โรแวน แอตคินสัน มาเต๊ะท่าล้อเลียนเจมส์ บอนด์ แล้ว หนัง 2 ภาคหลังยังจงใจนำสาวบอนด์มาปรากฎตัวเพื่อให้เกิดภาพของการล้อเลียนชัดขึ้นไปอีก ในภาคที่แล้ว Reborn หนังได้ โรซามุนด์ ไพค์ จาก 007 Die Another Day (2002) มาแสดง ส่วนในภาค Strikes Again นี้หนังก็คว้า โอลกา คูริเลนโก จากเจมส์ บอนด์ภาค Quantum of Solace (2008) มารับบทสายลับรัสเซียสุดเซ็กซี่แบบที่เราเคยอยากเห็นเธอในหนังเจมส์ บอนด์แต่กลับผิดหวัง
ความรู้สึกหลังดู
ถ้าฉันไม่เคยเห็นการแสดงของ Blackadder และ Mr. Bean ฉันคงจะชอบหนังเรื่องนี้มากกว่านี้อีกหน่อย อย่างไรก็ตาม ฉันรู้ว่าโรวัน แอตกินสันสามารถเป็นคนตลกได้มากและเขาก็มีพรสวรรค์มากทีเดียว น่าเศร้าที่แอตกินสันมีอัจฉริยะด้านการแสดงตลกเพียงเล็กน้อยที่เห็นได้ชัดที่นี่ เนื่องจากภาพยนตร์สายลับเรื่องนี้มีความตลกขบขันที่กว้างและไร้สาระเป็นพิเศษ โดยไม่มีความซับซ้อนหรือความประณีตในผลงานอื่นๆ ของเขาเลย ตอนนี้สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับ Atkinson (โดยเฉพาะเด็ก ๆ ) นี่อาจเป็นการสละเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้มีความคาดหวังแบบเดียวกัน และนี่คือภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับครอบครัว แต่สำหรับคนอย่างฉันที่คาดหวังมากกว่านี้ ให้หลีกเลี่ยงหนังแนวราบที่น่าอัศจรรย์นี้ ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์
ฉันจะบอกว่าจอห์นนี่อิงลิชเป็นหย่อม ๆ แต่ก็สนุกและมีบางช่วงเวลาที่ตลกมาก สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ เตือนไว้ก่อน อย่าคาดหวังมากจากบทละคร มันง่ายมากๆ และเนื้อเรื่องก็คาดเดาได้ และหนังทั้งเรื่องก็งี่เง่ามาก และฉันไม่สามารถนับจำนวนฉากที่ฉันคิดว่างี่เง่าสุดๆ ได้ ฉันคิดว่าฉากราชาภิเษกนั้นเฮฮา มีสถานที่ดีๆ เอฟเฟกต์ดีๆ และฉากตลกหลายฉาก
การแสดงไม่คู่ควรกับรางวัลออสการ์ แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะสนุกกับตัวเอง Natalie Imbruglia ดูสง่างามและทำได้ดี Tim Piggott-Smith และ Oliver Ford-Davies แทบไม่ต้องทำอะไรเลย แต่พวกเขาก็ฉายแววในไม่กี่ฉากที่พวกเขาอยู่ได้ John Malkovich ทุ่มสุดตัวในฐานะวายร้ายของ Pascal Sauvage แต่การถือครองภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยกันคือ Rowan แอตกินสันในบทบาทที่ค่อนข้างไม่ซับซ้อนแต่สนุกสนานของ Johnny English และเขาได้เติมชีวิตชีวาให้กับภาพยนตร์ที่อาจน่าอายและน่าจดจำ แต่คุณค่าความบันเทิงที่แท้จริงของเขาทำให้การดูคุ้มค่า โดยรวมแล้ว ถ่อมตัวและไม่คู่ควรกับออสการ์อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่หนังที่แย่แต่อย่างใด 6/10 เบธานี ค็อกซ์
JOHNNY ENGLISH เป็นอีกหนึ่งการผจญภัยบนจอภาพยนตร์ที่น่าผิดหวังสำหรับโรวัน แอตกินสัน ต่อจากเรื่องที่มิสเตอร์บีนขาดความดแจ่มใสซึ่งไม่เคยแปลออกมาอย่างเหมาะสมในโรงหนังเลย โดยพื้นฐานแล้วสิ่งนี้เป็นการล้อเลียนบอนด์โดยแอตกินสันเล่นสายลับสุดยอดสไตล์บีนที่ไร้ความสามารถซึ่งต้องกอบกู้โลกจากผู้บงการอาชญากรด้วยแผนการไร้สาระ
จะเริ่มต้นที่ไหน? มีมุขตลกดีๆ สองสามเรื่องที่นี่ท่ามกลางโครงเรื่องที่ชัดเจนโดยทั่วไปซึ่งมีช่วงเวลาที่อ่อนแอและคร่ำครวญมากมายซึ่งไม่ควรรวมอยู่ด้วย แอตกินสันไม่เป็นไร แต่นาตาลี อิมบรูเกลียไม่ใช่นักแสดง และจอห์น มัลโควิชก็แหย่มันอย่างน่ากลัวในฐานะจอมวายร้ายของชั่วโมง มันเป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ และนั่นไม่ใช่ในทางที่ดี
จอห์นนี่ อิงลิช (โรแวน แอตกินสัน) เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองอังกฤษที่ไร้ความสามารถ เกิดเหตุระเบิดที่งานศพของ Agent One ที่สังหารหน่วยข่าวกรองทั้งหมด ปล่อยให้อังกฤษเป็นสายลับเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต มีแผนการที่จะขโมยมงกุฎเพชร ภาษาอังกฤษคือการปกป้องอัญมณี แต่เขาถูกลอร์นา แคมป์เบลล์ (นาตาลี อิมบรูเกลีย) ฟุ้งซ่าน เขาและเพื่อนสนิท Angus Bough (Ben Miller) สืบสวนและวางการปล้นไว้ที่เท้าของ Pascal Edward Sauvage (John Malkovich) ชาวฝรั่งเศส
ฉันแค่ไม่ได้หัวเราะ ส่วนหนึ่งอาจเป็นความรักของฉันที่มีต่อมิสเตอร์บีน เป็นเรื่องแปลกที่แอตกินสันพูดตามปกติ มีความพยายามบางอย่างในการกระทำหยอกล้ออย่างสนุกสนาน แต่ไม่มีสิ่งใดที่สูงกว่าการหัวเราะ Imbruglia ไม่ได้เพิ่มเติมอะไรมากไปกว่าสาวสวยที่แปลกประหลาด การล้อเลียนอย่างหยิ่งผยองเป็นสิ่งที่ต้องใช้ทักษะพิเศษซึ่งฉันไม่แน่ใจว่าผู้กำกับปีเตอร์ โฮวิตต์มี ถ้าไม่มีแอตกินสัน นี่จะเป็นซากรถไฟที่สมบูรณ์
Rowan Atkinson กำลังปลอมแปลงสายลับที่ไร้ความสามารถในชุดโฆษณาบัตรเครดิตในปี 1990 เมื่อมิสเตอร์บีนนำความสำเร็จและความมั่นคงทางการเงินมาสู่เขาทั่วโลก เขาจึงแยกทางเพื่อสร้างภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับสายลับที่ไร้ความสามารถ เขาพา Purvis & Wade ผู้เขียนภาพยนตร์เจมส์ บอนด์เรื่องล่าสุดหลายเรื่องมาด้วย
แรงบันดาลใจชัดเจนว่าสารวัตร Clouseau มากกว่า James Bond แม้ว่า จอห์นนี่ อิงลิช คือสายลับคนสุดท้ายที่ถูกทิ้งไว้เมื่อระเบิดที่งานศพสังหารสายลับที่มีความสามารถทั้งหมด เมื่อมงกุฎเพชรถูกขโมย ผู้ต้องสงสัยชาวอังกฤษชื่อปาสกาล โซวาจ (จอห์น มัลโควิช) ผู้ซึ่งเตรียมแผนขี้ขลาดเพื่อขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งบริเตนใหญ่ แอตกินสันแสดงให้เห็นในซีรีส์ Blackadder ว่าเขาสามารถแสดงตลกเยาะเย้ยถากถางได้ดีมาก กรวดเจ้าเล่ห์แบบนั้นหายไปที่นี่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ตลก ฉันไม่เคยหัวเราะสักครั้ง มันไร้สาระจริงๆ และทำได้ดีขึ้นกับคนที่ชอบของ Leslie Nielsen ในภาพยนตร์ The Naked Gun หรือ Mike Myers ในภาพยนตร์ Austin Powers
จอห์นนี่ อิงลิช (โรแวน แอตกินสัน) เป็นพนักงานราชการของหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ ผู้ใฝ่ฝันอยากจะเป็นสายลับที่มีเสน่ห์ ความฝันของเขาเป็นจริงเมื่อสายลับอังกฤษเสียชีวิต เนื่องจากขาดการรักษาความปลอดภัยในงานศพที่เขารับผิดชอบ Johnny English ด้วยการสนับสนุนจากผู้ช่วยของเขา Bough (Ben Miller) และ Lorna Campbell (Natalie Imbruglia)ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี
ต่อสู้กับ Pascal Sauvage (John Malkovitch) ที่ชั่วร้าย ชาวฝรั่งเศสผู้ทรงพลังที่ต้องการเป็นราชาแห่งสหราชอาณาจักรและเปลี่ยนอังกฤษใน คุกที่ยิ่งใหญ่สำหรับอาชญากรทุกคนในโลก เรื่องราวไร้สาระนี้เป็นเรื่องตลกล้อเลียนของภาพยนตร์ 007 Rowan Atkinson เป็นคนเฮฮามากตามปกติ และเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่หัวเราะด้วยความโง่เขลาของเขา นักร้องสาว นาตาลี อิมบรูเกลีย สวยมาก เบ็น มิลเลอร์ที่ไม่รู้จักเป็นผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพของจอห์นนี่ อิงลิช และจอห์น มัลโควิช ซึ่งมีสำเนียงภาษาฝรั่งเศสที่ไร้สาระ ได้เติมเต็มนักแสดงตลกของหนังตลกเรื่องนี้ โหวตของฉันคือเจ็ด
จนกลายเป็นว่า Johnny English Strikes Again กลับทำให้เราสมหวังแทนโดยนำ โอลกา มารับบทง่ายๆโชว์เสน่ห์ทั้งหน้าตาและหุ่นสุดเซ็กซี่ให้หนุ่มๆได้กระชุ่มกระชวยกันไปประหนึ่งหนังจะบอกกับผู้สร้างเจมส์ บอนด์ว่าคนดูไม่ได้ต้องการดูหนังบอนด์เครียดๆนะเว้ย เขาอยากได้อะไรเดิมๆกลับมาดูอีกครั้งต่างหาก
ก็เอาเป็นว่าใครคิดถึงมุกแบบมิสเตอร์บีนในมาดสายลับก็ไปดูเถอะรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ยิ่งใครเครียดๆนี่เรียกใช้บริการสายลับศูนย์ศูนย์ก๊ากของเราได้เลยรับรองหาย แต่อาจประสบปัญหากรามค้างแทนนะ ฮ่าาาา หนังมีปริมาณมุกฮาในระดับน่าพอใจ โรแวน แอตคินสัน ยังเชื่อมือได้ ออกมากี่มุก็ฮา ทำให้หายคิดถึงหนังสายลับแบบเจมส์ บอนด์ยุคเก่าได้หนังให้ภาพเทคโนโลยีเลวร้ายมาก บางมุกก็ดูอังกฤษมากเกินไป ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง
